ตำนาน "ราชินีจอเงินฮ่องกง" ผู้ชนะใจเฉินหลง กลับมาสร้างเซอร์ไพรส์ในวัย 60 ปี

เปิดภาพล่าสุด “จาง ม่านอวี้” ราชินีจอเงินฮ่องกง หวนคืนสู่สายตาแฟน ๆ ในวัย 60 ปี

ราชินีจอเงินตลอดกาลของฮ่องกง “จาง ม่านอวี้” (Maggie Cheung) สร้างความฮือฮาอีกครั้ง หลังเปิดบัญชีอย่างเป็นทางการในแอป Xiaohongshu ทำให้ชื่อของเธอติดอันดับคำค้นหายอดฮิตทันที และจุดกระแสถกกันอย่างร้อนแรงในโซเชียล หลายคนเซอร์ไพรส์ที่ได้เห็นเธอออกมาเชื่อมต่อกับแฟน ๆ โดยตรง พร้อมรอคอยที่จะเห็นไลฟ์สไตล์ในชีวิตจริงของเธอ

จากเวทีนางงามสู่ราชินีภาพยนตร์

จาง ม่านอวี้ เกิดวันที่ 20 กันยายน 1964 เข้าสู่วงการบันเทิงจากการประกวด มิสฮ่องกง 1983 คว้าตำแหน่งรองอันดับหนึ่งและขวัญใจช่างภาพ เข้าสู่วงการบันเทิงด้วยการเป็นแสดงละครโทรทัศน์ให้กับทางทีวีบี (TVB) โดยประเดิมละครโทรทัศน์เรื่องแรกอย่าง Rainbow Round My Shoulder (1984) ที่แสดงประกบกับ หลี่เหลียงเหว่ย 

ผลงานละครเรื่องที่สองของเธอคือเรื่อง ขวัญใจโปลิศ (Police Cadet '84/1984) ประกบ เหลียงเฉาเหว่ย ก่อนที่จะข้ามไปแสดงภาพยนตร์ เรื่อง รักนี้เพื่อเธอ (Behind the Yellow Line /1984) ที่แสดงประกบกับราชาและราชินีเพลงกวางตุ้งในยุค 80s อย่าง เลสลี่ จาง และ เหมยเยี่ยนฟาง

โดยผลงานแจ้งเกิดในสายตานานาชาติ ได้แก่ วิ่งสู้ฟัด A Police Story (1985) คู่กับเฉินหลง และ As Tears Go By (1988) ผลงานกำกับแรกของหว่อง กาไว

จางม่านอวี้ ก้าวขึ้นเป็นนางเอกแถวหน้าของเอเชีย ทั้งกับผลงานหนัง เถียน มี มี่ 3650 วันรักเธอคนเดียว Comrades: Almost a Love Story (1996) ประกบ “หลี่หมิง” (Leon Lai), นางพญางูขาว ขอเพียงรักอยู่แม้คู่กันไม่ได้ (1993) ประกบ “หวังจู่เสียน” (Joey Wong In the Mood for Love (2000) ประกบ เหลียงเฉาเหว่ย (Tony Leung), รวมถึง Hero (2002) ประกบ “หลี่เหลียนเจี๋ย” (Jet Li) และอีกมากมาย 

นางเอกผู้เอาชนะใจเฉินหลง

ก่อนหมดสัญญากับ TVB ในปี 1985 จางม่านอวี้ได้ไปขอคำปรึกษาจากวิลลี่ ชาน ผู้จัดการคู่บุญของเฉินหลง ไม่นานวิลลี่ก็ตัดสินใจเซ็นสัญญาเป็นผู้จัดการของเธอ

