"ขนาดคอ" ทำนายความเสี่ยงโรคหัวใจ-เบาหวานได้ กี่นิ้วถึงจะถือว่าใหญ่เกินไป?

14 hours ago 1
❤️ ARTICLE AD BOX ❤️

"ขนาดรอบคอ" สามารถบ่งบอกความเสี่ยงโรคหัวใจและเบาหวานได้ กี่นิ้วถึงจะถือว่าใหญ่เกินไป?

ไม่ใช่แค่รอบเอวเท่านั้นที่อาจบ่งชี้ความเสี่ยงต่อสุขภาพ

งานวิจัยจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ชี้ว่า ขนาดรอบคอ ก็อาจเป็นสัญญาณเตือนล่วงหน้า บ่งบอกโอกาสเสี่ยงต่อโรคร้ายแรงอย่างโรคหัวใจ เบาหวาน และความผิดปกติในการนอนหลับ

ที่น่าประหลาดใจกว่านั้นคือ คนที่มีค่าดัชนีมวลกาย (BMI) ปกติ หากมีรอบคอหนา ก็อาจเผชิญปัญหาสุขภาพได้เช่นกัน

สาเหตุคือ ค่า BMI มีข้อจำกัดหลายประการ เช่น ไม่สามารถแยกได้ว่ามวลนั้นมาจากกล้ามเนื้อหรือไขมัน และยังไม่บอกด้วยว่าไขมันสะสมอยู่บริเวณใดของร่างกาย

ดร.อาเหม็ด เอลเบดีวี และ ดร.นาดีน เวฮิดา จากมหาวิทยาลัยคิงส์ตัน เขียนบทความลงใน The Conversation ว่า

“นักเพาะกายมืออาชีพอาจมีค่า BMI สูง แต่ชัดเจนว่าไม่ได้อ้วน”

ทั้งคู่ยังอธิบายเพิ่มเติมว่า การวัดรอบคอสามารถให้ข้อมูลที่ลึกกว่า เพราะช่วยบ่งชี้ปริมาณไขมันในช่องท้องส่วนบนได้แม่นยำกว่าการใช้ BMI เพียงอย่างเดียว

ไขมันชนิดนี้ถือว่าอันตรายกว่าการสะสมไขมันที่ช่วงล่างของร่างกาย เพราะมีความ “active” ทางเมตาบอลิซึมสูงกว่า กล่าวคือ สามารถปล่อยกรดไขมัน ฮอร์โมน และสารก่อการอักเสบเข้าสู่กระแสเลือดได้ง่ายกว่า

การปล่อยสารเหล่านี้ในระดับสูงอาจรบกวนการทำงานตามปกติของร่างกาย กระตุ้นการอักเสบเรื้อรัง และเพิ่มภาวะดื้อต่ออินซูลิน ส่งผลให้เกิดความเครียดต่ออวัยวะและเพิ่มความเสี่ยงต่อภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง

ผลกระทบนี้กว้างไกลกว่าที่คิด นักวิทยาศาสตร์พบความเชื่อมโยงระหว่าง รอบคอที่ใหญ่ขึ้น กับความเสี่ยงสูงขึ้นในการเกิดความผิดปกติของระบบเผาผลาญ เช่น เบาหวานชนิดที่ 2 และ เบาหวานขณะตั้งครรภ์

งานวิจัยยังเชื่อมโยงรอบคอที่ใหญ่กับ ภาวะหยุดหายใจขณะหลับแบบอุดกั้น ซึ่งเป็นภาวะอันตรายที่ทางเดินหายใจมักพังทลายซ้ำ ๆ ขณะนอน ทำให้เกิดการหยุดหายใจบ่อยครั้ง

ความสัมพันธ์ชัดเจนถึงขั้นที่แพทย์มักวัดรอบคอเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการวินิจฉัยโรคนี้

แต่ผลกระทบไม่ได้หยุดเพียงเท่านั้น งานวิจัยชิ้นหนึ่งยังพบว่า ผู้ชายที่มีรอบคอใหญ่ มีความเสี่ยงสูงต่อ ภาวะหย่อนสมรรถภาพทางเพศ เมื่อเทียบกับผู้ชายที่มีรอบคอเล็กกว่า

อย่างไรก็ตาม ความเชื่อมโยงที่น่ากังวลที่สุดอยู่ระหว่าง ขนาดรอบคอกับสุขภาพหัวใจและหลอดเลือด

งานวิจัยหลายชิ้นพบความสัมพันธ์ชัดเจนระหว่างรอบคอและปัจจัยเสี่ยงสำคัญของโรคหัวใจ เช่น ความดันโลหิตสูง ไตรกลีเซอไรด์สูง และระดับ HDL หรือคอเลสเตอรอล “ดี” ต่ำ

