พ่อลูกหน้าไม่เหมือนกัน พี่สะใภ้แอบตรวจ DNA แฉเด็กไม่ใช่ลูกแท้ๆ สุดท้ายหน้าชาเอง

2 days ago 4
❤️ ARTICLE AD BOX ❤️

พ่อลูกหน้าไม่เหมือนกัน ว่าที่พี่สะใภ้แอบตรวจ DNA แฉเด็กไม่ใช่ลูกแท้ๆ สุดท้ายหน้าชาเอง อ่านให้จบ! เรื่องพลิกและพีคมาก

ชายวัย 30 ปี รายหนึ่งโพสต์เล่าเรื่องสุดอึ้งบน Reddit ว่าเขารับเลี้ยง “ลิลลี่” ลูกสาวของเพื่อนสนิทในวัยเด็กซึ่งเป็นผู้หญิง ซึ่งเธอกับสามีเสียชีวิตจากเหตุยิงกัน ทำให้เด็กคนนี้ไม่มีญาติพึ่งพา

แม้จะกังวลว่าจะเลี้ยงเด็กได้ดีหรือไม่ แต่เขาไม่อยากให้ลิลลี่เติบโตในบ้านอุปถัมภ์ จึงตัดสินใจรับเธอมาเลี้ยงเอง พร้อมบอกว่าเขาไม่เคยโกหกลิลลี่เรื่องสายเลือด เธอรู้ว่าพ่อแม่ของเธอเสียชีวิตจาก “คนไม่ดี” และตั้งใจจะเล่ารายละเอียดให้เธอฟังเมื่อโตพอที่จะเข้าใจ

จุดแตกหักเริ่มจากภาพถ่ายเก่า

วันหนึ่ง ขณะจัดงานเลี้ยงที่บ้าน คู่หมั้นของพี่ชายเห็นภาพถ่ายเก่า ที่มีตัวเขาเอง เพื่อนหญิง และสามีของเพื่อนอยู่ในรูป เธอถามว่า “ผู้หญิงในภาพคือใคร” เมื่อรู้ว่าเป็นแม่ของลิลลี่ เธอก็เงียบไป แต่กลับแอบไปตรวจ DNA!

เธอเอา DNA ของพี่ชายเขาไปเทียบกับลิลลี่ และเมื่อผลออกมาว่าไม่ใช่ญาติกัน เธอก็สรุปว่า เขาเองก็ไม่ใช่พ่อของลิลลี่

เปิดโปงกลางบ้าน สุดท้ายพังไม่เป็นท่า

เธอถือผลตรวจมาแฉต่อหน้าลิลลี่วัย 6 ขวบ พร้อมกล่าวหาเขาว่า “คุณเลี้ยงลูกของผู้หญิงที่ตายไปแล้ว ที่นอกใจสามีตัวเอง!” เขานิ่งไปซักพัก แล้วตอบกลับด้วยรอยยิ้มว่า "ผมรู้อยู่แล้วว่าเราไม่เกี่ยวกันทางสายเลือด และนี่เขาเรียกว่า การรับเลี้ยงบุตรบุญธรรม”

คู่หมั้นของพี่ชายถึงกับหน้าแดงด้วยความโกรธและเดินออกไปอย่างหัวเสีย ส่วนพี่ชายของเขากลับโกรธใส่เขาแทน บอกว่าเขาทำให้คู่หมั้นต้องอับอาย เขาจึงสวนกลับว่า “เธอเอา DNA ของลูกผมไปตรวจโดยพลการ แล้วเอามาอวดผมอีก แบบนั้นต่างหากที่น่าอาย!”

โซเชียลถล่มพฤติกรรม “ใจร้ายอย่างรุนแรง”

ชาวเน็ตพากันแสดงความไม่พอใจ และประณามพฤติกรรมของว่าที่พี่สะใภ้รายนี้ เช่น :

  • “เธอจงใจหาเรื่องชัด ๆ แถมต้องแอบเอา DNA เด็กมาได้ยังไง?”

  • “เธอโกรธเพราะเรื่องไม่เป็นไปตามที่วางแผนไว้ ส่วนพี่ชายก็แค่เข้าข้างแฟน”

  • “การพูดเรื่องนี้ต่อหน้าเด็ก คือเจตนาทำร้ายเต็มที่ มันไม่ใช่แค่ใจร้าย แต่มันคือ ‘ชั่วร้าย’!”

สุดท้ายต้นเหตุคือ "พี่ชาย"

หลังเกิดเรื่องบาดหมางขึ้น เขาจึงได้รู้ความจริงว่า พี่ชายที่รู้อยู่แล้วเรื่องรับเลี้ยงลิลลี่ แต่กลับโกหกคู่หมั้นว่า น้องชายเคยเป็นชู้กับแม่ของลิลลี่ และลิลลี่คือลูกของทั้งคู่

น้องชายโทรไปหาพี่ชายเพื่อถามความจริง เขาก็ยอมรับว่าโกหก เพราะเขาไม่เข้าใจว่าทำไมน้องถึงยอมรับเด็กมาเลี้ยงทั้งที่ไม่อยากมีลูก ถ้าไม่ใช่เพราะเป็นลูกแท้ ๆ ของตัวเอง แต่กลับมาบอกครอบครัวว่ารับเลี้ยงลูกเพื่อน

