กินไข่ดีไหม? หมอใหญ่เตือน "คน 4 กลุ่มเสี่ยง" คอเลสเตอรอลทำลายตับ เจ้าตัวอาจยังไม่รู้ตัว!

1 week ago 10
❤️ ARTICLE AD BOX ❤️

ระวังการกินไข่มากเกินไป! ผู้เชี่ยวชาญเตือน "คน 4 กลุ่มเสี่ยง" คอเลสเตอรอลทำร้ายตับแบบไม่รู้ตัว

ในขณะที่หลายคนเชื่อว่าการกินไข่ในปริมาณมากไม่เป็นอันตราย เนื่องจากร่างกายสามารถควบคุมระดับคอเลสเตอรอลได้เอง แต่ล่าสุด ดร.หวู อิ๋งหรง (吳映蓉) ประธานมูลนิธิโภชนาการแห่งไต้หวัน ได้ออกมาเตือนว่า ความเชื่อดังกล่าวอาจไม่เป็นจริงสำหรับทุกคน โดยเฉพาะผู้ที่มีภาวะไขมันพอกตับ, โรคสามสูง (ความดัน เบาหวาน ไขมันในเลือดสูง), กลุ่มอาการเมตาบอลิก หรือผู้ที่มีสภาพร่างกายตอบสนองไวต่อคอเลสเตอรอล  ควรหลีกเลี่ยงการบริโภคไข่หรือเครื่องในสัตว์ในปริมาณมาก

ไข่กินได้ แต่ไม่ใช่สำหรับทุกคน! ดร.หวู ระบุผ่านเพจว่า หลังจากปี 2015 ที่แนวทางโภชนาการของสหรัฐฯ ได้ยกเลิกการจำกัดปริมาณคอเลสเตอรอลต่อวันไว้ที่ 300 มิลลิกรัม ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อนในวงกว้างว่า "ร่างกายสังเคราะห์คอเลสเตอรอลได้เอง การกินไข่จึงไม่มีผล" แต่ความจริงแล้วมี สองประเด็นสำคัญ ที่มักถูกมองข้าม

  1. ไม่ใช่ทุกคนที่ร่างกายจะควบคุมคอเลสเตอรอลได้ดี – ผู้ที่มีปฏิกิริยาสูงต่อคอเลสเตอรอลจากอาหาร (High Responders) ซึ่งมีอยู่ประมาณ 15-30% ของประชากร เมื่อกินอาหารที่มีคอเลสเตอรอลสูง จะมีระดับ LDL (คอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี) เพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน ทำให้เกิดความเสี่ยงต่อสุขภาพมากกว่าคนทั่วไป

  2. คอเลสเตอรอลไม่ได้ทำร้ายแค่หลอดเลือดหัวใจ แต่ยัง "ทำร้ายตับ" ด้วย – งานวิจัยพบว่า เมื่อร่างกายรับคอเลสเตอรอลมากเกินไป จะเกิดการสะสมในตับจนกลายเป็นผลึกคอเลสเตอรอลในเซลล์ไขมัน ส่งผลให้ตับเกิดการอักเสบเรื้อรัง นำไปสู่โรคไขมันพอกตับชนิดอักเสบ (NASH) และอาจลุกลามเป็นพังผืดในตับหรือโรคตับแข็งในที่สุด

หากบริโภคน้ำมันพืชที่มีกรดไขมันโอเมก้า-6 สูง เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด หรือดอกทานตะวันร่วมด้วย จะยิ่งกระตุ้นการเกิดอนุมูลอิสระ ทำให้เซลล์ตับถูกทำลายมากขึ้น

ในทางตรงกันข้าม แนวทางดูแลสุขภาพตับ ลดความเสี่ยงจากคอเลสเตอรอล ดร.หวูแนะนำให้ทุกคน โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ปรับพฤติกรรมการกินตาม 4 หลักง่ายๆ ดังนี้

  1. ควบคุมแหล่งคอเลสเตอรอลจากอาหาร เช่น ไข่แดง เครื่องในสัตว์ และเนื้อสัตว์ติดมัน เนื่องจากร่างกายสามารถสังเคราะห์คอเลสเตอรอลเองได้อยู่แล้ว

  2. ลดการบริโภคไขมันอิ่มตัว จากน้ำมันสัตว์ เช่น น้ำมันหมู เนย เนื่องจากไขมันเหล่านี้มีคอเลสเตอรอลสูง

  3. หลีกเลี่ยงน้ำมันพืชโอเมก้า-6 สูง อย่างน้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันข้าวโพด และน้ำมันดอกทานตะวัน ที่อาจเพิ่มการอักเสบในร่างกาย

  4. ลดของทอด เนื้อสัตว์ติดมัน และเพิ่มผักในทุกมื้อ หันมาเน้นอาหารจากพืชให้มากขึ้นเพื่อสุขภาพโดยรวมที่ดียิ่งขึ้น

ท้ายที่สุด แม้ไข่จะเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี แต่จะเห็นได้ว่า "ไม่ใช่ทุกคน" ที่เหมาะจะกินในปริมาณมากอย่างที่เข้าใจกัน ดังนั้น การรู้จักข้อจำกัดของร่างกายตนเอง จึงเป็นกุญแจสำคัญในการดูแลสุขภาพระยะยาว

 

Read Entire Article