REVIEW | รีวิวจับเครื่องจริง HUAWEI Pura X จอพับลูกผสม มีกล้องเทเลโฟโต้ ระบบปฎิบัติการ HarmonyOS Next เวอร์ชันล่าสุด

สมาร์ทโฟนจอพับรุ่นใหม่ล่าสุดจาก HUAWEI ที่เพิ่งเปิดตัวในประเทศจีนไปเมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา HUAWEI Pura X สมาร์ทโฟนจอพับดีไซน์ใหม่ ชูจุดเด่นด้วยหน้าจออัตราส่วน 16:10 พร้อมชุดกล้องครบทุกระยะมีเลนส์เทเลโฟโต้ และทำงานบนระบบปฎิบัติการใหม่ HarmonyOS Next รุ่นล่าสุด ใช้งานจริงจะเป็นยังไง น่าสนใจมากแค่ไหน ไปดูกันเลย!

ดีไซน์รอบตัวเครื่องของ HUAWEI Pura X

สัมผัสแรกกับ HUAWEI Pura X สีเทา Moon Shadow Gray ที่เราได้มานั้นต้องบอกว่าน่าประทับใจพอสมควรเลยครับ ฝาหลังกระจกสีเทาตัดกับขอบตัวเครื่องสีทอง Rose Gold ตัวขอบเครื่องมีความโค้งมนรับกับฝ่ามือของเราได้เป็นอย่างดี ให้ความรู้สึกหรูหราพรีเมียมสมกับการเป็นสมาร์ทโฟนเรือธงอีกหนึ่งรุ่น แต่ด้วยความที่เลือกใช้เป็นวัสดุกระจก การใช้งานแบบไม่ใส่เคสเลยอาจจะต้องระวังเรื่องของรอยนิ้วมือที่เกิดขึ้นได้ง่ายพอสมควร

ตัวเครื่องมีน้ำหนักอยู่ที่ 195.9 กรัม (น้ำหนักของรุ่นที่เป็นฝาหลังกระจก) และความหนาเมื่อพับหน้าจอ 15.1 มม. ส่วนความบางเมื่อกางจอจะอยู่ที่ 7.15 มม. เท่านั้น ด้วยน้ำหนักที่เบาและขนาดเมื่อพับที่กะทัดรัดเทียบเท่ามือถือจอพับแบบ Flip ทำให้การพกพาและการถือใช้งานในชีวิตประจำวันทำออกมาได้ดีพอสมควรเลยครับ

บาง 7.15 มม. (เมื่อกางจอ)

หนา 15.1 มม. (เมื่อพับหน้าจอ)

HUAWEI เคลมว่า Pura X เลือกใช้วัสดุเหล็กกล้าความแข็งแรงสูงสำหรับบานพับดีไซน์แบบหยดน้ำของตัวเครื่อง จากการทดลองใช้งานจริงก็รู้สึกได้เลยว่าบานพับมีความฝืดในระดับที่กำลังดี ให้ความรู้สึกมั่นคงแข็งแรง สามารถกางจอค้างไว้ในองศาต่างๆ ได้แบบมั่นคงโอเคเลย ไม่มีอาการจอโยกให้เห็น แต่มีข้อสังเกตหลักหนึ่งอย่างคือ ถ้าเรากางจอจนเกินมุม 90 องศาไปแล้ว บานพับจะถูกดีดเพื่อกางออกหรือพับเข้าจนสุดโดยอัตโนมัติไปเลย

หน้าจอแสดงผลของ HUAWEI Pura X

HUAWEI Pura X มีจุดเด่นอย่าง อัตราส่วนหน้าจอแบบ 16:10 ที่ทำให้มีพื้นที่แสดงผลมากกว่าหน้าจอที่มีอัตราส่วน 16:9 แบบเห็นได้ชัด แทนที่จะกางออกมาเป็นทรงแท่งยาวเหมือนมือถือจอพับไซซ์เล็กทั่วไป แต่มีขนาดที่คล้ายกับแท็บเล็ตไซซ์เล็ก หรือ iPad mini ประมาณนั้นครับ นอกจากนั้นแล้วจอแสดงผลยังเลือกใช้เป็นพาแนล LTPO OLED 2.0 ขนาด 6.3 นิ้ว ซึ่งรองรับอัตรารีเฟรชเรต 1-120Hz และความสว่างสูงสุดถึง 2,500 นิต

