บีบใจคนนับล้าน เผยเบื้องหลัง "ลูกชาย" ตายในอ้อมแขนแม่ ขณะชมดอกไม้ไฟครั้งสุดท้าย

1 week ago 5
❤️ ARTICLE AD BOX ❤️

โซเชียลฯ ร่วมอาลัย เด็กชายตายในอ้อมแขนแม่ ขณะชมดอกไม้ไฟครั้งสุดท้าย เผยเรื่องราวเบื้องหลัง "ป่วยอะไร" บีบใจคนนับล้าน 

ตามรายงานของ Elephant News ชายแซ่หลิว อาศัยอยู่ในเมืองกุ้ยหยาง มณฑลกุ้ยโจว ประเทศจีน รู้สึกว่าลูกชายของเขากำลังจะจากโลกนี้ไป หลังจากต่อสู้กับโรคหัวใจมานาน เขาและภรรยาจึงอยากพาลูกชายออกไปชมดอกไม้ไฟเป็นครั้งสุดท้าย

ภาพจากกล้องวงจรปิดเมื่อวันที่ 29 พ.ย.ที่ผ่านมา บันทึกภาพผู้เป็นแม่อุ้มลูกเล็กๆ ดูดอกไม้ไฟหน้าบ้าน โดยเธอยังคงเช็ดน้ำตาที่ไหลออกมาตลอดเวลา ขณะที่ผู้เป็นพ่อก็ยืนอยู่ข้างๆ และก้มลงจูบหน้าลูกชายเบาๆ

“เย็นวันนั้นมีคนจุดดอกไม้ไฟข้างนอก ภรรยาบอกว่าเราควรพาลูกไปดู แล้วเธอก็อุ้มเขาไว้ในอ้อมแขน พอเราออกไปดูดอกไม้ไฟ ในตอนที่พลุเริ่มจุดเราสงสัยว่าลูกจะจากเราไปเมื่อการแสดงจบลงหรือไม่ และใช่ ลูกชายจากเราไปทันทีหลังจากดอกไม้ไฟจบลง” ผู้เป็นพ่อเขียนเล่า

เด็กชายเสียชีวิตจากภาวะผนังกั้นห้องล่างบกพร่อง  ซึ่งเป็นภาวะที่มีผู้ป่วยโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดประมาณ 40% ในประเทศจีน นายหลิวกล่าวว่า ลูกชายได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคดีซ่านรุนแรงตั้งแต่แรกเกิด และเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลด้วยโรคปอดบวมเมื่ออายุได้ 3 เดือน ในช่วงเวลานั้น แพทย์พบว่ามีข้อบกพร่องเกี่ยวกับหัวใจ

เด็กชายต้องเข้ารับการผ่าตัดหัวใจเมื่ออายุเพียง 5 เดือน หลังการผ่าตัด 3 วัน หัวใจก็หยุดเต้นกะทันหัน แพทย์พยายามช่วยชีวิต โดยผู้ป่วยต้องพักรักษาตัวในห้อง ICU เป็นเวลา 1 เดือน หลังจากนั้นแพทย์แนะนำให้นายหลิวและภรรยาหยุดการรักษาลูกชาย

ผู้เป็นพ่อเล่าอย่างเจ็บปวดว่า “หมอบอกเราว่ามีช่องโหว่มากมายในหัวใจของเขา และการผ่าตัดต่อไปก็ไม่มีประโยชน์ เราใจสลายและไม่มีความหวังอีกต่อไป หากมีความเป็นไปได้ที่จะรักษาลูกชายของเรา เราจะขอความช่วยเหลือจากแพทย์ต่อไปอย่างแน่นอน”

เรื่องราวสุดสะเทือนใจนี้ได้รับความเห็นอกเห็นใจมากมายบนโซเชียลเน็ตเวิร์กของจีน บนแพลตฟอร์ม Douyin ชาวเน็ตต่างพากันเข้ามาแสดงความเสียใจและปลอบโยนครอบครัวของนายหลิว

"ตั้งแต่เป็นแม่คน ฉันมักจะหลั่งน้ำตาทุกครั้งที่ได้ยินเรื่องราวเช่นนี้เกี่ยวกับเด็กๆ"

“หลับให้สบายนะเด็กน้อย ขอให้หายจากความเจ็บปวดในสวรรค์”

“ลูกจากไปในที่ที่ไม่มีทุกข์ พ่อแม่ไม่ควรโทษตัวเองมากเกินไป ขอให้รักตัวเองแล้วจะมีความหวังกับอนาคต”

Read Entire Article