ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา กระแสฟีเวอร์ของเล่นสะสม “Blind Box” จากบริษัท Bubble Mart ของจีน กลับมาร้อนแรงอีกครั้ง หลังจากการเปิดตัวซีรีส์ใหม่ “Molly Dream Voyage” ซึ่งยังไม่ทันวางจำหน่ายในร้านค้าอย่างเป็นทางการ แต่กลับถูกปล่อยรูปหลุดและรายการจองล่วงหน้าบนแพลตฟอร์มออนไลน์ จนราคาซื้อขายในตลาดมืดพุ่งสูงถึง 800 หยวนต่อชิ้น ทั้งที่ราคาเปิดตัวจริงเพียง 79 หยวน
ผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดอธิบายว่า กลยุทธ์ “Blind Box” ที่ไม่เปิดเผยว่าภายในกล่องมีตัวละครใด ทำให้ผู้บริโภคเกิดแรงจูงใจซื้อซ้ำและสะสมเพื่อให้ครบเซ็ต แต่ผลลัพธ์คือการสร้างพื้นที่ให้เกิดการเก็งกำไร โดยเฉพาะตัวละครหายาก (Rare Edition) ที่ถูกตั้งราคาสูงเกินจริง บางกรณีราคาทะลุ 5,000 หยวน ในโซเชียลมีเดียจีน มีผู้ใช้จำนวนมากโพสต์ภาพใบจองและการเจรจาซื้อขายในกลุ่มสะสม ทำให้เกิดการถกเถียงอย่างดุเดือด
หลายคนมองว่า Bubble Mart กำลังสร้าง “วัฒนธรรมการพนันในรูปแบบใหม่” เพราะผู้ซื้อไม่ต่างอะไรจากการเสี่ยงโชค บางคนใช้เงินเดือนทั้งเดือนเพื่อซื้อกล่องจำนวนมากโดยหวังว่าจะได้ Rare Edition สื่อบางสำนักถึงขั้นเปรียบปรากฏการณ์นี้กับ “ฟองสบู่เก็งกำไรคริปโต” เพียงแต่ย้ายสนามมายังวงการของเล่นสะสม ขณะที่นักเศรษฐศาสตร์บางรายเตือนว่า หากตลาดนี้เติบโตอย่างไร้การควบคุม อาจทำให้เกิดการสะสมหนี้ครัวเรือนและพฤติกรรมเสพติดการจับจ่ายในหมู่คนรุ่นใหม่
ด้านบริษัท Bubble Mart เองออกแถลงการณ์ระบุว่า บริษัทไม่สนับสนุนการขายเก็งกำไร และเตือนผู้บริโภคให้ซื้อจากช่องทางทางการเท่านั้น อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายมองว่ากลยุทธ์การผลิตจำนวนจำกัดและการปล่อย Rare Edition เองก็คือการสร้างความขาดแคลมเทียมเพื่อผลักดันราคา เสียงสะท้อนจากสังคมแตกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งมองว่านี่คือความบันเทิงและการสะสมเชิงศิลปะ ผู้ซื้อมีสิทธิใช้เงินของตนเองตามความพอใจ
ขณะที่อีกฝ่ายกังวลว่านี่คือ “การเสพติดเชิงบริโภค” ที่อาจกลายเป็นปัญหาสังคมในอนาคต การถกเถียงนี้ยังโยงไปถึงพฤติกรรมการบริโภคของคนรุ่นใหม่ในเมืองจีน ที่นิยม “การบริโภคเพื่อความสุขทันที” (Instant Gratification) แม้ต้องแลกมากับต้นทุนสูงก็ตาม นักวัฒนธรรมศึกษาอธิบายว่า ปรากฏการณ์ Bubble Mart เป็นกระจกสะท้อนความกังวลและแรงกดดันในสังคมเมือง ที่ทำให้ผู้คนหันไปหาความสุขเล็ก ๆ น้อย ๆ ผ่านการสะสมสิ่งของ แม้จะเต็มไปด้วยเสียงวิพากษ์ แต่ไม่อาจปฏิเสธได้ว่าปรากฏการณ์ Bubble Mart กำลังกลายเป็นส่วนหนึ่งของเศรษฐกิจวัฒนธรรมใหม่ในจีน และยังคงสร้างแรงสั่นสะเทือนทั้งในตลาดการค้าและในเชิงสังคม