ผลไม้สีเขียวที่คุ้นเคย หมอยกเป็น "ขุมทรัพย์สุขภาพ" คนไทยส่วนใหญ่บอก มันคือผัก!

2 months ago 51
❤️ ARTICLE AD BOX ❤️

ผลไม้สีเขียวที่คุ้นเคย หมอยกเป็นขุมทรัพย์สุขภาพ-ป้องกันมะเร็ง คนไทยส่วนใหญ่คิดว่าเป็นผักมาตลอด

แตงกวา (รวมไปถึงแตงร้าน) เป็นพืชผักที่นิยมปลูกกันมากในประเทศไทย เนื่องจากมีระยะเวลาเจริญเติบโตสั้น ดูแลง่าย และสามารถปลูกได้ในหลายสภาพภูมิอากาศ

ตั้งแต่อดีตกาล หมอผู้มีชื่อเสียงของจีนในสมัยปลายราชวงศ์ฮั่นตะวันออกและต้นสามก๊ก “ฮัวถัว” (ค.ศ. 145–208) ได้ให้ความสำคัญกับแตงกวาอย่างมาก โดยเขาถือว่าแตงกวาเป็นผลไม้บำรุงสุขภาพที่ช่วยให้แข็งแรงและมีอายุยืนยาว

ฮัวถัวได้ถ่ายทอดเคล็ดลับไว้ให้คนรุ่นหลังว่า: “แตงกวาผลเล็กคือขุมทรัพย์แห่งสุขภาพ หากรับประทานเป็นประจำจะช่วยลดน้ำหนักและบำรุงผิวพรรณได้ดี”

นายแพทย์แผนไทยเวชศาสตร์ ดร.เหงียน ฮู ตร่ง ผู้อำนวยการสถาบันวิจัยการแพทย์แผนโบราณผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกของเวียดนาม เปิดเผยว่า แตงกวามีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Cucumis อยู่ในวงศ์แตง (Cucurbitaceae)

แตงกวาปลูกโดยใช้เมล็ด และสามารถเก็บเกี่ยวได้ตลอดทั้งปี นิยมรับประทานแบบสด หรือแปรรูปบรรจุกระป๋อง ในเวียดนามมีการปลูกแตงกวากันมากในจังหวัดต่าง ๆ เช่น แทงฮว้า, เหงะอาน, ฮาตินห์, เตวียนกวาง, ฮึงเอียน, ฮาซาง ฯลฯ

แตงกวา มีประโยชน์ต่อสุขภาพ

ในแตงกวาสด 100 กรัม ให้พลังงานประมาณ 13–15 กิโลแคลอรี โดยกว่าร้อยละ 95 ของแตงกวาเป็นน้ำ แตงกวายังมีเส้นใย วิตามินและแร่ธาตุต่าง ๆ เช่น วิตามินซีช่วยเสริมภูมิคุ้มกัน วิตามินเคช่วยในการแข็งตัวของเลือดและบำรุงกระดูก กรดโฟลิก (วิตามินบี 9) ซึ่งสำคัญต่อหญิงตั้งครรภ์ และโพแทสเซียมที่ช่วยควบคุมความดันโลหิต นอกจากนี้ ยังอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น เบต้าแคโรทีน และฟลาโวนอยด์

ดร.ตร่ง ระบุว่า แตงกวายังมีโปแตสเซียมสูง เมือก Erepsin (เอนไซม์ที่ย่อยโปรตีน), กรดอินทรีย์ และสารหอมระเหย

ในศาสตร์การแพทย์แผนโบราณ แตงกวามีรสหวาน เย็น มีสรรพคุณช่วยดับร้อน แก้กระหาย ลดกรดยูริกและเกลือยูเรต ขับปัสสาวะและช่วยให้นอนหลับสบาย ทำให้ผิวเนียนใส

