พยาบาลปวดขา อดทนรอการรักษา 16 ชั่วโมง เพราะหมอตรวจไม่ละเอียด ฟื้นขึ้นมาอีกทีหมอบอก "ตัดไปแล้ว"
หญิงสาววัย 26 ปีในอังกฤษซึ่งเป็นพยาบาล ต้องเผชิญเหตุการณ์สะเทือนใจ หลังเธอเข้ารับการรักษาที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลท้องถิ่นด้วยอาการปวดขารุนแรง แต่กลับถูก ปล่อยให้รอการรักษานานถึง 16 ชั่วโมง จนกระทั่งเมื่อตื่นจากการผ่าตัด ก็พบว่าขาซ้ายของเธอถูก ตัดออกไปแล้ว
ตามรายงานจาก The Sun เหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อปีที่แล้ว ขณะนั้น มอลลี่ ฮาร์บรอน (Molly Harbron) อายุ 22 ปี กำลังทำงานเป็นพยาบาล เธอมีอาการ ปวดขาซ้ายอย่างรุนแรง ชา เย็นจัด และเริ่มเปลี่ยนสี จึงรีบไปที่ห้องฉุกเฉินของโรงพยาบาลในเวสต์ยอร์กเชอร์ แพทย์สงสัยว่าเธออาจเป็น ลิ่มเลือดอุดตันในหลอดเลือดดำส่วนลึก (DVT) ซึ่งถือว่าอันตรายถึงชีวิต
อย่างไรก็ตาม โรงพยาบาลกลับ ไม่ดำเนินการรักษาโดยทันที และปล่อยให้รอจนกระทั่งผ่านไป กว่า 16 ชั่วโมง จึงเริ่มผ่าตัด ซึ่งล่าช้าเกินไป เมื่อเธอฟื้นจากยาสลบ แพทย์ก็แจ้งข่าวร้ายว่าขาซ้ายของเธอถูกตัดไปแล้ว และถึงกับโชว์ขาส่วนที่ถูกตัดออก
มอลลี่เผยว่าเธอรู้สึกเหมือนฝันร้าย เมื่อรู้ว่าตัวเองเสียขาไปถึงกับร้องไห้ฟูมฟาย เธอเคยมีชีวิตที่แอคทีฟ ชอบวิ่งสัปดาห์ละ 3 ครั้ง และรักในงานพยาบาล แต่เหตุการณ์นี้ทำให้เธอรู้สึก หมดคุณค่าในชีวิต และหลังจากนอนโรงพยาบาล 18 วัน เธอก็ตัดสินใจลาออกจากงาน
ต่อมาโรงพยาบาลออกมายอมรับว่า แพทย์ ไม่ได้ตรวจละเอียดในตอนแรก และหากเธอได้ผ่าตัดตั้งแต่เวลา 3 ทุ่มในคืนที่เข้ารับการรักษา ก็อาจ ไม่ต้องถูกตัดขา โดยระบุว่าเป็นความบกพร่องของทีมแพทย์
จากเหตุการณ์นี้ มอลลี่ได้ว่าจ้างทนายความฟ้องเรียกค่าเสียหายจากโรงพยาบาล เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายในการทำกายภาพบำบัดและดูแลขาเทียมตลอดชีวิต
ผ่านมาเกือบ 5 ปี มอลลี่สามารถปรับตัวกับการใช้ขาเทียมได้ดี เธอสามารถเดินลงบันไดไปซื้อของ ขับรถ และใช้ชีวิตได้ตามปกติ นอกจากนี้ หนึ่งเดือนหลังผ่าตัด เธอก็พบกับคนรักและปัจจุบันแต่งงานกันแล้ว
แม้จะสามารถใช้ชีวิตใหม่ได้ แต่มอลลี่ยังย้ำว่า เธอหวังว่าเรื่องราวของเธอจะช่วยเป็นอุทาหรณ์ เพื่อไม่ให้ใครต้องเผชิญชะตากรรมแบบเดียวกับเธออีก