สถาบันสอนทำอาหารชื่อดังสวิตเซอร์แลนด์ จัดอันดับ 10 เครื่องดื่มยอดนิยมที่สุดในโลก แชมป์เดาไม่ยาก ประวัติศาสตร์ยาวนาน 5,000 ปี
เครื่องดื่ม ไม่ได้มีหน้าที่แค่ดับกระหาย หรือให้พลังงานกับร่างกาย แต่ยังถ่ายทอดเรื่องราว จุดประกายบทสนทนา และเพิ่มรสชาติให้กับชีวิตประจำวัน ตั้งแต่สูตรคลาสสิกแสนอบอุ่นไปจนถึงเครื่องดื่มแปลกใหม่ที่น่าลอง ด้านล่างนี้คือโลกของเครื่องดื่มที่หลากหลาย พร้อมกลิ่นอายของประเพณีในแต่ละถ้วย
เครื่องดื่มยอดนิยมที่สุดในโลก
ข้อมูลจากเว็บไซต์ Culinary Arts Academy Switzerland สถาบันการเรียนการสอนเชิงศิลปะการประกอบอาหาร อันดับ 1 ของสวิตเซอร์แลนด์ และติดอันดับ Top 10 ของโลก
นี่คือรายชื่อเครื่องดื่มยอดนิยมทั่วโลก คัดเลือกจากอัตราการบริโภคระดับโลก ความผูกพันทางวัฒนธรรม และความสะดวกในการเข้าถึงหรือทำได้ง่าย
1. ชา (Tea)
รองจากน้ำเปล่า ชาคือเครื่องดื่มที่บริโภคมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก เพราะมีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ชาเขียวและชาดำจึงดีต่อสุขภาพ มีงานวิจัยมากมายที่ยืนยันว่า ช่วยลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ ความดันโลหิตสูง และเบาหวาน โดยเชื่อกันว่ามีต้นกำเนิดในประเทศอินเดียทางตะวันออกเฉียงเหนือ ประเทศพม่าตอนเหนือ และประเทศจีนทางตะวันตกเฉียงใต้และมีหลักฐานว่ามีการบริโภคชาในประเทศจีนมาตั้งแต่เมื่อ 5000 ปีก่อน
ชาดำ
2. กาแฟ (Coffee)
กาแฟคือเครื่องดื่มหลักของโลก โดยมีการดื่มมากกว่า 2 พันล้านถ้วยต่อวัน ฟินแลนด์ครองอันดับหนึ่งของการบริโภคต่อหัวเฉลี่ยราว 12 กิโลกรัมต่อคนต่อปี ในสวีเดน กาแฟเป็นส่วนหนึ่งของวัฒนธรรมที่เรียกว่า “Fika” หมายถึงการพักดื่มกาแฟพร้อมขนมอบ
กาแฟมักดื่มร่วมกับนมหรือครีมเพื่อลดรสขม แต่รสขมจากการคั่วเข้มแสดงถึงสารโพลีฟีนอลอย่าง “กรดคลอโรจีนิก” ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยลดความเครียดออกซิเดชันและลดความเสี่ยงโรคหัวใจและเบาหวานชนิดที่ 2 การเติมนมแม้จะทำให้รสนุ่มขึ้น แต่ก็อาจลดปริมาณโพลีฟีนอลที่ร่างกายดูดซึมได้ การดื่มกาแฟแบบไม่เติมนมหรือครีมจึงดีต่อสุขภาพมากกว่า
3. เบียร์ (Beer)
เบียร์ยังคงเป็นเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก โดยมีการบริโภคต่อหัวมากที่สุดในสาธารณรัฐเช็ก (152.1 ลิตรต่อคน) แม้จะเป็นที่นิยมในยุโรป เช่น เยอรมนีและไอร์แลนด์ แต่ตลาดเบียร์ที่ใหญ่ที่สุดคือ "จีน" ซึ่งคิดเป็น 75% ของการบริโภคเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทั้งหมด
เบียร์บางชนิด โดยเฉพาะเบียร์คราฟต์หรือแบบไม่กรอง มีวิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระเล็กน้อย ในอดีตเบียร์ถือเป็น “ขนมปังเหลว” และแคมเปญโฆษณาเก่าของ Guinness ก็เคยกล่าวว่า “Guinness is good for you” เพราะมีธาตุเหล็ก แม้จะไม่ใช่อาหารเพื่อสุขภาพโดยตรง แต่การดื่มเบียร์ในปริมาณเหมาะสมก็อาจมีประโยชน์เล็กน้อย
4. นม (Milk)
นมเป็นส่วนสำคัญของโภชนาการในหลายประเทศ โดยอินเดียบริโภคนมมากที่สุดถึง 89 ล้านตันในปี 2024 นมมีบทบาทหลากหลาย ทั้งดื่มเปล่า ๆ หรือใช้เป็นวัตถุดิบในการทำโยเกิร์ต เนย และชีส