ว่าที่พี่สะใภ้แอบตรวจ DNA หลังเห็นภาพถ่ายเก่าเพื่อพิสูจน์ว่าเขาเลี้ยงลูกคนอื่นอยู่ แต่พี่ชายร่วมมือในการตรวจเพื่อให้มีหลักฐานว่าลิลลี่เป็นลูกของน้องชายจริงๆ ผลกลับกลายเป็นว่า DNA ไม่ตรงกัน และพี่ชายก็เข้าใจผิดมาตลอด

ลิลลี่ไม่ใช่ลูกของเขาจริงๆ เขารับเลี้ยงลูกเพื่อนโดยไม่มีอย่างอื่นแอบแฝง

คู่หมั้นพี่ชายมาขอโทษ เล่าปมในใจ

ต่อมา คู่หมั้นพี่ชายมาขอโทษเขาที่บ้าน และเล่าเรื่องทุกอย่างให้ฟัง พร้อมบอกว่าที่เธอแสดงออกด้วยอารมณ์รุนแรงเพราะแม่ของเธอเคยนอกใจพ่อ มีลูกกับผู้ชายอื่น และหลอกให้พ่อคิดว่าเป็นลูกตัวเอง พ่อเธอเจ็บปวดมาก ทำให้เธอฝังใจกับเรื่องแบบนี้

เธอบอกว่า ตอนแรกตั้งใจจะพูดกับเขาแบบตัวต่อตัว แต่พอเห็นเขาอยู่กับลิลลี่ เธอเข้าใจผิดว่า เขาไม่รู้ว่าลิลลี่ไม่ใช่ลูกแท้ ๆ ของตัวเอง คิดว่าแม่ของลิลลี่หลอกให้เขาเลี้ยงลูกคนอื่น จึงโมโหและระเบิดใส่เขาทันที

เธอรู้สึกผิดมาก และตอนนี้เธอก็โกรธคู่หมั้นที่โกหก เขาเองก็ให้อภัยเธอ เพราะเข้าใจว่ามันเป็นบาดแผลในใจและเธอเชื่อว่าเธอกำลังทำสิ่งที่ถูกต้อง ซึ่งสุดท้ายเธอกับพี่ชายของเขาอาจจะเลิกกัน

ตอนนี้ทั้งเขาและพ่อแม่ ขอเว้นระยะห่างกับพี่ชายสักพัก เพราะมันเกินรับไหว แม้สุดท้ายจะให้อภัยเขาได้ แต่ตอนนี้ยังไม่ใช่เวลา

ความคิดเห็นจากคอมเมนต์

  • พี่ชายของเจ้าของเรื่อง มันแย่มากจริง ๆ! ทำไมเขาถึงยอมรับไม่ได้ว่าผู้ชายคนหนึ่งจะเลี้ยงลูกของคนอื่นและรักเหมือนลูกแท้ ๆ ของตัวเองได้? โดยเฉพาะเมื่อเจ้าของเรื่องสนิทกับพ่อแม่แท้ ๆ ของเด็กขนาดนั้น หวังว่าพี่ชายของเจ้าของเรื่องจะรู้สึกผิดกับสิ่งที่ตัวเองทำ และขอให้ลูกสาวของเจ้าของเรื่องไม่ต้องมีแผลในใจจากความคิดงี่เง่าของพี่ชายคนนั้นเลย

  • การที่พ่อแม่ของเจ้าของเรื่อง ตัดความสัมพันธ์กับพี่ชายระดับหนึ่ง มันแสดงให้เห็นชัดเจนว่าพี่ชายทำเรื่องผิดพลาดหนักมาก ไม่ว่าจะเป็นการสร้างดราม่าที่ไร้สาระหรือทำร้ายจิตใจหลานวัย 6 ขวบโดยไม่จำเป็น ทั้งที่ทุกคนรู้อยู่แล้วว่าเด็กคนนี้เป็นลูกบุญธรรมและรู้เหตุผลดีว่าทำไมถึงรับเลี้ยง หวังว่าพี่ชายจะเสียคู่หมั้นไปด้วย เพราะเขาไม่มีใครให้โทษได้เลยนอกจากตัวเอง เขาโกหกเธอมาตลอดและยังพาเธอไปทำเรื่องเลวร้ายกับเด็กคนหนึ่งผ่านข้อมูลผิด ๆ นั่นถือเป็นเหตุผลที่มากพอให้เธอถอยห่าง และถือว่าเธอโชคดีที่รู้ทันก่อนจะเดินหน้าต่อกับคนแบบนี้

  • แม้พี่ชายจะโกหก แต่พี่สะใภ้ก็ยังแย่อยู่ดี ฉันไม่สนหรอกว่าเธอมีปมอะไรในใจ เพราะสุดท้ายเธอก็ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำของตัวเอง และสิ่งที่เธอทำมันเลวร้ายมาก เธอยังแอบตรวจ DNA เด็กที่ไม่ใช่ลูกของเธอ ซึ่งไม่มีสิทธิ์จะทำ แล้วเธอก็ยังประกาศผลตรวจต่อหน้าเด็กอีกต่างหาก แม่ของเด็กก็เสียชีวิตไปแล้ว เธอคิดว่าเจ้าของเรื่องควรทำยังไง เอาเด็กไปเข้าระบบอุปถัมภ์เหรอ? หรือเดินหนีไป ปล่อยให้เด็กต้องสูญเสียครอบครัวเดียวที่มีอยู่?

Read Entire Article