ตู้เย็น "พังกะทันหัน" ในฤดูร้อน ช่างไฟเผย 80% เกิดจาก 5 สาเหตุนี้ รู้ให้ทันก่อนเสียทรัพย์!

เตือนภัยหน้าร้อน! ช่างไฟฟ้าเผย 80% ตู้เย็นเสียกะทันหันเพราะ 5 พฤติกรรมผิดของผู้ใช้งาน

ในช่วงหน้าร้อนที่อุณหภูมิสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง "ตู้เย็น" กลายเป็นอุปกรณ์จำเป็นที่ทุกบ้านขาดไม่ได้ สำหรับการเก็บรักษาอาหารสดและของกินของใช้ให้สดใหม่อยู่เสมอ อย่างไรก็ตาม ช่างไฟฟ้าเตือนว่า ปัญหาตู้เย็น "เสียกลางอากาศ" หรือหยุดทำงานแบบไม่ทันตั้งตัวในฤดูร้อนนั้น มีสาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการใช้งานที่ผิดของผู้บริโภคถึง 80% โดยมี 5 ข้อผิดพลาดสำคัญที่ควรหลีกเลี่ยง หากต้องการยืดอายุการใช้งานของตู้เย็นและลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง

1. ถอดปลั๊กโดยไม่จำเป็น

หลายครอบครัวเลือกถอดปลั๊กตู้เย็นเมื่อออกเดินทางในช่วงวันหยุดยาว เพื่อประหยัดค่าไฟ แต่การปิดเครื่องนานเกินไปอาจทำให้ระบบภายในเสียหายได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง น้ำมันคอมเพรสเซอร์ ซึ่งจะไหลกลับเข้าตัวเครื่องและปล่อยให้ท่อหล่อเย็นว่างเปล่า ทำให้ท่อเหล่านั้นเสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติเพราะสารทำความเย็นกัดกร่อนท่อโดยตรง ช่างแนะนำว่า ควรเสียบปลั๊กตู้เย็นตลอดเวลา แม้จะไม่ได้ใช้งานเต็มที่ก็ตาม

2. ตั้งอุณหภูมิสูงเกินไปเพื่อหวังประหยัดไฟ

หลายคนปรับอุณหภูมิตู้เย็นให้สูงขึ้นเพื่อประหยัดพลังงานในฤดูร้อน แต่ความจริงกลับทำให้ระบบทำความเย็นไม่ทำงานตามปกติ โดยเฉพาะเมื่ออุณหภูมิที่ตั้งไว้สูงกว่าระดับที่เซ็นเซอร์รับได้ ตู้เย็นจะไม่เริ่มทำความเย็น ส่งผลให้อาหารในช่องแช่แข็งละลาย และเสื่อมสภาพ อุณหภูมิที่เหมาะสมควรอยู่ที่ต่ำกว่า -20 องศาเซลเซียส สำหรับช่องแช่แข็ง และไม่เกิน 4 องศาเซลเซียส สำหรับช่องแช่เย็น

3. ใส่อาหารแน่นเกินไป

ฤดูร้อนมักทำให้ผู้ใช้งานแช่เครื่องดื่มและของสดเพิ่มขึ้นในตู้เย็น แต่การจัดเก็บของแน่นจนเกินไปทำให้อากาศเย็นไม่สามารถหมุนเวียนได้ทั่วถึง ส่งผลให้ระบบทำงานหนักขึ้น และอาจเกิดความเสียหาย ช่างแนะนำให้ใช้กล่องเก็บอาหารแบบมีฝาปิด เพื่อช่วยจัดระเบียบและป้องกันอาหารล้นไปติดพัดลมหรือผนังตู้เย็น

4. วางตู้เย็นใกล้แหล่งความร้อน

ตู้เย็นที่วางใกล้เตาแก๊ส แอร์ หรือโดนแดดโดยตรง อาจทำให้ ระบบระบายความร้อนทำงานได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้คอมเพรสเซอร์ทำงานหนักขึ้น ซึ่งจะลดอายุการใช้งานของตู้เย็นจาก 10 ปี เหลือเพียง 3-5 ปีเท่านั้น ควรวางตู้เย็นให้ห่างจากแหล่งความร้อนอย่างน้อย 1.5 เมตร และในบริเวณที่มีการระบายอากาศที่ดี

5. ละเลยการดูแลยางขอบประตูตู้เย็น

ยางขอบประตูหรือ "ยางซีล" เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยให้ตู้เย็นรักษาอุณหภูมิภายในได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากยางเสื่อมสภาพหรือมีคราบอาหาร น้ำซุป หรือเศษสิ่งสกปรกติดอยู่ จะทำให้ตู้เย็นปิดไม่สนิท ส่งผลให้เครื่องต้องทำงานตลอดเวลา และกินไฟเพิ่มขึ้น ควร ทำความสะอาดยางซีลเป็นประจำ และเปลี่ยนทันทีหากพบว่าเสื่อมหรือไม่แนบสนิท

จากทั้งหมดที่กล่าวมา คือคำเตือนให้หลีกเลี่ยง 5 พฤติกรรมผิดพลาดนี้ ไม่เพียงแต่ช่วยป้องกันตู้เย็นเสียกลางคันในช่วงหน้าร้อนเท่านั้น แต่ยังช่วยประหยัดค่าไฟและลดภาระค่าซ่อมในระยะยาวอีกด้วย สำหรับผู้ใช้งานตู้เย็นในทุกครัวเรือน ควรใส่ใจการใช้งานอย่างถูกวิธี เพื่อยืดอายุการใช้งานและรักษาประสิทธิภาพของเครื่องให้คุ้มค่าสูงสุด

• ต่างชาติแชร์เคล็ดลับ "ใส่เกลือในตู้เย็น" ไม่ได้ช่วยแค่เรื่องกลิ่น แต่มีประโยชน์มากกว่านั้น!
• ประตูห้องน้ำ ควรปิดหรือเปิดเมื่อไม่ใช้งาน ชีวิตประจำวันที่หลายคนยังสับสน