“เหอ อี๋ เต๋อ” อัจฉริยะเด็กจีน เข้าร่วมมหาวิทยาลัยตั้งแต่อายุ 8 ปี ชีวิตปัจจุบันเป็นอย่างไร?
ย้อนรอยชีวิต “เหอ อี๋ เต๋อ” (何宜德) ผู้เข้ามหาวิทยาลัยตั้งแต่อายุ 8 ปี ชีวิตที่ถูกวางแผนตั้งแต่วัยอนุบาล กับเส้นทางที่ไม่เหมือนใคร จากเด็กอัจฉริยะสู่คำถามเรื่องความสุขในชีวิตจริง เมื่อความสำเร็จไม่ได้มาพร้อมรอยยิ้ม
อดีต “เด็กเทพ” แห่งแดนมังกร ผู้เคยสร้างความฮือฮาไปทั่วประเทศจีน ด้วยผลงานอันน่าทึ่งในวัยเพียงไม่กี่ขวบ ย้อนกลับไปเมื่อปี 2010 ขณะที่เขาอายุเพียง 5 ขวบ กลายเป็นนักบินที่อายุน้อยที่สุดในโลก จากการขับเครื่องบินเบานาน 47 นาที จนถูกบันทึกสถิติโลกโดยกินเนสส์เวิลด์เรคคอร์ด ต่อมาเพียง 3 ปี เขาเข้าศึกษาในมหาวิทยาลัยชื่อดัง “มหาวิทยาลัยหนานจิง” ด้วยวัยเพียง 8 ขวบ กลายเป็นสัญลักษณ์ของ “เด็กอัจฉริยะ” และตัวอย่างในฝันของผู้ปกครองทั่วประเทศจีน
อย่างไรก็ตาม เบื้องหลังความสำเร็จที่ดูเหมือนสมบูรณ์แบบนี้ กลับมาพร้อมเสียงวิจารณ์และข้อถกเถียงเกี่ยวกับวิธีการเลี้ยงดูสุดโหดของผู้เป็นพ่อ
“การศึกษาแบบอินทรี” กับวัยเด็กที่ไม่ธรรมดา
เหอ อี๋ เต๋อ เกิดเมื่อปี 2005 เขาเติบโตภายใต้การเลี้ยงดูโดยตรงของพ่อ เหอ ลี่ เถิง (何烈胜) นักธุรกิจผู้เชื่อมั่นในแนวคิด "การศึกษาแบบอินทรี" (Eagle Education) หรือการเลี้ยงลูกให้เข้มงวดเหมือนนกอินทรีฝึกลูกบินด้วยวิธีรุนแรง เพราะผู้เป็นพ่อเชื่อว่าเด็กต้องผ่านการฝึกฝนอย่างหนัก เพื่อเติบโตเป็นคนที่มีความอดทน แข็งแกร่ง และพึ่งพาตนเองได้
ตั้งแต่ยังเล็ก เหอ อี๋ เต๋อ ไม่ได้เข้าเรียนตามระบบโรงเรียนทั่วไป แต่ได้รับการสอนจากพ่อที่บ้าน โดยมีตารางเวลาชีวิตชัดเจน ตั้งแต่ตื่นนอนเวลา 6.45 น. ไปจนถึงเข้านอนเวลา 20.30 น. นอกเหนือจากการเรียนวิชาหลัก เขายังต้องเรียนเทควันโดและหมากรุก ความเข้มข้นของการฝึกฝนนั้นแสดงออกชัดในวัย 4 ขวบ เมื่อเขาต้องออกวิ่งในหิมะโดยสวมเพียงกางเกงขาสั้น และในวัย 5 ขวบ เขาเริ่มเรียนการบินจนสามารถสร้างสถิติระดับโลก
ต่อมาเมื่ออายุเพียง 7 ปี เหอ อี๋ เต๋อ ได้จดทะเบียนบริษัทโดยใช้ชื่อของตนเอง และเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดของบริษัทถึง 40% พร้อมกับดึงดูดนักลงทุนจากทั่วประเทศ ในขณะที่เด็กคนอื่นเรียนระดับประถม เขากลับจบมัธยมปลายภายใน 2 ปี และสอบเข้ามหาวิทยาลัยหนานจิงในวัยเพียง 8 ขวบ
