คู่รักไม่ฟังแพทย์ เชื่อแต่ "หมอติ๊กต็อก" ผ่านไป 8 ปี เสียใจทั้งครอบครัว หมดโอกาสมีลูก

3 weeks ago 18
❤️ ARTICLE AD BOX ❤️

หลังจากแต่งงานกันตอนอายุ 28 ปี คุณเหงียนและคุณเจือง จากฮานอย ต่างเฝ้ารอข่าวดีเรื่องลูก แต่หลายปีผ่านไปก็ยังไม่มีวี่แวว ทั้งคู่ไปตรวจที่โรงพยาบาลบั๊กไม และได้รับการวินิจฉัยว่าฝ่ายชายเป็นภาวะ "ไม่มีตัวอสุจิ" ทำให้โอกาสมีลูกตามธรรมชาตินั้นยาก แพทย์แนะนำให้ใช้เทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ แต่ทั้งสองกลับปฏิเสธและเลือกหาทางแก้จากข้อมูลในอินเทอร์เน็ตแทน

วันหนึ่ง ขณะที่กำลังเลื่อนดู TikTok คุณเหงียนพบ "หมอออนไลน์" คนหนึ่งแนะนำยาเสริมสมรรถภาพเพศชาย อ้างว่าสามารถช่วยเพิ่มคุณภาพอสุจิได้ ด้วยความหวัง เขาจึงตัดสินใจซื้อและกินยานี้ต่อเนื่องเป็นเวลา 8 ปี หวังว่าสักวันจะมีลูก

แต่เมื่อเวลาผ่านไปถึงปีที่ 9 ก็ยังไม่มีข่าวดี ทั้งคู่จึงตัดสินใจไปตรวจอีกครั้งที่โรงพยาบาลเฉพาะทาง และผลออกมาว่าคุณบั๊กยังคงไม่มีอสุจิในน้ำอสุจิเลย ซึ่งหมายความว่าตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ยาที่เขากินไปนั้นไม่มีประโยชน์อะไรเลย ยิ่งไปกว่านั้น คุณเจืองในวัย 43 ปี ขณะนี้มีภาวะรังไข่เสื่อมลงอย่างหนัก ทำให้การหาไข่ที่มีคุณภาพดีเพื่อทำเด็กหลอดแก้วเป็นไปได้ยากมาก

เชื่อข้อมูลผิด ทำให้โอกาสมีลูกลดลง

ดร.หมอ ฮา ง็อก มั๋ญ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลเวียดบี กล่าวว่าหากทั้งคู่เลือกใช้วิธีช่วยการเจริญพันธุ์ตั้งแต่ตอนแรก โอกาสมีลูกก็คงสูงกว่านี้มาก ในการรักษาภาวะมีบุตรยาก "ช่วงเวลาทอง" คือช่วงปีแรก ๆ หลังจากพบปัญหา หากปล่อยให้เวลาผ่านไปโดยเชื่อข้อมูลผิด ๆ ก็อาจทำให้ความหวังในการเป็นพ่อแม่เลือนลางลง

TikTok เต็มไปด้วยข้อมูลสุขภาพที่ขาดความน่าเชื่อถือ

ปัจจุบัน ใน TikTok และโซเชียลมีเดียอื่น ๆ มีบุคคลจำนวนมากออกมาโฆษณา "ยาครอบจักรวาล" ที่อ้างว่าสามารถรักษาได้ทุกโรค ตั้งแต่เสริมสมรรถภาพทางเพศ เบาหวาน มะเร็ง ไปจนถึงปัญหาผิวพรรณและความงาม

ล่าสุด มีหญิงสาวสามคนในฮานอย ดูวิดีโอบน TikTok ที่แนะนำให้ใช้น้ำใบพลูในการล้างหน้ารักษาฝ้า พวกเธอจึงต้มใบพลูและใช้ล้างหน้าตามคำแนะนำ หวังให้ผิวขาวเนียนขึ้น แต่ในคืนเดียวกัน ไม่เพียงแต่ฝ้าไม่หาย ใบหน้าของพวกเธอกลับเกิดอาการคัน แดง และแสบร้อนจนต้องรีบพบแพทย์

ดร.หมอ เหงียน เตี๊ยน แถ่ง สมาชิกสมาคมโรคผิวหนังแห่งเวียดนาม ระบุว่า การใช้ใบพลูรักษาฝ้านั้นเป็นอันตราย เพราะแม้ว่าใบพลูจะมีสารบางชนิดที่ดีต่อผิว แต่ก็มีสารประกอบของฟีนอลและเบนซิน ซึ่งอาจทำลายเซลล์เม็ดสีของผิว ทำให้เกิดการอักเสบและกระตุ้นให้เกิดภาวะผิวคล้ำซ้ำซ้อน

ใช้ยาสิวผิดวิธีจาก TikTok ทำให้หน้าพัง

อีกตัวอย่างหนึ่งคือ นักศึกษาหญิงวัย 20 ปี จากฮานอย บังเอิญเจอวิดีโอบน TikTok ที่แนะนำให้ใช้ยาสีฟันแต้มสิว เมื่อเธอลองทำตาม สิวของเธอกลับไม่หาย แถมยังเกิดสิวอักเสบและสิวหนองเพิ่มขึ้นจนต้องรีบไปพบแพทย์

ดร.หมอ แถ่ง กล่าวว่า ผู้ป่วยรายนี้มาหาหมอด้วยความตื่นตระหนก ใบหน้ามีรอยแดง แสบร้อน และมีสิวอักเสบรุนแรง ซึ่งเป็นภาวะ "สิวอุดตันร่วมกับผิวอักเสบจากสารระคายเคือง" ทำให้ต้องรักษาด้วยวิธีที่ซับซ้อนกว่าการรักษาสิวทั่วไป

TikTok กลายเป็นแหล่งข้อมูลสุขภาพที่เสี่ยงต่อความเข้าใจผิด

จากข้อมูลของ National Library of Medicine TikTok เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เติบโตเร็วที่สุดในโลก และกำลังกลายเป็นแหล่งข้อมูลด้านสุขภาพที่มีผู้ใช้จำนวนมาก โดยเฉพาะในสหรัฐฯ มีรายงานว่าผู้หญิงเป็นกลุ่มที่ใช้ TikTok มากที่สุดและได้รับผลกระทบจากข้อมูลสุขภาพที่แชร์บนแพลตฟอร์มนี้

ผลสำรวจออนไลน์ในปี 2023 ที่สอบถามผู้หญิงอเมริกันอายุ 18-29 ปี พบว่า 98.15% ทราบว่ามีข้อมูลสุขภาพที่ผิดบน TikTok แต่หลายคนก็ยังคงเลือกใช้ TikTok เป็นแหล่งข้อมูลด้านสุขภาพของตน

 

 

Read Entire Article