ด้วยพื้นที่จอที่กว้างขึ้น การอ่าน E-Book อ่านข้อความหรือท่องเว็บไซต์ก็สบายตา และเต็มตามากขึ้น ตัวหนังสือและคอนเทนต์ไม่บีบอัดกันจนเกินไป ส่วนการชมวิดีโอหรือซีรีส์ที่ส่วนใหญ่เป็นอัตราส่วน 16:9 ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะขอบดำบน-ล่างมีขนาดเล็กอยู่พอสมควร และถ้าอยากขยายภาพให้เต็มจอส่วนที่ถูกครอปด้านข้างออกไปก็ถือว่าน้อยมากครับ

จอแสดงผลด้านนอก ถึงแม้จะไม่ได้มีขนาดที่ใหญ่ตระการตาสุดลูกหูลูกตา แต่หน้าจออัตราส่วน 1:1 ในขนาด 3.5 นิ้ว ก็นับว่าเพียงพอกับการใช้งานทั่วไปแล้ว เพราะสเปคจอที่ได้มาก็ไม่ใช่เล่นๆ ตั้งแต่พาแนลที่เลือกใช้เป็น LTPO OLED 2.0 เช่นเดียวกับจอแสดงผลหลัก รองรับอัตรารีเฟรช 1-120Hz และความสว่างหน้าจอสูงสุด 2,500 นิต การใช้งานทั่วไป เช่น การดูแจ้งเตือน, ตอบข้อความสั้นๆ หรือควบคุมเพลง ก็ทำได้แบบสะดวก

ตามสูตรปกติของสมาร์ทโฟนจอพับที่เรามักจะเห็นกันเป็นประจำครับ เราสามารถใช้จอนอกเป็นจอพรีวิวเพื่อถ่ายเซลฟี่ด้วยกล้องหลังได้แบบครบๆ ทั้งโหมดภาพนิ่ง, ภาพบุคคล และการถ่ายวิดีโอ แต่ข้อจำกัดก็คือมักจะเจอปัญหาที่ไม่สามารถใช้วิธีกางหน้าจอแบบ Tent ได้ เพราะในบางจังหวะหากเรากางหน้าจอเพียงแค่นิดเดียว ระบบจะทำการสลับให้เราไปใช้งานกล้องด้วยหน้าจอด้านในโดยทันที ดังนั้นต้องคอยกะจังหวะหรือองศาในการการหน้าจอให้พอดี

แอปพลิเคชันพื้นฐานที่รองรับอย่าง Web Browser, Maps, Music, TikTok, Weibo ไปจนถึงแอปพลิเคชันที่ถูกออกแบบมาให้รองรับการใช้งานบน HUAWEI Pura X โดยเฉพาะ ก็ใช้งานบนจอนอกได้แบบไม่มีปัญหา แต่ถ้าสังเกตุดีๆ แอปที่ไล่ชื่อมานั้นจะมีเฉพาะแอปพลิเคชันของทางฝั่งจีนหรือแอปที่ HUAWEI รับรองทั้งหมดเลย เราไม่สามารถนำแอปที่โหลดมาเพิ่ม หรือ GMS จากทาง Google มาเปิดใช้บนหน้าจอแสดงผลด้านนอกได้

HarmonyOS NEXT 5.0.1 ใช้งานจริงแอบลำบากไปสักหน่อย

มาถึงคำถามที่เชื่อว่าผู้อ่านหลายๆ คน (รวมถึงตัวผู้เขียนด้วย) อยากรู้มากที่สุดนั่นก็คือ HarmonyOS Next ใช้งานจริงเป็นยังไง ติดตั้งแอปของ Google ได้มั้ย หรือจะเป็นแอปพลิเคชันอื่นๆ อย่าง แอปธนาคาร คำตอบคือ ติดตั้งได้แต่มีขั้นตอนที่ซับซ้อนและมีข้อจำกัดอยู่หลายอย่าง เนื่องจากตัวระบบปฎิบัติการได้มีการปรับโครงสร้างใหม่ทั้งหมด และเป็นการตัดขาดจาก Android อย่างสมบูรณ์แบบ นอกจากนั้นก็ยังไม่สามารถติดตั้งแอปพลิเคชันไฟล์ APK ได้โดยตรงอีกด้วย

