กรดไหลย้อนทำพิษ! นักร้องสาวช็อก เสียงไม่เหมือนเดิม หมอชี้ผู้ร้ายไม่ใช่แค่น้ำอัดลม

นักร้องสาว "กรดไหลย้อนลงกล่องเสียง" จนร้องเพลงไม่ได้เหมือนเดิม รุนแรงถึงขั้นผ่าตัด หมอชี้ผู้ร้ายไม่ใช่แค่น้ำอัดลม

เสี่ยวกุย อายุ 28 ปี เป็นนักร้องอาชีพในประเทศจีน เธอภูมิใจและมีความสุขที่ได้ใช้เสียงไพเราะและพรสวรรค์ของตนในการร้องเพลง อย่างไรก็ตามในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา โอกาสที่เธอจะได้แสดงความสามารถลดลงอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากอาการไม่สบายที่ลำคอทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีอาการเหมือนมีสิ่งแปลกปลอมในลำคอ กรดไหลย้อน และแสบร้อนกลางอก เสียงของเธอเริ่มแหบ ทุ้มลง และรู้สึกอึดอัดเมื่อร้องเพลง จนในที่สุด สิ่งที่เธอกังวลก็เกิดขึ้นจริง

ที่โรงพยาบาลในท้องถิ่น เธอได้รับการวินิจฉัยว่าเป็น โรคกล่องเสียงอักเสบจากกรดไหลย้อน และถูกส่งต่อไปยังแผนกทางเดินอาหารเพื่อรับยาลดกรด แต่เมื่อเวลาผ่านไป ยาเริ่มไม่เห็นผล งานหยุดชะงัก และความเครียดในชีวิตทำให้เสี่ยวกุยรู้สึกทุกข์ทรมานอย่างหนัก หลังจากคิดอย่างรอบคอบ เธอจึงตัดสินใจไปรักษาที่โรงพยาบาลระดับสูงกว่า

หลังเข้ารับการส่องกล้องกระเพาะ ตรวจคลื่นเสียงผ่านกระเพาะ และตรวจวัดกรดและความดันในหลอดอาหาร แพทย์วินิจฉัยว่าเธอเป็น โรคกรดไหลย้อนขึ้นมาที่คอและกล่องเสียง (Laryngopharyngeal reflux) ซึ่งเป็นภาวะแฝงที่มักไม่ถูกตรวจพบผ่านการส่องกล้อง แต่ได้รับการยืนยันผ่านการวัดความดันในหลอดอาหาร

ผลการตรวจยังพบว่ากรดไหลย้อนได้พุ่งขึ้นไปถึงลำคอของเสี่ยวกุย เมื่อสอบถามประวัติ แพทย์ทราบว่าเธอชื่นชอบเครื่องดื่มหวาน เช่น ชานม น้ำอัดลม ดื่มวันละ 3-4 แก้วเป็นประจำ และมักดื่มเพิ่มอีกหนึ่งแก้วตอนดึกขณะพูดคุยกับเพื่อน แม้จะรู้สึกอิ่มและพึงพอใจ แต่กระเพาะไม่สามารถรับมือได้ จึงทำให้เกิดอาการกรดไหลย้อนและแสบร้อนกลางอก

“พฤติกรรมการกินแบบนี้ ทำให้เกิด ภาวะการคลายตัวของกล้ามเนื้อหูรูด ส่วนปลายของหลอดอาหารผิดปกติ ซึ่งจะยิ่งทำให้อาการแย่ลง” แพทย์กล่าว

หลังจากเข้ารับการผ่าตัด เสี่ยวกุยฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เธอตัดสินใจลดการบริโภคชานมและของหวาน เริ่มสร้างนิสัยการกินที่ดี หวังกลับคืนเวทีอีกครั้งในสภาพร่างกายที่แข็งแรงที่สุด

แพทย์เตือนว่า กรดไหลย้อนขึ้นกล่องเสียง หากเป็นมากอาจทำให้เกิด มะเร็งกล่องเสียง ซึ่งเขาเคยพบผู้ป่วยในกรณีแบบนี้มาแล้ว จึงไม่ควรมองข้าม

หลังจากรับประทานอาหารหรือดื่มน้ำมากเกินไป หลายคนอาจรู้สึกถึงน้ำเปรี้ยวหรือกรดไหลย้อนขึ้นมาจากกระเพาะไปยังหลอดอาหารหรือปาก พร้อมกับอาการแสบร้อนกลางอกหรือในกระเพาะอาหาร ซึ่งเป็นอาการของ กรดไหลย้อน (GERD)

โดยปกติ อาหารจะผ่านจากหลอดอาหารไปยังลำไส้เล็กส่วนต้นและกระเพาะอาหาร ซึ่งมีกรดและเอนไซม์ช่วยย่อยอาหาร เยื่อบุในกระเพาะและลำไส้เล็กมีกลไกป้องกันตนเองจากกรดและเอนไซม์เหล่านี้ แต่เยื่อบุหลอดอาหาร ลำคอ และหลอดลม ไม่มีเกราะป้องกันดังกล่าว

เมื่อเสี่ยวกุยบริโภคเครื่องดื่มหวานมากเกินไป เช่น ชานม หรือของหวานอื่น ๆ ร่างกายจะหลั่งกรดในกระเพาะออกมามากกว่าปกติ ทำให้เกินขีดจำกัดของการควบคุม ส่งผลให้เกิดกรดไหลย้อน ทำลายเยื่อบุหลอดอาหาร และเกิดอาการต่าง ๆ เช่น แสบร้อนกลางอก

พฤติกรรมการกินที่ไม่ดีเหล่านี้ทำให้คนวัยหนุ่มสาวจำนวนมากเริ่มประสบภาวะกรดไหลย้อน และอาการก็มีแนวโน้มรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ

แนวทางการป้องกัน ได้แก่ การควบคุมน้ำหนัก หลีกเลี่ยงอาหารเผ็ดและไขมันสูง เลิกบุหรี่และแอลกอฮอล์ หลีกเลี่ยงของหวาน และอาหารหรือเครื่องดื่มที่อาจทำให้กล้ามเนื้อหูรูดหลอดอาหารส่วนล่างหย่อนตัวลง