ความลับซ่อนอยู่ระหว่างขา! ทันตแพทย์ไขปริศนา "ภาพวาดดาวินชี" หลังผ่านมากว่า 500 ปี

2 weeks ago 8

ทันตแพทย์ไขปริศนา “Vitruvian Man” ของดาวินชี หลังผ่านมากว่า 500 ปี หนึ่งในภาพวาดที่โด่งดังที่สุด และเต็มไปด้วยปริศนา ในประวัติศาสตร์มนุษย์ โดยเผยความลับที่ซ่อนอยู่ระหว่างขา!

หนึ่งในภาพวาดที่ลึกลับที่สุดในประวัติศาสตร์มนุษย์ถูกถอดรหัสโดยทันตแพทย์จากลอนดอน เผย "สามเหลี่ยมลับ" ที่อาจเป็นกุญแจไขความเข้าใจทางกายวิภาคอันล้ำหน้าของเลโอนาร์โด ดาวินชี นานกว่า 500 ปี

ภาพวาด Vitruvian Man ของ เลโอนาร์โด ดาวินชี คือความพยายามของศิลปินอัจฉริยะชาวอิตาลีเมื่อกว่า 500 ปีก่อน ที่ต้องการแสดงให้เห็นถึง "สัดส่วนที่สมบูรณ์แบบของร่างกายชาย" โดยวางไว้ภายในวงกลมและสี่เหลี่ยมจัตุรัสอย่างพอดี

นักคณิตศาสตร์จำนวนมากพยายามค้นหาคำตอบว่า ดาวินชีสามารถวาดภาพมนุษย์ให้อยู่พอดีทั้งในวงกลมและจัตุรัสได้อย่างไร แต่ตอนนี้ ทันตแพทย์จากลอนดอนได้ค้นพบ "รายละเอียดลับ" ในภาพวาดระดับโลกชิ้นนี้ ที่เขาเชื่อว่าเป็นกุญแจของคำตอบ!!!

ดร. รอรี่ แมค สวีนีย์ (Dr. Rory Mac Sweeney) ทันตแพทย์จากลอนดอน เปิดเผยว่า เขาค้นพบ "สามเหลี่ยมด้านเท่า" ที่ซ่อนอยู่ในบันทึกของดาวินชี ซึ่งวางตำแหน่งไว้ “ระหว่างขาของชายในภาพ” และเป็นพื้นฐานของสัดส่วนที่สมบูรณ์แบบในภาพวาด สามเหลี่ยมนี้ “ไม่ใช่แค่รูปร่างสุ่มๆ” แต่มันตรงกับแนวคิดทางทันตกรรมที่ไม่ค่อยมีใครรู้จักชื่อว่า "สามเหลี่ยมบอนวิลล์" (Bonwill’s triangle)

Bonwill’s Triangle คืออะไร? Bonwill’s triangle เป็นแนวคิดในกายวิภาคศาสตร์ด้านทันตกรรม ที่ใช้ในการอธิบายการทำงานของขากรรไกรมนุษย์ เป็นสามเหลี่ยมสมมติที่ลากเส้นระหว่าง 3 จุด โดยแต่ละด้านของสามเหลี่ยมนี้ยาวประมาณ 4 นิ้ว

ข้อต่อขากรรไกรซ้าย
ข้อต่อขากรรไกรขวา
จุดกึ่งกลางระหว่างฟันหน้าล่างสองซี่

ดาวินชีรู้ก่อนวิทยาศาสตร์ยุคใหม่? ดร.สวีนีย์อ้างว่า การที่ดาวินชีใช้โครงสร้างนี้ในภาพวาดตั้งแต่ปี 1490 แสดงให้เห็นถึงความเข้าใจในร่างกายมนุษย์ที่ล้ำหน้ากว่ายุคของเขาหลายศตวรรษ

เขายังระบุว่า เมื่อใช้สามเหลี่ยมนี้ในภาพ Vitruvian Man จะสามารถคำนวณอัตราส่วนระหว่างขนาดของวงกลมกับสี่เหลี่ยมในภาพวาดได้ ซึ่งผลลัพธ์คือ 1.64 ซึ่งใกล้เคียงอย่างมากกับเลขสำคัญ 1.6333 เลขนี้เป็นที่รู้จักในชื่อ “เลขพิมพ์เขียวพิเศษ” (special blueprint number) ซึ่งปรากฏในโครงสร้างที่มีประสิทธิภาพที่สุดในธรรมชาติ เช่น การเรียงตัวของส้ม หรือการจัดเรียงวัตถุกลมให้แน่นที่สุด

