กูรูต่างชาติจัดอันดับ สุนัข 10 สายพันธุ์ "อันตรายที่สุด" บางข้อแทบไม่อยากจะเชื่อ

5 days ago 7
❤️ ARTICLE AD BOX ❤️

กูรูฝึกสุนัขจากสหรัฐฯ จัดอันดับ สุนัข 10 สายพันธุ์ "อันตรายที่สุด" บางข้อเห็นหน้าแล้วแทบไม่อยากจะเชื่อ

องค์กรที่ให้บริการฝึกสุนัข Dog Academy ในรัฐลุยเซียนา ประเทศสหรัฐอเมริกาได้จัดอันดับ 10 สายพันธุ์สุนัขที่อาจมีพฤติกรรมก้าวร้าวหรือเป็นอันตราย เพื่อให้เจ้าของสุนัขหรือผู้ที่สนใจสามารถศึกษาข้อมูลและเตรียมความพร้อมในการเลี้ยงดูสุนัขได้อย่างเหมาะสม โดยจะเน้นไปที่สายพันธุ์ที่เคยก่อให้เกิดการบาดเจ็บหรืออันตรายถึงชีวิตต่อมนุษย์จริงๆ 

หมายเหตุ: สุนัขพันทางไม่ได้ถูกรวมอยู่ในรายชื่อแม้จะเป็นสาเหตุอันดับ 4 ของการกัดถึงแก่ชีวิต เนื่องจากความหลากหลายของรูปลักษณ์และนิสัยที่ไม่สามารถจัดหมวดหมู่ได้แน่ชัด

1. อเมริกันพิทบูล เทอร์เรีย (American Pit Bull Terrier)

สุนัขพันธุ์นี้เป็นที่รักของใครหลายคน แต่น่าเศร้าที่มันมีประวัติความรุนแรงสูง โดยรับผิดชอบต่อการเสียชีวิตของมนุษย์มากกว่าครึ่งหนึ่งของทั้งหมด แม้จะไม่ยุติธรรมนักที่จะโทษสายพันธุ์นี้ทั้งหมด แต่ข้อเท็จจริงคือพิตบูลถูกเพาะพันธุ์มาเพื่อการต่อสู้มานานหลายทศวรรษ

พิตบูลมีแรงกัดประมาณ 235–260 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว และมีกล้ามเนื้อแน่นหนา ทำให้เจ้าของที่ไม่มีประสบการณ์หรือมีเด็กเล็กควรหลีกเลี่ยง สถิติระหว่างปี 2005–2017 ระบุว่าพิตบูลมีส่วนเกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตถึง 284 ราย

แม้จะมีผู้ปกป้องสายพันธุ์นี้ว่ามักถูกเข้าใจผิดหรือเลี้ยงอย่างไม่ถูกต้อง แต่จำนวนการเสียชีวิตที่มากเกินไปก็เป็นสิ่งที่ต้องพิจารณาอย่างถี่ถ้วนก่อนรับเลี้ยง

2. ร็อตไวเลอร์ (Rottweiler)

ร็อตไวเลอร์เป็นสุนัขที่ฉลาดและภักดี เป็นที่นิยมทั่วโลก แต่ก็มีชื่อเสียงเรื่องความก้าวร้าวต่อคนแปลกหน้า และเป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับ 2 โดยมีสถิติการกัดตาย 45 รายในช่วงปี 2005–2017

แรงกัดของร็อตไวเลอร์อยู่ที่ 328 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว และมีน้ำหนักได้ถึง 120 ปอนด์ ต้องเลี้ยงในบ้านที่มีพื้นที่กว้าง และควรได้รับการฝึกฝนตั้งแต่เล็ก

3. เยอรมันเชพเพิร์ด (German Shepherd)

พันธุ์นี้ขึ้นชื่อว่าเป็นสุนัขตำรวจที่แสนฉลาด แต่ก็มีแนวโน้มความรุนแรงหากไม่ได้รับการฝึกอย่างถูกต้อง มีสถิติการเสียชีวิต 20 รายในช่วงเวลาเดียวกัน และมีแรงกัด 238–291 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

