ชายวัยแค่ 26 จู่ ๆ แขนขวาอ่อนแรง หมอยังอึ้ง เมื่อรู้อาหาร 1 ชนิด ที่เจ้าตัวกินทุกมื้อ

หนุ่มวัยแค่ 26 ปี จู่ ๆ แขนขวาอ่อนแรง ถูกส่ง รพ.ด่วน แพทย์ฟังแล้วยังอึ้ง เมื่อรู้เมนูอาหาร 1 ชนิด ที่เจ้าตัวกินทุกมื้อ

เว็บไซต์ ETtoday รายงานเรื่องราวของหนุ่มวัย 26 ปี ชาวไต้หวัน ชายวัย 26 ปี ที่กำลังเตรียมสอบสำคัญ เขาใช้เวลาอ่านหนังสือต่อเนื่องเกินวันละ 12 ชั่วโมง ไม่ออกกำลังกายและไม่ออกนอกบ้าน คืนหนึ่งขณะอ่านหนังสือ เขาลุกไปหยิบไก่ทอด แต่จู่ ๆ แขนขวาอ่อนแรง ทำถุงของทอดหล่นกระจายเต็มพื้น พ่อได้ยินเสียงรีบเข้ามาในห้อง ก่อนจึงรีบนำส่งโรงพยาบาล และได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคหลอดเลือดสมองตีบเฉียบพลัน

ดร.หยาง จื้อเหวิน แพทย์เฉพาะทางด้านลดน้ำหนัก เผยว่า หนุ่มคนนี้มีภาวะอ้วนขั้นรุนแรง ค่าความดันโลหิต น้ำตาล และไขมันในเลือดเกินมาตรฐานอย่างมาก นอกจากนี้ ยังมีพฤติกรรมกินของทอดทุกมื้อ และดื่มชาไข่มุกเป็นประจำ ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงที่บั่นทอนสุขภาพอย่างร้ายแรง

หมอหยาง จื้อเหวิน โพสต์บนเฟซบุ๊ก เล่าว่า ชายคนดังกล่าวเข้ารับการผ่าตัดฉุกเฉินเพื่อขจัดลิ่มเลือด และพักรักษาตัวในโรงพยาบาล 5 วัน ก่อนกลับบ้านอย่างปลอดภัย เหตุการณ์ที่แขนขวาอ่อนแรงกะทันหันทำให้ทุกคนตกใจ และเป็นแรงผลักดันให้เขาตัดสินใจเข้ารับคำปรึกษาเพื่อลดน้ำหนัก

เมื่อแพทย์ตรวจดูประวัติพบว่า ชายคนนี้สูง 165 ซม. น้ำหนัก 120 กก. มีค่า BMI สูงถึง 45.7 ซึ่งจัดว่าเป็นภาวะอ้วนรุนแรง นอกจากนี้ ยังมีโรคประจำตัวหลายอย่าง เช่น ความดันโลหิตสูง ไขมันในเลือดสูง น้ำตาลสะสม (HbA1c) พุ่งถึง 10% และระดับไตรกลีเซอไรด์เกิน 1,000 ซึ่งสูงกว่าค่าปกติถึง 7 เท่า ทุกปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุหลักของโรคหลอดเลือดสมองตีบเฉียบพลัน โดยต้นตอสำคัญที่สุดคือภาวะอ้วน

หลังตรวจเลือด พบว่าค่าน้ำตาลและตัวชี้วัดการเผาผลาญของชายคนนี้ผิดปกติอย่างมาก หมอหยาง จื้อเหวิน ยังพบว่าร่างกายของเขามีภาวะเครียดจากการออกซิเดชันสูง และระดับคอเลสเตอรอล LDL ชนิดออกซิไดซ์ก็สูงเกินไป ซึ่งเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้หลอดเลือดอุดตัน

การรักษาเริ่มจากการให้ยาลดน้ำตาลในเลือดเพื่อควบคุมอาการและป้องกันภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลัน จากนั้นปรับการรับประทานอาหารร่วมกับการออกกำลังกาย ผ่านไป 3 เดือน เมื่อกลับมาตรวจอีกครั้ง พบว่าน้ำตาลสะสม (HbA1c) ลดลงจาก 10% เหลือ 6.5% น้ำหนักลดลงถึง 15 กิโลกรัม และสุขภาพโดยรวมดูดีขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เนื่องจากชายคนนี้ชอบกินของทอดทุกมื้อ หมอหยาง จื้อเหวิน จึงเตือนว่า แม้ไก่ทอดและของทอดอื่น ๆ จะอร่อย แต่ก็แฝงอันตรายไว้มากมาย ของทอดมีไขมันทรานส์และไขมันอิ่มตัวสูง ซึ่งเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดเลว (LDL) และลดคอเลสเตอรอลชนิดดี (HDL) ทำให้เสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดตีบ หัวใจ และหลอดเลือดสมองอย่างมาก

พร้อมเสริมว่า ของทอดมักชุบแป้งและใช้วัตถุดิบที่มีน้ำตาลในเครื่องหมัก ซึ่งน้ำตาลแฝงเหล่านี้ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดพุ่งสูงอย่างรวดเร็ว หากกินต่อเนื่องอาจเสี่ยงต่อภาวะดื้อต่ออินซูลินและโรคเบาหวาน

นอกจากนี้ การทอดในน้ำมันที่อุณหภูมิสูงยังสร้างสารออกซิไดซ์ที่เป็นอันตราย ซึ่งหากสะสมในร่างกายจะกระตุ้นการอักเสบเรื้อรังและนำไปสู่ภาวะเมตาบอลิกซินโดรม อีกประเด็นสำคัญคือ ของทอดมีปริมาณโซเดียมสูงมาก การกินบ่อยเกินไปจะทำให้ความดันโลหิตเพิ่มขึ้น ส่งผลให้หัวใจและไตทำงานหนักขึ้น และเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดสมอง