ฉี่แบบไหนเสี่ยง "มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ" เช็ก 7 สัญญาณเตือนที่อาจมาเงียบๆ

1 day ago 1
❤️ ARTICLE AD BOX ❤️

ฉี่แบบไหนเสี่ยง "มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ" สัญญาณเตือนที่มาเงียบๆ เป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในระบบทางเดินปัสสาวะ 

มะเร็งกระเพาะปัสสาวะ (Bladder cancer) เป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในมะเร็งของระบบทางเดินปัสสาวะ พบมากในเพศชาย ช่วงอายุ 50 – 70 ปี เกิดจากเยื่อบุภายในกระเพาะปัสสาวะมีการแบ่งตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าปกติ จนกลายเป็นก้อนเนื้อขึ้นมา หากไม่ได้รับการรักษาอย่างถูกต้องก้อนเนื้อนี้สามารถเจริญเติบโตขึ้นเรื่อย ๆ และลุกลามไปยังอวัยวะข้างเคียงและต่อมน้ำเหลืองได้

สาเหตุของมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ

สาเหตุที่แท้จริงของมะเร็งยังไม่ทราบแน่ชัด แต่พบว่ามีปัจจัยเสี่ยงหลายอย่างที่เกี่ยวข้องกับการเกิดมะเร็ง ปัจจัยที่สำคัญที่สุด คือ การสูบบุหรี่ เพราะควันบุหรี่มีสารก่อมะเร็งที่สามารถดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือด และขับถ่ายออกทางกระเพาะปัสสาวะได้ การสูบบุหรี่จึงทำให้กระเพาะปัสสาวะสัมผัสกับสารก่อมะเร็งโดยตรง ส่วนปัจจัยเสี่ยงอื่น ๆ ได้แก่ ผู้ที่ทำงานเกี่ยวกับสีและสารเคมีที่มีส่วนประกอบของสารอะนีลีน (aniline) หรือไฮโดรคาร์บอน เช่น สีย้อมผ้า น้ำยาย้อมผม อุตสาหกรรมเสื้อผ้าและผู้บริโภคขัณฑสกร

นอกจากนี้ การระคายเคืองและการอักเสบเนื่องจากก้อนนิ่ว การใส่สายระบายน้ำปัสสาวะเป็นเวลานานต่อเนื่อง หรือการติดเชื้อพยาธิชนิดหนึ่งที่ชอบไข่อยู่ตามผนังในกระเพาะปัสสาวะจะกระตุ้นให้เซลล์เยื่อบุภายในทางเดินปัสสาวะ เกิดการเปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์มะเร็งขึ้น และผู้ที่เคยรักษามะเร็งอย่างอื่นด้วยวิธีการฉายแสงบริเวณเชิงกรานหรือด้วยเคมีบำบัดก็เป็นสาเหตุชักนำให้เกิดโรคนี้

7 สัญญาณเงียบของมะเร็งกระเพาะปัสสาวะที่คุณไม่ควรมองข้าม

1. ปัสสาวะบ่อยผิดปกติ

ในระยะแรกของโรค ผู้ป่วยอาจรู้สึกปวดปัสสาวะถี่มาก แม้เพิ่งเข้าห้องน้ำไปไม่นาน บางรายปวดทุกชั่วโมงแม้ในเวลากลางคืน เนื่องจากก้อนเนื้อในกระเพาะปัสสาวะทำให้เยื่อบุถูกกระตุ้น ส่งผลให้กล้ามเนื้อบีบตัวเร็วขึ้นและเก็บน้ำปัสสาวะได้น้อยลง

2. ปวดปัสสาวะ แต่ปัสสาวะไม่ออกหรือออกน้อยมาก

อาการปวดปัสสาวะกะทันหันแต่ปัสสาวะออกน้อยหรือไม่ออกเลย อาจเป็นผลจากเนื้องอกอุดกั้นทางเดินปัสสาวะบางส่วน ทำให้เกิดความอึดอัด ไม่สบาย

3. ปวดหลังส่วนล่างหรืออุ้งเชิงกรานโดยไม่ทราบสาเหตุ

เมื่อมะเร็งลุกลามทะลุเยื่อบุภายใน อาจกระทบต่ออวัยวะใกล้เคียง เช่น ท่อไตหรือกระดูกเชิงกราน ส่งผลให้ปวดตื้อบริเวณเอว สะโพก หรือท้องน้อย ซึ่งไม่ทุเลาแม้พักผ่อนหรือกินยา

4. แสบหรือเจ็บเวลาปัสสาวะ

หากรู้สึกแสบ ร้อน หรือเจ็บขณะปัสสาวะโดยไม่มีสัญญาณของการติดเชื้อ อาจบ่งชี้ถึงการอักเสบหรือเสียหายของเยื่อบุกระเพาะปัสสาวะจากเซลล์มะเร็ง

5. ปัสสาวะมีเลือดหรือสีผิดปกติ

อาการที่พบบ่อยที่สุดคือ "ปัสสาวะเป็นเลือด" ซึ่งอาจมีสีชมพูจาง สีส้ม หรือคล้ายน้ำล้างเนื้อสด โดยมักไม่เจ็บปวด จึงถูกละเลยหรือคิดว่าเป็นโรคอื่น หากมีเลือดปนในปัสสาวะแล้วหายไป แล้วกลับมาอีก นี่คือสัญญาณเตือนรุนแรง

6. น้ำหนักลดหรืออ่อนเพลียโดยไม่มีสาเหตุ

เมื่อโรคเข้าสู่ระยะลุกลาม ร่างกายจะเริ่มอ่อนแอจากการต่อสู้กับเซลล์มะเร็ง ส่งผลให้เบื่ออาหาร น้ำหนักลดโดยไม่ตั้งใจ และรู้สึกอ่อนเพลียแม้ได้นอนพักเพียงพอ อาการนี้พบได้ในมะเร็งหลายชนิดรวมถึงมะเร็งกระเพาะปัสสาวะ

7. แขนหรือขาบวมโดยไม่ทราบสาเหตุ

หากเนื้องอกกดทับระบบน้ำเหลืองหรือหลอดเลือด อาจทำให้ขาบวม โดยเฉพาะเท้า ข้อเท้า หรือหน้าแข้ง ในบางกรณีอาจพบอาการบวมที่มือ ซึ่งมักเข้าใจผิดว่าเกิดจากการยืนนาน เดินเยอะ หรือโรคข้อ

Read Entire Article