ในปี 2022 นักวิจัยเชื่อมโยงรอบคอที่หนากับความเสี่ยงสูงต่อ ภาวะหัวใจห้องบนสั่นพลิ้ว (Atrial Fibrillation, AF) ซึ่งทำให้หัวใจเต้นผิดจังหวะและรบกวนการไหลเวียนเลือด ส่งผลให้เกิดอาการใจสั่น เหนื่อยง่าย และเพิ่มความเสี่ยงต่อ โรคหลอดเลือดสมอง ลิ่มเลือด หัวใจล้มเหลว และเสียชีวิตก่อนวัย

ความสัมพันธ์นี้ยังคงชัดเจนแม้ปรับค่าดัชนีมวลกาย (BMI) รอบเอว ส่วนสูง และน้ำหนักแล้ว

Photo By: Kaboompics.com

อย่างไรก็ดี ผลกระทบเด่นชัดที่สุดในกลุ่มผู้ที่มีภาวะอ้วน นักวิจัยจึงชี้ว่า รอบคออาจเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญโดยเฉพาะในกลุ่มนี้

เรื่องนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งในสหรัฐอเมริกาที่กำลังเผชิญปัญหาการระบาดของโรคอ้วน โดยมีผู้ใหญ่ 2 ใน 5 คน และเด็ก-วัยรุ่น 1 ใน 5 คนถูกจัดว่าอ้วน ตามข้อมูลของ CDC

ผู้เขียนงานวิจัยสรุปว่า “ผลการศึกษาของเราแสดงให้เห็นว่า รอบคออาจใช้เป็นตัวชี้วัดง่าย ๆ ในการประเมินความเสี่ยงต่อ AF” พร้อมเรียกร้องให้มีการศึกษาต่อเพื่อสำรวจบทบาทของรอบคอในการป้องกันและรักษาโรคดังกล่าว

งานวิจัยนี้ชี้ให้เห็นข้อมูลที่น่าตื่นตาตื่นใจ แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า การวัดรอบคอไม่ควรมาแทนการตรวจสุขภาพประจำปี แต่อย่างใด ควรถูกใช้เป็น เครื่องมือเสริม เพื่อช่วยให้คุณเข้าใจความเสี่ยงต่อสุขภาพของตัวเองมากขึ้น

วิธีนี้อาจเป็นประโยชน์โดยเฉพาะกับ หญิงตั้งครรภ์หรือผู้ที่มีภาวะอ้วน ซึ่งมักประสบปัญหาการวัดรอบเอวที่แม่นยำ

Picas Joe

สิ่งที่ดีที่สุดคือ การวัดรอบคอทำได้ง่ายมาก เพียงใช้สายวัดพันรอบคอในจุดที่เล็กที่สุด ให้แน่นพอดีแต่ไม่รัดเกินไป

แม้จะยังไม่มีข้อกำหนดทางการ แต่รอบคอที่ถือว่าใหญ่โดยทั่วไปคือ มากกว่า 17 นิ้วสำหรับผู้ชาย และ 15.5 นิ้วสำหรับผู้หญิง

ดร.ซาราห์ ไพรส์ รองศาสตราจารย์สถิติชีวภาพ จาก Boston University’s School of Public Health กล่าวกับ Salon ว่า

“ปัจจุบันยังไม่ได้ใช้รอบคอในการตรวจสุขภาพประจำ แต่เนื่องจากรอบคอสูงมักสัมพันธ์กับค่า BMI สูง จึงเป็นเรื่องสมเหตุสมผลที่ผู้ที่กังวลเรื่องความหนาของคอ ควรปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลหลักของตน”

ในบทความของพวกเขา เอลเบดีวีและเวฮิดายังเน้นว่า รอบคอสามารถลดลงได้ด้วยการปรับเปลี่ยนไลฟ์สไตล์ เช่น การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอและการฝึกกล้ามเนื้อ ซึ่งช่วยลดไขมันส่วนบนของร่างกาย

ทั้งคู่ยังชี้ถึงความสำคัญของ การนอนหลับที่มีคุณภาพและการรับประทานอาหารที่สมดุล ซึ่งช่วยให้ระบบเผาผลาญทำงานอย่างราบรื่น ควบคุมน้ำหนัก และเร่งกระบวนการฟื้นฟูร่างกาย

Read Entire Article

Warning: PHP Request Shutdown: Write failed: No space left on device (28) in Unknown on line 0

Warning: PHP Request Shutdown: Failed to write session data (files). Please verify that the current setting of session.save_path is correct (/home/logiceverything/khon/src/var/sessions) in Unknown on line 0