“ไม่ใช่แค่ภาพวาดงดงาม แต่คืออัจฉริยภาพทางวิทยาศาสตร์” ดร.สวีนีย์ ซึ่งจบการศึกษาจากวิทยาลัย Trinity College ในดับลิน กล่าว พร้อมอธิบายเพิ่มเติมว่า

“พวกเราต่างมองหาคำตอบที่ซับซ้อน แต่คำตอบอยู่ในคำพูดของดาวินชีเองมาตลอด” “เขาชี้ให้เห็นสามเหลี่ยมนั้นไว้ชัดเจน สิ่งที่น่าทึ่งคือ ภาพวาดเดียวนี้สื่อถึงกฎสากลของการออกแบบอย่างมีประสิทธิภาพ” “แสดงให้เห็นว่า ‘พิมพ์เขียว’ ที่ธรรมชาติใช้ในการสร้างสิ่งมีชีวิต ก็ถูกใช้ในการออกแบบร่างกายมนุษย์เช่นกัน”

นักวิชาการเชื่อว่าการค้นพบนี้ อาจไขคำทำนายจากยุคโรมัน ที่ มาร์คัส วิตรูเวียส โพลิโอ (Marcus Vitruvius Pollio) สถาปนิกชาวโรมัน เคยตั้งเอาไว้เมื่อหลายร้อยปีก่อน ที่เชื่อว่า "ร่างกายมนุษย์มีสัดส่วนที่กลมกลืน" และสามารถวางลงในวงกลมและจัตุรัสได้พอดี แต่ไม่เคยอธิบายว่าจะทำอย่างไร ดังนั้น ดาวินชีจึงวาดภาพ Vitruvian Man ขึ้นมาตามแนวคิดนั้น แต่ไม่เคยเปิดเผยว่าใช้วิธีไหน

ดร.สวีนีย์ เองก็เชื่อว่าทฤษฎีของเขาได้คลี่คลายข้อสงสัยที่สืบต่อกันมากว่า 500 ปี โดยงานวิจัยของเขาเผยแพร่ในวารสาร Journal of Mathematics and the Arts โดยมีเนื้อหาตอนหนึ่งระบุว่า: “ตลอดกว่า 500 ปีที่ผ่านมา ระบบเรขาคณิตที่ดาวินชีใช้ในการกำหนดความสัมพันธ์ระหว่างวงกลมและสี่เหลี่ยมในภาพ Vitruvian Man ยังคงเป็นปริศนา”

“บทความนี้แสดงให้เห็นว่า การอ้างถึง ‘สามเหลี่ยมด้านเท่า’ ระหว่างขาของรูปในภาพ คือคำใบ้ที่ชัดเจนของเขา และเปิดเผยรากฐานทางกายวิภาคที่ใช้ตัดสินใจเรื่องสัดส่วน” , “การวิเคราะห์ชี้ว่า สามเหลี่ยมของดาวินชีตรงกับ Bonwill’s triangle ในกายวิภาคศาสตร์ทางทันตกรรม ซึ่งเป็นความสัมพันธ์ทางเรขาคณิตพื้นฐานที่ควบคุมการทำงานของขากรรไกรมนุษย์ในแบบที่เหมาะสมที่สุด”

หลังจากวาดภาพ Vitruvian Man ไม่นาน ดาวินชียังได้วาดภาพศิลปะทางศาสนาที่สำคัญที่สุดภาพหนึ่งคือ "The Last Supper" หรือภาพอาหารค่ำครั้งสุดท้าย ซึ่งเป็นภาพวาดของพระเยซูและสาวกของพระองค์ได้รับการสร้างสรรค์ขึ้น ตามมาด้วยผลงานศิลปะที่โด่งดังที่สุด นั่นคือ "ภาพโมนาลิซ่า" ในช่วงต้นคริสตศตวรรษที่ 1500

ภาพวาดนี้ดึงดูดนักท่องเที่ยวหลายล้านคนต่อปีที่พิพิธภัณฑ์ลูฟร์ในปารีสเพียงแห่งเดียว นอกเหนือจากผลงานศิลปะแล้ว ดา วินชียังเป็นที่รู้จักในเรื่องพรสวรรค์ที่หลากหลายของเขา เขาเป็นทั้งประติมากร สถาปนิก นักดนตรี นักคณิตศาสตร์ วิศวกร นักประดิษฐ์ นักกายวิภาคศาสตร์ นักธรณีวิทยา นักทำแผนที่ นักพฤกษศาสตร์ และนักเขียนอีกด้วย