5 สัญญาณบนผิวหนัง เตือนว่า "ตับ" เริ่มเสื่อม ตรงแค่ข้อเดียวก็อย่ามองข้าม รีบไปพบแพทย์ก่อนสายเกิน
ตามคำกล่าวของ ดร. Saurabh Sethi แพทย์ผู้เชี่ยวชาญโรคตับซึ่งได้รับการฝึกอบรมจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (สหรัฐฯ) สัญญาณผิดปกติบนผิวหนังอาจบ่งบอกว่าตับเริ่มได้รับความเสียหาย สิ่งสำคัญคือคนเราควรสังเกตและพบแพทย์อย่างทันท่วงทีเพื่อปกป้องการทำงานของตับ
โรคตับมักจะดำเนินไปอย่างเงียบ ๆ โดยไม่มีอาการในช่วงแรก แต่ผิวหนังอาจเป็นตัวบ่งชี้เตือนคุณก่อนที่จะสายเกินไป
5 สัญญาณบนผิวหนังที่เตือนโรคตับในระยะแรก
1.ตัวเหลือง
ตัวเหลืองเป็นสัญญาณเริ่มต้นที่พบบ่อยที่สุดของโรคตับ ผิวหนังและตาขาวเปลี่ยนเป็นสีเหลือง เนื่องจากตับไม่สามารถกำจัดบิลิรูบิน (สารสีเหลืองที่เกิดจากการสลายของเม็ดเลือดแดง) ได้อย่างถูกต้อง ทำให้สารนี้สะสมในเลือดและเนื้อเยื่อ
ดร. Sethi เน้นว่าเมื่อเห็นตัวเหลืองควรรีบพบแพทย์ทันที เพราะอาจเป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคตับอักเสบหรือตันของท่อน้ำดี
2.เส้นเลือดฝอยคล้ายใยแมงมุม (Spider Angioma)
เป็นกลุ่มเส้นเลือดแดงขยายตัวคล้ายใยแมงมุม มักพบที่ใบหน้า คอ แขน หรือหน้าอก เกิดจากระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนสูงขึ้นเมื่อการทำงานของตับผิดปกติ
ถ้าเส้นเลือดฝอยเหล่านี้ปรากฏจำนวนมาก อาจเป็นสัญญาณของโรคตับแข็ง หรือโรคตับเรื้อรังอื่นๆ รวมถึงในผู้ที่มีปัญหาตับจากแอลกอฮอล์หรือไวรัสตับอักเสบ
Verywell health เส้นเลือดฝอยคล้ายใยแมงมุม
3.ฝ่ามือแดง
ฝ่ามือโดยเฉพาะบริเวณโคนนิ้วหัวแม่มือและนิ้วก้อยแดง อาจเกิดจากการเปลี่ยนแปลงการไหลเวียนของเลือดและสมดุลฮอร์โมนที่ผิดปกติเมื่อการทำงานของตับลดลง
สัญญาณนี้มักถูกเข้าใจผิดว่าเป็นการระคายเคืองหรือถูกความร้อน แต่ถ้าไม่มีสาเหตุชัดเจน ควรระวังเกี่ยวกับโรคตับ โดยมักพบในผู้ป่วยตับแข็ง ตับอักเสบจากไขมันสะสม หรือโรคตับอักเสบจากภูมิต้านตนเอง
4.อาการคัน
อาการคันผิวหนัง โดยเฉพาะคันมากในเวลากลางคืนโดยไม่มีผื่น อาจบ่งบอกถึงปัญหาการทำงานของตับ เกิดจากการสะสมของกรดน้ำดีในเลือด เช่นในภาวะน้ำดีคั่งหรือโรคทางเดินน้ำดีอักเสบเรื้อรัง เป็นสัญญาณของโรคตับระยะแรก ผู้ป่วยมักมีอาการคันที่มือและเท้า
5.ผิวคล้ำผิดปกติ
ผิวหนังเปลี่ยนเป็นสีเข้มหรือมีรอยคล้ำไม่สม่ำเสมอ โดยเฉพาะรอบดวงตา ปาก หรือรักแร้ อาจพบในผู้ป่วยโรคตับเรื้อรัง เกิดจากความไม่สมดุลของฮอร์โมน ภาวะดื้อต่ออินซูลิน หรือการเพิ่มเมลานินที่สัมพันธ์กับความผิดปกติของตับ
พบในโรคที่เกี่ยวกับตับ เช่น โรคธาตุเหล็กเกิน ตับอักเสบจากภูมิต้านตนเอง และโรคตับอักเสบไขมันที่ไม่เกี่ยวกับแอลกอฮอล์ (NASH)
ควรไปพบแพทย์เมื่อใด?
แม้อาการเหล่านี้อาจดูเล็กน้อย แต่เป็นสัญญาณเริ่มต้นของโรคตับที่ไม่ควรละเลย หากพบอาการใดอาการหนึ่งโดยเฉพาะถ้าเป็นนาน ควรรีบพบแพทย์ทันที
นอกจากนี้ แนะนำให้ดูแลสุขภาพตับด้วยการรับประทานอาหารที่สมดุล ลดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ และตรวจสุขภาพตับเป็นระยะโดยการตรวจเลือดและภาพถ่ายทางการแพทย์ตามคำแนะนำแพทย์เพื่อป้องกันและรักษาโรคตับอย่างมีประสิทธิภาพ