ดร.ตร่งยังระบุอีกว่า แตงกวาเป็นอาหารที่กินสดได้อย่างมีคุณค่าและช่วยดับร้อน คลายพิษ มีการนำไปใช้ในกรณีมีไข้เล็กน้อย อาหารเป็นพิษ ปวดท้อง โรคเกาต์ อาการบิดติดเชื้อ อาการผื่นคันที่ผิวหนัง และใช้ในเครื่องสำอางและยาบำรุงผิว

นพ.ดวือง ง็อก วัน (Dương Ngọc Vân) จากโรงพยาบาลเมดลาเทค กล่าวว่า แตงกวามีสารต้านอนุมูลอิสระหลากชนิด เช่น เบต้าแคโรทีน แมงกานีส โมลิบดีนัม และฟลาโวนอยด์ ซึ่งช่วยป้องกันการทำลายเซลล์ จึงถือเป็นวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยป้องกันมะเร็ง งานวิจัยบางชิ้นยังระบุว่าแตงกวามีส่วนช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งในระยะเริ่มต้น

นอกจากนี้ แตงกวายังช่วยควบคุมความดันโลหิต บำรุงผิว ลดน้ำหนัก และดีต่อระบบย่อยอาหาร

สูตรยาจากแตงกวา

ดร.ตร่ง ได้แนะนำสูตรยาจากแตงกวาดังนี้:

  • แก้อาการบวมน้ำ ท้องอืด แขนขาบวม:
    แตงกวา 2 ลูก (200–300 กรัม) + น้ำส้มสายชูหมัก 200 มล.
    ผ่าแตงกวาเป็นชิ้น ๆ ทั้งเปลือกและเมล็ด ต้มกับน้ำส้มพอเดือด (ไม่ต้มจนเปื่อย) ให้ผู้ป่วยกินทั้งน้ำและเนื้อแตงกวาในช่วงเช้าขณะท้องว่าง วันละ 1 ครั้ง ติดต่อกัน 2–3 วัน จะช่วยขับน้ำและลดอาการบวมได้

  • แก้อาการบิดร้อนในเด็ก:
    แตงกวาอ่อน 10 ลูก + น้ำเชื่อมหรืออ้อยเคี่ยวให้เหนียว
    ล้างแตงกวาให้สะอาดแล้วใส่ลงในน้ำเชื่อมเคี่ยวจนกลายเป็นคล้าย ๆ แยม ให้เด็กกินต่อเนื่อง 1–2 วัน อาการจะดีขึ้น

  • รักษาอาการข้ออักเสบ ปวดข้อ นิ้วมือ นิ้วเท้าบวมแดง (เกาต์):
    แตงกวาอ่อนสด 3–5 ลูก ล้างให้สะอาด กินสด วันละ 1–2 ลูก

ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าไม่ควรกินแตงกวามากเกินไป เพราะแตงกวามีธาตุเย็น หากกินมากอาจทำให้ปัสสาวะบ่อย และไม่เหมาะกับผู้ที่ไตอ่อนแอ บางลูกอาจมีรสขมเนื่องจากมีสาร cucurbitacins หากบริโภคมากเกินไปอาจทำให้รู้สึกไม่สบาย

แตงกวาเป็นผักหรือผลไม้

ในแง่ของวิทยาศาสตร์กล่าวถึงผลไม้ ว่าเป็นโครงสร้างการสืบพันธุ์ที่กินได้ ได้แก่ รังไข่ของพืชดอก พวกเขามีเมล็ดซึ่งเป็นวิธีที่สายพันธุ์แพร่กระจาย ส่วนผักก็คือ ใบ ลำต้น ราก หน่อ และส่วนอื่นๆ ของพืชที่เรากินเข้าไป

ดังนั้นแตงกวาสำหรับนักพฤกษศาสตร์ถือเป็น "ผลไม้" เนื่องจากแตงกวาเป็นผลพลอยได้จากการปฏิสนธิของดอกไม้ และประกอบด้วยเมล็ดพืช แม้ว่าจะมีแตงกวาเกือบหลายร้อยชนิดที่มีทั้งแบบมีเมล็ด และไม่มีเมล็ด แต่ทั้งหมดถือเป็นผลไม้

Read Entire Article