ชายชาวไต้หวันรายหนึ่ง (ใช้นามสกุล “อู๋”) สังเกตเห็นว่าในมือถือของภรรยา มีโฆษณาโรงแรมม่านรูด (หรือ “โมเทล”) โผล่ขึ้นมาบ่อยผิดปกติบนหน้า Google Search จนเขาเริ่มสงสัยว่าอาจมีบางอย่างผิดปกติ
เมื่อตั้งคำถามตรงๆ ภรรยาจึงยอมรับว่า เธอมีความสัมพันธ์ทางเพศกับชายอื่นซึ่งรู้จักกันผ่านแอปหาคู่ โดยใช้ชื่อสกุล “หวง” ซึ่งเรื่องนี้ดำเนินมายาวนานตั้งแต่ปี 2018 หรือกว่า 5 ปีแล้ว!
ภรรยายังเปิดเผยอีกว่า เธอกับชายคนนี้นัดเจอกันประมาณเดือนละครั้ง และแม้แต่ช่วงที่เธออยู่ในระหว่าง “อยู่ไฟ” หลังคลอดลูกคนที่สอง ก็ยังแอบนัดมีเพศสัมพันธ์ด้วยเช่นกัน
หลักฐานแชตระหว่างทั้งสองคนยังเผยให้เห็นบทสนทนาเร่าร้อนที่บรรยายรายละเอียดเซ็กซ์อย่างโจ่งแจ้ง เช่น
-
“เห็นเธอโดนปล่อยตรงนั้นแล้วมันฟินมากเลย”
-
“ครั้งล่าสุดที่รู้สึกตื่นเต้นที่สุด คือตอนที่เราทำกันบนภูเขาแถวว่ายผู่”
-
“ยังไม่เคยปล่อยข้างในเลยสักครั้ง”
และยังมีภาพอวัยวะเพศที่ส่งมาเพื่อยั่วอีกด้วย
หลังจากจับได้ทั้งหมด นายอู๋จึงตัดสินใจยื่นฟ้องเรียกค่าเสียหายจากชายชู้เป็นจำนวนเงิน 500,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ราว 580,000 บาท) โดยให้เหตุผลว่าพฤติกรรมของชายรายนี้ทำให้เขาเกิดความเครียดขั้นรุนแรง จนเป็นโรคซึมเศร้า และไม่สามารถทำงานในตำแหน่งข้าราชการต่อได้ ต้องเปลี่ยนอาชีพไปทำงานช่างติดตั้งท่อแทน
คำตัดสินของศาล: ชู้ยอมรับผิดบางส่วน แต่ศาลไม่ปักใจเชื่อ
ศาลแขวงเมืองเกาสง (Kaohsiung District Court) ได้พิจารณาคดี และพบว่าชายชื่อหวงยอมรับว่าเคยมีเพศสัมพันธ์กับภรรยานายอู๋จริง แต่ยืนยันว่าเป็นเพียงครั้งเดียว และที่เหลือแค่คุยกันผ่านข้อความเท่านั้น
อย่างไรก็ตาม ศาลตรวจสอบแชตข้อความแล้วพบว่ามีการพูดถึงประสบการณ์ทางเพศหลายครั้ง ขัดแย้งกับคำให้การ และภรรยานายอู๋ก็ยอมรับเองว่ามีสัมพันธ์กับชู้มากกว่าหนึ่งครั้ง
สุดท้าย ศาลจึงมีคำสั่งให้ชายชู้จ่ายค่าเสียหายเป็นจำนวน 300,000 ดอลลาร์ไต้หวัน (ประมาณ 350,000 บาท) พร้อมสิทธิ์ในการอุทธรณ์