แต่ก็ยังพอจะมีทางออกอยู่บ้างครับ จากที่ได้ทดลองใช้งาน Pura X มานั้น ทำให้เจอวิธีว่าเรายังสามารถติดตั้งแอปพลิเคชันของ Google ได้อยู่ โดยแอปพลิเคชันเสริมที่ทำให้เราสามารถใช้งานแอปพลิเคชันพื้นฐานหลายๆ ตัวเพิ่มเติมได้นั่นก็คือ EasyAbroad และ DroiTong ซึ่งจะต้องทำการโหลดผ่าน AppGallery อีกทีหนึ่ง

ไม่มี GBox ใน AppGallery

EasyAbroad

พูดง่ายๆ เลยคือ EasyAbroad จะเป็นเหมือน Emulator ที่รวมแอปพลิเคชันของ Google และแอปพลิเคชันซึ่งไม่มีอยู่บน AppGallery ของ HarmonyOS Next เวอร์ชันล่าสุดไว้ทั้งหมด ให้เราสามารถดาวน์โหลดมาใช้งานผ่านตัวของมันได้โดยตรงครับ ไม่ว่าจะเป็น Chrome, Google Maps, Gmail, Drive ไปจนถึงแอปพลิเคชันสำหรับความบันเทิงอย่าง YouTube, TikTok, Facebook และ Instgram ก็สามารถใช้งานและ Login ผ่าน EasyAbroad ได้เลยครับ

และถ้าต้องการแอปพลิเคชันไหนเพิ่มเติม เราก็สามารถค้นหาเพิ่มเติมบน EasyAbroad ได้เลย แต่อาจจะไม่ได้มีครอบคลุมทั้งหมดนะ เพราะด้วยข้อจำกัดหลายๆ อย่าง ดังนั้นถ้าหากเราต้องการติดตั้งแอปพลิเคชันอะไรเพิ่มเติมในรูปแบบของไฟล์ APK จะต้องทำการติดตั้งผ่าน DroiTong อีกทีหนึ่ง โดยจะมีขั้นตอนหลักๆ ประมาณนี้

• ค้นหาไฟล์ APK ที่ต้องการบน Chrome ด้วย EasyAbroad
• หลังจากโหลดไฟล์ APK มาแล้ว ให้เราทำการเปิดแอป FileTransfer ที่ติดตั้งมาพร้อมกับ DroiTong
• จากนั้นให้เลื่อนหาไฟล์ APK ที่เราดาวน์โหลดมา และกดติดตั้งได้เลย
• แอปพลิเคชันที่ติดตั้งเสร็จแล้วจะถูกเพิ่มเข้าไปในโฟลเดอร์ของ DroiTong อีกทีหนึ่ง

การใช้งาน HarmonyOS Next ในปัจจุบันค่อนข้างที่จะมีขั้นตอนที่ซับซ้อนพอสมควรครับ โดยเฉพาะในกรณีที่เราต้องการติดตั้งแอปพลิเคชันของ Google หรือแอปอื่นๆ ที่ไม่มีให้ดาวน์โหลดใน AppGallery นอกจากนั้นข้อจำกัดอีกหนึ่งอย่างก็คือ แอปพลิเคชันที่เราใช้งานผ่าน EasyAbroad หรือ DroiTong จะไม่สามารถแสดงการแจ้งเตือนได้ตามปกติ

PUBG Mobile ที่โหลดผ่านการติดตั้งไฟล์ APK

การใช้งานจอนอก จอในและการแบ่งหน้าจอ

ส่วนการใช้งานอื่นๆ เช่น UX และ UI ไปจนถึงการทำงานแบบ Multitask ก็สามารถใช้งานได้แบบลื่นไหลตามปกติ แต่ความลื่นไหลที่ว่านี้ก็ยังคงมีข้อจำกัดเล็กๆ น้อยๆ ที่เราเจอผ่านการใช้งานบน Pura X อยู่พอสมควรไม่ว่าจะเป็น

• การใช้งานแบ่งหน้าจอยังไม่อิสระมากเท่าไหร่ เช่น บางแอปพลิเคชันรองรับแค่การเปิดแบบ Pop-up View เท่านั้น หรือบางแอปก็รองรับแค่การใช้งานแบ่ง 2 หน้าจอ และบางแอปก็ไม่รองรับทั้งสองอย่าง ทำให้ประสบการณ์การใช้งานในส่วนนี้ยังไม่ต่อเนื่องเท่าที่ควร
• แป้นพิมพ์ Celia Keyboard ของระบบสามารถเพิ่มภาษาไทยได้ แต่การเปลี่ยนภาษาเราจะต้องกดที่สัญลักษณ์ ลูกโลก ค้างไว้เท่านั้น เพราะถ้ากดแค่ครั้งเดียวจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น
• แอปบางรายการไม่สามารถใช้งานในแนวนอนได้กับจอแสดงผลด้านใน ทำให้การใช้งานแอปพลิเคชันบนจอนอก แล้วจะกางหน้าจอเพื่อใช้งานต่อจะสะดุดอยู่พอสมควรครับ

ทั้งนี้ต้องย้ำกันอีกครั้งนะครับว่า Pura X เครื่องที่เรานำมารีวิวในวันนี้เป็นรอมจีนแบบ 100% ซึ่งทำออกมาเพื่อวางขายในประเทศจีนโดยเฉพาะ ทำให้ข้อจำกัดในเรื่องของการติดตั้งแอปพลิเคชันนั้นต้องเป็นไปตามมาตรการของประเทศจีนเป็นหลัก ทั้งนี้เราต้องมารอดูกันต่อไปว่าเมื่อ HUAWEI จะเริ่มนำ HarmonyOS Next ออกมาทำตลาดในระดับ Global ก็อาจจะมีนักพัฒนาและแอปพลิเคชันที่รองรับเพิ่มขึ้นมากกว่านี้ในอนาคตก็เป็นได้

ชุดกล้องหลังครบทุกระยะ เทเลโฟโต้ 3.5 เท่า

จุดเด่นที่หาได้ยากบนมือถือจอพับไซซ์เล็กก็คือชุดกล้องที่ไม่ครบทุกระยะ แต่ HUAWEI Pura X มาพร้อมกับกล้องหลังถึง 3 ตัว ระบบ XMAGE บวกกับเซนเซอร์อัลตราโครมาอีกหนึ่งตัว ประกอบไปด้วยกล้องหลักความละเอียด 50MP เซนเซอร์ RYYB (f/1.6) กล้องอัลตราไวด์ความละเอียด 40MP เซนเซอร์ RYYB (f/2.2) และกล้องเทเลโฟโต้ความละเอียด 8MP ออปติคัลซูม 3.5 เท่า (f/2.4) ซูมดิจิทัลสูงสุด 30 เท่า

ภาพถ่ายที่มาจากเซนเซอร์หลักความละเอียด 50MP ให้สีสันที่สวยงามเป็นธรรมชาติ ไม่ได้มีการเพิ่ม Saturation ที่มากจนเกินไปครับ รายละเอียดของภาพคมชัด เก็บครบในทุกดีเทล พร้อมกันนั้นเรายังสามารถเลือกโปรไฟล์สีของรูปภาพตามต้องการได้เพิ่มเติมอีก 3 แบบนอกจาก Original นั่นก็คือ Vivid, Bright และ Mono

ตัวอย่างภาพถ่ายจากกล้องหลัง HUAWEI Pura X

สามารถใช้โหมด Dual Preview เพื่อสะท้อนภาพพรีวิวผ่านจอแสดงผลด้านนอกให้เพื่อนหรือคนที่เราถ่ายรูปให้ สามารถเห็นท่าโพสและเฟรมภาพได้โดยทันที หรือจะตั้งกับโต๊ะเพื่อพับหน้าจอเซลฟี่ด้วยกล้องหน้าความละเอียด 10.7 MP ก็ทำได้