อย่างไรก็ดี แม้ เหอ อี๋ เต๋อ จะประสบความสำเร็จ แต่วิธีการเลี้ยงดูของพ่อกลับกลายเป็นประเด็นที่ก่อให้เกิดความขัดแย้งในครอบครัว เมื่อผู้เป็นแม่ของเด็กไม่เห็นด้วยกับแนวทางสุดโต่งนี้ และปฏิเสธที่จะให้ลูกสาวคนเล็กต้องเผชิญกับเส้นทางเดียวกัน โดยเชื่อว่าแนวทางของสามีได้พรากความสุขในวัยเด็กของลูกชายไป เหอ อี๋ เต๋อ ไม่มีเพื่อนวัยเดียวกัน ไม่มีชีวิตแบบเด็กทั่วไป และเติบโตมาภายใต้ความกดดันอย่างต่อเนื่อง
แม้จะมีเสียงคัดค้านจากหลายฝ่าย แต่พ่อของเขายังคงยืนยันว่า สิ่งที่ทำลงไปก็เพื่ออนาคตของลูก เขากล่าวว่า "ตอนแรกผมก็แค่อยากให้ลูกเป็นเด็กธรรมดา แต่เมื่อเห็นศักยภาพของเขา ผมรู้ว่าต้องใช้ ‘การศึกษาแบบอินทรี’ เท่านั้น ถึงจะดึงศักยภาพนั้นออกมาได้"
ชีวิตในปัจจุบัน: โตขึ้นพร้อมคำถามเรื่องความสุข
หลังจากเข้ามหาวิทยาลัยตั้งแต่ยังเด็ก เหอ อี๋ เต๋อ ยังคงรักษาวินัยในการเรียนอย่างเคร่งครัด เขาจบปริญญาตรีในปี 2019 และได้เข้าร่วมรายการแข่งขันทางปัญญาหลายรายการในจีน ทำให้ชื่อเสียงของเขายังคงเป็นที่พูดถึงในสังคม แต่ในบทสัมภาษณ์หนึ่ง เจ้าตัวได้เผยความรู้สึกว่า “จริงๆ แล้ว ผมไม่เคยชอบวิธีการสอนของพ่อเลย เขาเข้มงวดเกินไป ผมแค่อยากใช้ชีวิตแบบคนธรรมดา”
อย่างไรก็ตาม เมื่อโตขึ้น เหอ อี๋ เต๋อ เริ่มเข้าใจในสิ่งที่พ่อต้องการ และแม้จะไม่มีวัยเด็กที่เปี่ยมสุขเหมือนน้องสาว แต่เขาก็ยอมรับว่า วัยเด็กของตนนั้น “มีความหมาย” ในแบบของมันเอง
ปัจจุบัน เหอ อี๋ เต๋อ เติบโตขึ้นเป็นชายหนุ่มในวัย 20 ปี เขายังคงใช้ชีวิตอย่างมีวินัย เรียนหนังสือจากที่บ้าน และเตรียมตัวสอบทั้งระดับปริญญาโทและเอกไปพร้อมกัน ขณะที่ความชื่นชมและคำถามเรื่อง “ความสุขของเด็กอัจฉริยะ” ยังคงเป็นประเด็นที่ถกเถียงในสังคมจีนจนถึงทุกวันนี้
- ปัจจุบันของ "เทพคณิต" อายุขึ้นเลข 3 โดนเย้ยไม่มีบ้าน-รถ แต่รู้รายได้ขาเมาส์สงบปาก!
- จำได้ไหม?! เล่าช็อก "เด็กกล้าม" อดีตที่โด่งดัง เบื้องหลังทารุณฯ ย้ำแฮปปี้ "อาชีพปัจจุบัน"