ในโลกตะวันตก นมถูกมองว่าเป็นแหล่งของพลังและสุขภาพ โดยมีสารอาหารจำเป็นถึง 18 ชนิด เช่น แคลเซียม แมกนีเซียม และวิตามิน C ส่วนในเอเชีย มีอัตราแพ้น้ำตาลแลคโตสสูง โดยเฉพาะในชาวเอเชียตะวันออก (มากกว่า 90%) ทำให้หันไปบริโภคผลิตภัณฑ์นมหมักหรือนมจากพืชมากขึ้น
5. น้ำอัดลม (Soft Drinks)
เครื่องดื่มน้ำอัดลม เช่น โซดา มีการบริโภคเพิ่มขึ้น 16% ตั้งแต่ปี 1990 ประเทศที่บริโภคน้ำหวานมากที่สุดคือ เม็กซิโก รองลงมาคือ เอธิโอเปีย สหรัฐฯ และไนจีเรีย
ในเม็กซิโก การบริโภคน้ำหวานสูงส่วนหนึ่งเป็นเพราะน้ำดื่มสะอาดหายาก ทำให้เครื่องดื่มบรรจุขวดปลอดภัยกว่า โดยเฉพาะในรัฐเชียปัสที่โคคาโคลาหาง่ายกว่าน้ำสะอาด เอธิโอเปียเองก็มีแนวโน้มเช่นเดียวกัน โดยมีเพียง 23% ของครัวเรือนที่เข้าถึงน้ำดื่มสะอาด
แม้จะมีโซดาแบบไม่มีน้ำตาลให้เลือก แต่สารให้ความหวานเทียมก็อาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตและระบบประสาทได้ อย่างไรก็ตาม ความสะดวกและราคาถูกทำให้น้ำอัดลมยังคงได้รับความนิยมสูงทั่วโลก
6. ไวน์ (Wine)
ไวน์เป็นหนึ่งในเครื่องดื่มที่เก่าแก่ที่สุดในโลก แม้แนวโน้มการดื่มไวน์จะลดลง เพราะคนเริ่มลดการบริโภคแอลกอฮอล์ แต่ประเทศอย่างโปรตุเกส อิตาลี และฝรั่งเศสยังบริโภคไวน์ต่อหัวสูง เช่น โปรตุเกสเฉลี่ย 61.1 ลิตรต่อคนในปี 2024
งานวิจัยสมัยใหม่พบว่า ไวน์แดงในปริมาณพอเหมาะมีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น เรสเวอราทรอล ที่ดีต่อหัวใจและลดการอักเสบ อย่างไรก็ตาม การดื่มมากเกินไปเพิ่มความเสี่ยงโรคตับ มะเร็ง และโรคเรื้อรังต่าง ๆ
7. เครื่องดื่มชูกำลัง (Energy Drinks)
เครื่องดื่มชูกำลังเป็นที่นิยมในกลุ่มวัยรุ่นและคนทำงานที่ต้องการความตื่นตัว มีรายได้ทั่วโลกประมาณ 193 พันล้านดอลลาร์ในปี 2023
เครื่องดื่มเหล่านี้มักมีส่วนผสมของสมุนไพร เช่น โสม กัวรานา และสารสกัดชาเขียว ซึ่งมีคาเฟอีนธรรมชาติ แม้จะช่วยเพิ่มสมาธิและพลังงาน แต่การบริโภคเกินขนาดอาจทำให้เกิดปัญหาสุขภาพ เช่น หัวใจเต้นเร็ว ความดันสูง นอนไม่หลับ และเสพติดได้
8. น้ำผลไม้ (Juices)
น้ำผลไม้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น 21% ในปีที่ผ่านมา เพราะคนหันมาใส่ใจสุขภาพมากขึ้น แม้จะอร่อยและมีคุณค่าทางโภชนาการ แต่การคั้นน้ำทำให้เส้นใยอาหารหายไป ซึ่งมีผลต่อระดับน้ำตาลในเลือด
การบริโภคน้ำตาลในรูปของเหลว เช่น น้ำผลไม้ เพิ่มความเสี่ยงโรคเบาหวานมากกว่าการกินผลไม้สด ดังนั้น ควรดื่มในปริมาณพอเหมาะ และเลือกผลไม้ทั้งลูกจะดีกว่า
9. ค็อกเทล (Cocktails)
ค็อกเทลเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมในบาร์และงานสังสรรค์ โดยมีทั้งสูตรคลาสสิกและทันสมัย Martini มีต้นกำเนิดตั้งแต่ปลายศตวรรษที่ 19 และ Mojito มีรากฐานจากคิวบาในศตวรรษที่ 16 ซึ่งแต่ละสูตรมีประวัติและความนิยมต่างกันในแต่ละยุค
10. ช็อกโกแลตร้อน (Hot Chocolate)
ช็อกโกแลตร้อนเป็นเครื่องดื่มที่มีรากลึกทางประวัติศาสตร์ โดยเริ่มจากเมโสอเมริกาในรูปแบบดั้งเดิมคือดื่มโกโก้รสขมผสมเครื่องเทศ ปัจจุบันมีหลากหลายรูปแบบ เช่น ช็อกโกแลตร้อนเข้มข้นแบบอิตาเลียน หรือสูตรแบบเม็กซิกันที่เรียกว่า “Champurrado” ตลาดช็อกโกแลตร้อนทั่วโลกคาดว่าจะมีมูลค่าถึง 30 พันล้านดอลลาร์ในปี 2034