ตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลกโต 3% ในไตรมาสแรก ปี 2025 โดย Apple แซง Samsung ขึ้นแท่นอันดับ 1 ครั้งแรก

1 day ago 4
❤️ ARTICLE AD BOX ❤️

แม้เศรษฐกิจโลกจะมีความไม่แน่นอน แต่ ตลาดสมาร์ทโฟนทั่วโลก ในไตรมาส 1 ปี 2025 กลับเติบโตขึ้น 3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยได้แรงหนุนหลักจากตลาดเกิดใหม่ที่สำคัญ ในแถบละตินอเมริกา เอเชียแปซิฟิก ตะวันออกกลาง และแอฟริกา นอกจากนี้ การกระตุ้นด้วยเงินอุดหนุนของรัฐบาลจีน ที่ทำให้ราคาสมาร์ทโฟนในจีนถูกลง ก็จูงใจคนซื้อมากขึ้น

Global Smartphone Market

5 อันดับแบรนด์มือถือขายดี ไตรมาส 1 ปี 2025

  1. Apple 19%
  2. Samsung 18%
  3. Xiaomi 14%
  4. vivo 8%
  5. OPPO 8%
  6. อื่นๆ 33%

Apple ครองอันดับ 1 ครั้งแรกใน Q1

Apple สร้างประวัติศาสตร์ด้วยการขึ้นแท่นเป็น แบรนด์สมาร์ทโฟนอันดับ 1 ในไตรมาสแรกของปี เป็นครั้งแรก ด้วย ส่วนแบ่งตลาด 19% ซึ่งเป็นส่วนแบ่งที่เท่ากับปีที่แล้ว ส่วนหนึ่งมาจากการเปิดตัว iPhone 16e และการขยายตัวต่อเนื่องในตลาดเกิดใหม่

แม้ยอดขายในตลาดหลักอย่างสหรัฐฯ, ยุโรป และจีน จะทรงตัวและถดถอย แต่ Apple กลับทำยอดขายเติบโตแบบ สองหลัก ในประเทศญี่ปุ่น อินเดีย แอฟริกา และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

Samsung หลุดแชมป์ แต่มีแนวโน้มที่ดีขึ้น

Samsung ครองอันดับ 2 ด้วยส่วนแบ่ง 18% ลดลงจากปีที่แล้ว 2% จากปกติจะครองที่ 1 ในไตรมาสแรก เพราะเป็นช่วงเปิดตัวเรือธง แต่อาจจะด้วยเปิดตัว Galaxy S25 Series ช้ากว่าเดิมเล็กน้อย และยอดขายกลับพุ่งไปในเดือนมีนาคม โดยเฉพาะรุ่น Galaxy S25 Ultra ที่มีสัดส่วนยอดขายเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และยังมีซีรีส์ A ใหม่ มาเสริมในช่วงท้ายไตรมาส ทำให้ยอดขายของ Samsung เติบโตขึ้นสองหลักในเดือนมีนาคม

แบรนด์จีนยังแรงต่อเนื่อง

  • Xiaomi โตขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในจีนและตลาดใหม่ ๆ จากการปรับภาพลักษณ์ที่พรีเมียมขึ้น หลังบุกตลาดรถยนต์ไฟฟ้า
  • vivo ได้อันดับ 4 จากการครองตลาดจีนและรุกตลาดเกิดใหม่
  • OPPO ตามมาในอันดับ 5 ทำยอดขายดีในอินเดีย ละตินอเมริกา และยุโรป

นอกจากนี้ แบรนด์นอก Top 5 ยังมี HONOR, Huawei และ Motorola ก็ยังคงเติบโตต่อเนื่อง โดย Huawei เป็น แบรนด์ที่ขายดีที่สุดในจีนใน Q1 2025

แนวโน้มตลาดสมาร์ทโฟนปี 2025

แม้ไตรมาสแรกของปีจะดูสดใส แต่ทาง Counterpoint Research คาดการณ์ว่า ตลาดสมาร์ทโฟนทั้งปี 2025 มีแนวโน้มจะหดตัวลงเล็กน้อย มาจากสาเหตุหลัก คือ

  • ความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและภาษีนำเข้า โดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกา
  • ผู้บริโภคชะลอการซื้อจากความกังวลในอนาคต
  • ปัญหาด้านซัพพลายเชนที่อาจกลับมาอีกครั้ง

ที่มา counterpointresearch

Read Entire Article