น้องชายถึงกับตะลึง เมื่อรู้เหตุผลที่พี่ชายปฏิเสธที่ดิน 500 ตารางเมตรจากพ่อแม่ และเลือกแค่รับเงินมรดก 2.7 ล้านบาท
เว็บไซต์ SOHA ของเวียดนาม เผยเรื่องราวของชายคนหนึ่ง ซึ่งเพิ่งทราบเหตุผลที่แท้จริง ที่พี่ชายไม่รับมรดก ที่ดิน 500 ตารางเมตร ของพ่อแม่ และขอรับแค่เงิน 2 พันล้านดอง (ประมาณ 2.7 ล้านบาท) แทน
ผู้เป็นน้องชาย เล่าว่า หลังจากเรียนจบ พี่ชายกับเขาต่างก็อยู่ทำงานในเมืองและแต่งงานกันไปแล้ว ไม่มีใครคิดจะกลับไปอยู่ที่บ้านเกิด แต่ทั้งสองคนก็ดูแลพ่อแม่เป็นอย่างดี
เมื่อท่านสุขภาพไม่ดี พี่ชายคนโตจึงพาพ่อแม่ไปอยู่ที่เมืองเพื่อดูแล พี่สะใภ้ก็ทำหน้าที่เป็นแม่บ้านและช่วยดูแลพ่อแม่ด้วย เขาจึงได้เสนอให้ใช้เงินบำนาญของแม่จ่ายค่าตอบแทนให้สะใภ้ ส่วนเงินของพ่อให้ใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน พี่ชายก็เห็นด้วย ดังนั้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา พ่อแม่จึงมีชีวิตที่สงบสุขอยู่กับพี่ชายและสะใภ้
ทุกสัปดาห์ครอบครัวของเขาจะไปเยี่ยมพ่อแม่ที่บ้านพี่ชาย และนำของอร่อยๆ ไปทำให้พวกท่านกิน ลูกๆ ของเขาก็มีความสุขและรอคอยวันที่จะได้ไปเยี่ยมคุณปู่คุณย่า
ก่อนที่พ่อจะจากไป พ่อได้ให้เงิน 2 พันล้านดอง (ประมาณ 2.7 ล้านบาท) กับพี่ชาย และบอกว่าให้เก็บไว้สำหรับใช้ดูแลแม่ในยามเจ็บป่วย หากแม่จากไปแล้วและยังมีเงินเหลือก็จะแบ่งให้ลูกๆ แต่หลังจากพ่อจากไปได้เพียง 1 ปี แม่ก็ป่วยหนักและจากไปเช่นกัน เงินก้อนดังกล่าวจึงยังไม่ได้ใช้จนถึงตอนนี้
เมื่อเดือนที่แล้ว พี่ชายได้โทรหาเขาเพื่อพูดคุยเรื่องการเงิน โดยบอกว่าต้องการจะเอาเงินทั้งหมดที่พ่อแม่ทิ้งไว้ ขณะที่เขากับภรรยา ก็รับมรดกเป็นที่ดิน 500 ตารางเมตร ที่บ้านเกิดของพ่อแม่ไป ในตอนนั้นเขาเห็นด้วยอย่างเต็มที่ เพราะที่ดินในบ้านเกิดพ่อแม่มีขนาดใหญ่ ถ้าแบ่งขายเป็นหลายๆ แปลงก็น่าจะได้ถึง 5 ผืน และที่ดินในชนบทตอนนี้ก็กำลังมีมูลค่าสูง
นอกจากนี้ พี่ชายยังได้เขียนเอกสารเตรียมไว้แล้วและขอให้เขาเซ็นรับรองเพื่อป้องกันความขัดแย้ง หลังจากพี่ชายยื่นกระเป๋าที่มีโฉนดที่ดินอยู่ข้างในให้ เขาก็นับมาเก็บไว้โดยไม่ได้เปิดดู
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เขาได้โทรหาญาติที่เป็นคนขายที่ดินในบ้านเกิดให้ และตกใจเมื่อเขาบอกว่าแปลงที่ดินที่พ่อแม่ของเขาอยู่นั้น เป็นที่ดินที่บรรพบุรุษทิ้งไว้ให้ลูก ๆ ทั้ง 9 คน และไม่ได้โอนชื่อให้ใคร ที่ดินนี้เป็นเพียงที่ดินที่พ่อแม่สร้างบ้านอยู่ และไม่มีสิทธิ์ขาย
เขารีบหยิบโฉนดออกมาดู และพบว่าโฉนดที่ถืออยู่ชื่อของปู่ย่า แต่ไม่ใช่ชื่อของพ่อแม่ตัวเอง จากนั้นโทรไปสอบถามพี่ชาย อีกฝ่ายก็บอกว่ามีเอกสารที่เซ็นยืนยันแล้วว่าเงิน 2 พันล้านดอง (ประมาณ 2.7 ล้านบาท) นั้นเป็นของพี่ชาย และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ส่วนที่ดินของพ่อแม่ก็เป็นของเขา สามารถทำอะไรกับมันก็ได้
เพราะเขาเชื่อใจพี่ชาย และไม่ได้ตรวจสอบเรื่องที่ดินให้ชัดเจน ตอนนี้จึงต้องก็ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากมาก ไม่รู้จะทำอย่างไรดี?