Intel เปิดตัวการ์ดจอรุ่นใหม่ในซีรีส์ Battlemage รุ่น Arc B580 และ Arc B570 โดยใช้สถาปัตยกรรม Xe2 Battlemage แบบเดียวกับชิป Intel Lunar Lake แต่เพิ่มจำนวนคอร์กราฟิก และใช้หน่วยความจำแบบ GDDR6 สูงสุดถึง 12GB เจาะตลาดตั้งแต่ระดับเริ่มต้นถึงระดับกลาง มาพร้อมเทคโนโลยี XeSS AI Upscaling แบบเดียวกับ NVIDIA DLSS และ AMD FSR โดย Intel อ้างว่า Arc B580 มีประสิทธิภาพเหนือกว่า NVIDIA RTX 4060 ในราคาสบายกระเป๋า เริ่มต้น $219 (ประมาณ 7,500 บาท) ตอบโจทย์คอเกมที่อยากได้การ์ดจอที่ราคาคุ้มค่า
สเปค Intel Arc B580
- ชิป BGM-G21 มี Xe2-Core 20 คอร์ Clock Speed 2.67 GHz
- VRAM 12GB GDDR6
- TBP (Total Board Power) 190W
- PCIe 4.0×8 DisplayPort 2.1
- ราคา $249 ประมาณ 8,500 บ.
- เริ่มวางขาย 13 ธ.ค. 2024
สเปค Intel Arc B570
- ชิป BGM-G21 มี Xe2-Core 18 คอร์ Clock Speed 2.6 GHz
- VRAM 10GB GDDR6
- TBP (Total Board Power) 150W
- PCIe 4.0×8 DisplayPort 2.1
- ราคา $219 ประมาณ 7,500 บ.
- เริ่มวางขาย 16 ม.ค. 2025
ด้านความแรง Intel เคลมว่า Arc B580 แรงกว่า Arc A750 การ์ดจอรุ่นที่แล้วเฉลี่ย 24% ที่ความละเอียด 1440p ส่วนถ้าเทียบกับ GeForce RTX 4060 เจ้าตลาด จะมีพลังดิบแรงกว่า 32% Ray-Tracing แรงกว่า 25% และมี VRAM เยอะกว่า โดย B580 มี VRAM 12 GB ส่วน RTX 4060 มี 8 GB ทำให้การเล่นเกมที่ใช้ VRAM เยอะมีความได้เปรียบกว่า
Intel Arc B580 | Intel Arc B570 | Nvidia GeForce RTX 4060 | |
ราคาเปิดตัว | $249 | $219 | $299 |
VRAM | 12GB GDDR6 | 10GB GDDR6 | 8GB GDDR6 |
Ray Tracing | รองรับ | รองรับ | รองรับ |
AI Upscaling | XeSS 2 | XeSS 2 | DLSS 3 |
ถูกออกแบบมาเพื่อ | เล่นเกม 1080p | เล่นเกม 1080p | เล่นเกม 1080p |
การใช้พลังงาน (TBP) | 190W | 150W | 115W |
เปิดตัว XeSS 2 และ XeSS Frame Generation
นอกจากนี้ยังได้เปิดตัวเทคโนโลยี XeSS 2 และ XeSS-FG ด้วย โดย XeSS2 นั้นพัฒนามาจาก XeSS เทคโนโลยี Super Resolution สำหรับอัปสเกลภาพในเกมด้วย AI ที่มีมาแต่การ์ดจอเจนแรกแล้ว และ Frame Generation สำหรับเพิ่มเฟรมเรตในเกมแบบเดียวกับ NVIDIA DLSS และ AMD FSR ฟีเจอร์นี้ใช้การประมวลผลผ่าน XMX AI ซึ่งช่วยเพิ่มเฟรมเรตในเกมได้ 2.8-3.9 เท่า เมื่อทดสอบบนการ์ดจอ Arc B580
แน่นอนว่าการใช้เทคโนโลยี Frame Gen นั้นทำให้ Latency ในระบบเพิ่มขึ้นมหาศาล เพราะเป็นการแทรกเฟรมเข้าไปเพิ่ม Intel เลยเปิดตัวเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้ร่วมกันอย่าง XeSS Low Latency สำหรับลดความหน่วงของภาพในเกม (คล้ายกับ NVIDIA Reflex และ AMD Anti-Lag) ทำให้ลดความหน่วงลงเหลือเท่ากับตอนที่ยังไม่ได้เปิด Frame Gen
ตอนนี้เกมที่จะรองรับ XeSS 2 ได้แก่ Assassin’s Creed Shadows, Dying Light 2 และ Robocop: Rogue City แต่ฟีเจอร์ XeSS 2 จะรองรับเฉพาะการ์ดจอซีรีส์ Battlemage และ Alchemist เท่านั้น
เปิดตัวไดร์เวอร์ใหม่ Intel Graphics Software ใช้แทน Arc Control
และสุดท้ายกับไดร์เวอร์ใหม่ Intel Graphics Software ที่ออกมาแทน Arc Control โดยเป็นการรวมฟังก์ชันเอาแบบครบจบในที่เดียว สำหรับควบคุมการตั้งค่ากราฟิก การอัปเดตไดรเวอร์ การโอเวอร์คล็อก และการปรับแต่งการแสดงผล บอกเลยว่าทำหน้าตา UI ออกมาดูดี ดูใช้ง่ายกว่าเดิมเยอะ
ฟีเจอร์สำคัญ
- ปรับแต่งกราฟิก: ตั้งค่ารายละเอียด เช่น การเพิ่มความคมชัด การกรองภาพ และการซิงค์เฟรม
- ตั้งค่าการแสดงผล: ปรับอัตรารีเฟรช สีหน้าจอ โหมดสเกล และการประหยัดพลังงาน
- การมอนิเตอร์ประสิทธิภาพ: ตรวจสอบ FPS, การใช้หน่วยความจำ, อุณหภูมิ, และแรงดันไฟ
- โอเวอร์คล็อก: เพิ่มประสิทธิภาพโดยการปรับแต่ง VRAM, ความเร็วสัญญาณนาฬิกา, แรงดันไฟ, และการควบคุมพัดลม
- เปิดโหมด Low Latency Mode ของ XeSS
Intel Graphics Software คาดว่าจะเปิดตัวพร้อมกับ Arc B580 ในเดือนธันวาคม 2024 ซึ่งถือเป็นการเปลี่ยนผ่านสำคัญของ Intel ในการยกระดับประสบการณ์การเล่นเกม
อย่างไรก็ตาม สำหรับเกมเมอร์ชาวไทยอาจต้องรอการประกาศราคาจำหน่ายอย่างเป็นทางการของ Intel Arc B-Series ในประเทศอีกครั้ง แต่หากราคาตั้งอยู่ใกล้เคียงกับระดับ 10,000 บาท อาจเป็นความท้าทายสำหรับ Intel ในการดึงดูดผู้ใช้ เพราะ RTX 4060 ซึ่งเป็นเจ้าตลาดในช่วงราคานี้ ด้วยจุดแข็งเรื่องของไดรเวอร์ที่เสถียรมากกว่า ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญสำหรับเกมเมอร์ที่ต้องการประสบการณ์การเล่นเกมที่ลื่นไหลและปราศจากปัญหา