ในเวลานั้น เฉินหลงกำลังคัดเลือกนางเอกสำหรับภาพยนตร์ วิ่งสู้ฟัด โดยมีตัวเลือกหลักคือ หลินชิงเสีย และจางม่านอวี้ สำหรับหลินชิงเสีย เฉินหลงคุ้นเคยกันมานานและรู้ดีว่าเธอปฏิเสธฉากแอ็กชันเสี่ยงอันตราย แต่จางม่านอวี้กลับต่างออกไป เธอกล้าที่จะลองทุกอย่างที่เขาเสนอ

POLICE STORY 2 (1988) วิ่งสู้ฟัด 2

แรกเริ่ม เฉินหลงมีอคติกับจางม่านอวี้อยู่ไม่น้อย เขาไม่เคยแชร์ผู้จัดการกับใคร แต่เพราะเป็นคำขอของวิลลี่ ชาน จึงยากจะปฏิเสธ ตอนเจอกันครั้งแรก เฉินหลงเห็นการแสดงของเธอแล้วไม่ค่อยประทับใจ พยายามจับผิดและให้ถ่ายใหม่หลายเทค ทว่าบรรยากาศในกองถ่ายซึ่งเต็มไปด้วยผู้ชายและทีมสตันท์แมน กลับเปลี่ยนไปเมื่อจางม่านอวี้เข้ามา เธอเติมเสียงหัวเราะและสร้างความสนิทสนมอย่างรวดเร็ว

ความตั้งใจและความพยายามของจางม่านอวี้ชนะใจทุกคน แม้เฉินหลงจะพอใจแล้วหลังถ่ายสามเทค แต่เธอกลับขอถ่ายเพิ่มอีกสามเทค รวมเป็นหกเทคเต็ม ๆ จนทีมงานต่างชื่นชม

สุดท้ายเฉินหลงยอมรับเธอเป็น “น้องสาวคนเล็ก” ในวงการ และเอ่ยปากสัญญา “คราวหน้าถ้ามีโอกาส ผมจะให้คุณเล่นหนังของผม”

เจ้าของสถิติรางวัลนักแสดงหญิงสูงสุด

ตลอดเส้นทางกว่า 70 เรื่อง เธอคว้ารางวัล นักแสดงหญิงยอดเยี่ยม Hong Kong Film Awards ถึง 5 ครั้ง จาก A Fishy Story (1989), สตรีที่โลกแกล้งให้แพงน้ำตา (Center Stage ,1992),  เถียน มี มี่ 3650 วันรักเธอคนเดียว Comrades: Almost a Love Story (1996), สามพี่น้องตระกูลซ่ง The Soong Sisters (1997) และ ห้วงรักเสน่ห์หา In the Mood for Love (2000) รวมถึงเป็นนักแสดงหญิงชาวเอเชียคนแรกที่คว้ารางวัล Best Actress จากเทศกาลภาพยนตร์เมืองคานส์ จากเรื่อง Clean (2004)

In the Mood for Love (2000)

เสน่ห์ที่ข้ามกาลเวลา

หลังเลิกรับงานแสดง จางม่านอวี้ ปรากฏตัวออกสื่อน้อยมาก ไม่กี่ปีก่อนหน้านี้เธอได้ไปออกอีเวนต์ด้วยรูปร่างซูบผอมจนหลายคนเป็นห่วง แต่ล่าสุดในวัย 60 ปี เธอกลับมาปรากฏตัวด้วยรอยยิ้มสดใสและพลังบวกทำให้ดูอ่อนกว่าวัยไปเป็นสิบปี ผ่านคลิปและภาพชีวิตประจำวันที่เต็มไปด้วยความเป็นธรรมชาติ ทำให้แฟน ๆ ทั่วเอเชียต่างยินดีและคิดถึงเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของเธอ

“ชีวิตคือสวนดอกไม้ มานั่งพักกันเถอะ… ไม่ว่าทางจะราบเรียบหรือขรุขระ เรามาแบ่งปันทิวทัศน์ระหว่างทางด้วยกันนะ” จาง ม่านอวี้ กล่าวในวิดีโอ