ตัวอย่างภาพถ่ายบุคคลจากกล้องหลัง HUAWEI Pura X

สเปค HUAWEI Pura X

• จอภายใน : LTPO 2.0 (อัตราส่วน 16:10)
  • ความละเอียด 2,120 x 1,320 พิกเซล
  • สว่างสูงสุด 2,500 นิต
  • อัตรารีเฟรชเรท 1-120Hz
  • รองรับ HDR Vivid
• จอภายนอก : LTPO 2.0 (อัตราส่วน 1:1)
  • ความละเอียด 980 x 980 พิกเซล
  • สว่างสูงสุด 2,500 นิต
  • อัตรารีเฟรชเรท 1-120Hz
  • รองรับ HDR Vivid
• ชิปเซต : Kirin 9020
• RAM : 12GB
• Storage : 256GB/ 512GB
• กล้องหลัง
  • กล้องหลัก : ความละเอียด 50MP (f/1.6) OIS
  • กล้องอัลตราไวด์ : ความละเอียด 40MP (f/2.2)
  • กล้องเทเลโฟโต้ : ความละเอียด 8MP ออปติคัลซูม 3.5 เท่า (f/2.4) OIS
  • เซ็นเซอร์สเปกตรัมหลายช่วงสี
• กล้องหน้า : 10.7MP (f/2.2)
• ระบบเสียง : ลำโพงคู่สเตอริโอ
• แบตเตอรี่ : 4,720mAh
  • ความเร็วการชาร์จ 66W
  • ชาร์จไร้สาย 40W
• การเชื่อมต่อ
  • 4G
  • WiFi 7
  • Bluetooth 5.2
• พอร์ต : USB-C 3.1
• เซนเซอร์
  • สแกนนิ้วข้างตัวเครื่อง
  • NFC
• ความทนทาน : กันน้ำกันฝุ่น IPX8
• ระบบปฏิบัติการ : HarmonyOS Next 5.0.1
• ขนาด
  • 143.2 x 91.7 x 7.15 มม. (ขณะพับ)
  • 91.7 x 74.3 x 15.1 มม. (ขณะกางจอ)
• น้ำหนัก: 193.7 กรัม

HUAWEI Pura X ไปต่อหรือพอแค่นี้

โดยรวมแล้ว HUAWEI Pura X ถือเป็นสมาร์ทโฟนจอพับดีไซน์ใหม่ที่น่าสนใจไม่น้อยเลยครับ ทั้งเรื่องของหน้าจอในอัตราส่วน 16:10 ซึ่งให้ประสบการณ์การใช้งานใกล้เคียงแท็บเล็ตมากที่สุด พร้อมชุดกล้องแบบครบทุกระยะที่หาได้ยากสำหรับสมาร์ทโฟนจอพับไซซ์เล็ก ไปจนถึงวัสดุกับดีไซน์ที่พรีเมียมระดับเรือธง

แต่ทั้งนี้ก็ยังต้องยอมรับว่าถึงนวัตกรรมจะใหม่มากขนาดไหน แต่ด้วยความที่ยังเป็นรอมจีนแบบ 100% และรันบน HarmonyOS Next เวอร์ชันล่าสุด จึงอาจยังไม่เหมาะเท่าไหร่กับผู้ใช้ทั่วไปที่ต้องการซื้อมาใช้งานในประเทศไทย และใช้งาน Google หรือแอปพลิเคชันฝั่ง Global แบบเต็มรูปแบบ

แต่สุดท้ายการมาถึงของ Pura X ที่เราหยิบมารีวิวในครั้งนี้ก็ทำให้เราได้เห็นว่า HUAWEI หรือตลาดสมาร์ทโฟนในปัจจุบันก็ยังมีอะไรใหม่ๆ เปิดตัวออกมาให้เราเซอร์ไพรส์กันได้อยู่ตลอดเวลา และไม่แน่ว่าในอนาคตเราอาจจะได้เห็นสมาร์ทโฟน Form Factor ใหม่ๆ เปิดตัวมาให้ว้าวกันอีกก็ได้ครับ