ด้วยสัญชาตญาณนักล่า ทำให้ไม่เหมาะกับบ้านที่มีสัตว์เล็ก เช่น แมว

4. อเมริกันบูลด็อก (American Bulldog)

อเมริกันบูลด็อกมีรูปร่างล่ำสันและแรงกัดถึง 305 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว มีสถิติการกัดถึงตาย 15 ราย ส่วนใหญ่มีแนวโน้มก้าวร้าวกับสุนัขตัวอื่น

ต้องการการฝึกที่สม่ำเสมอและบ้านที่มีเวลาให้เพียงพอ หากเลี้ยงผิดวิธีอาจทำให้เกิดเหตุการณ์รุนแรง

5. บูลมาสตีฟ (Bullmastiff)

แม้จะมีนิสัยสงบ แต่ขนาดตัวและแรงกัดที่มากถึง 552 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ทำให้เป็นสายพันธุ์ที่ควรได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิด มีสถิติการเสียชีวิต 14 รายในรอบ 12 ปี

เหมาะกับเจ้าของที่มีประสบการณ์และมีเวลาในการฝึกฝน

6. ไซบีเรียนฮัสกี (Siberian Husky)

 

ด้วยลักษณะที่สวยงามและพลังงานสูง ฮัสกีเป็นที่นิยมมาก แต่อาจมีพฤติกรรมดื้อหรือก้าวร้าวได้หากไม่ได้รับการฝึก มีสถิติการเสียชีวิต 13 ราย และแรงกัด 320 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว

เหมาะกับเจ้าของที่มีประสบการณ์และมีเวลาให้เล่นหรือออกกำลังกายมาก

7. ลาบราดอร์รีทรีฟเวอร์ (Labrador Retriever)

แม้จะเป็นสุนัขแสนรู้และอ่อนโยนที่พบได้ทั่วไป แต่ก็มีสถิติการกัดถึงตาย 2.1% ของทั้งหมด โดยส่วนใหญ่เป็นกรณีที่รู้สึกถูกคุกคาม

มีแรงกัด 230 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว และน้ำหนักสูงสุดประมาณ 80 ปอนด์

8. บ็อกเซอร์ (Boxer)

บ็อกเซอร์เป็นสุนัขที่ขี้เล่นและมีพลังมาก มีสถิติการเสียชีวิต 7 ราย โดยส่วนใหญ่เกิดจากการปกป้องเจ้าของหรือบ้าน

แรงกัดประมาณ 230 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว ควรได้รับการฝึกฝนตั้งแต่เล็กเพื่อควบคุมพฤติกรรมป้องกันตัวที่รุนแรง

9. โดเบอร์แมน พินเชอร์ (Doberman Pinscher)

โดเบอร์แมนเป็นสายพันธุ์ที่ดูน่าเกรงขามและฉลาด เหมาะกับการเป็นสุนัขอารักขา มีสถิติการเสียชีวิต 6 รายในรอบ 12 ปี

แรงกัดประมาณ 305 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว และมักผูกพันกับเจ้าของเพียงคนเดียว ไม่เหมาะกับบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงหลายชนิด

10. อลาสกันมาลามิวท์ (Alaskan Malamute)

หน้าตาคล้ายฮัสกีแต่ขนาดใหญ่กว่า และมีแรงกัดถึง 400 ปอนด์ต่อตารางนิ้ว มีสถิติการเสียชีวิต 4 ราย

เหมาะกับเจ้าของที่มีประสบการณ์และสามารถควบคุมพฤติกรรมดื้อหรือพลังงานที่ล้นเหลือได้

ข้อควรพิจารณาก่อนเลี้ยงสุนัขพันธุ์อันตราย

แม้สุนัขเหล่านี้จะมีสถิติรุนแรง แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ควรเลี้ยงเลย สุนัขแต่ละตัวมีนิสัยต่างกันขึ้นอยู่กับการฝึกและการเลี้ยงดู หากคุณมีเวลาและความตั้งใจในการดูแล ฝึกฝน และสร้างความสัมพันธ์อย่างเหมาะสม สุนัขเหล่านี้ก็สามารถเป็นเพื่อนที่แสนดีได้เช่นกัน

Read Entire Article