พ่อแม่ต้องอ่าน! 6 ท่านอนของเด็กที่ดู "แปลก" เผยความลับเล็กๆ เรื่องบุคลิกของลูก

2 weeks ago 11
❤️ ARTICLE AD BOX ❤️

คุณเคยสังเกตไหม? เวลาที่เด็กนอน พวกเขามักนอนในท่าทางที่ดู "แปลก" แต่แท้จริงแล้วท่านอนเหล่านี้เผยความลับเล็ก ๆ ในบุคลิกของลูก

ท่าทางการนอนแต่ละแบบสะท้อนบุคลิกแท้จริงของลูก และที่สำคัญคือพ่อแม่ต้องสังเกตความละเอียดในรายละเอียดเล็ก ๆ เหล่านั้น เพื่อเข้าใจลูกมากขึ้น และร่วมเดินทางไปกับเขาอย่างถูกวิธี

นักจิตวิทยาเผยว่า เมื่อคนเราหลับลึก ท่าทางการนอนคือการสะท้อนบุคลิกแท้จริงในจิตใต้สำนึก และสำหรับเด็กเล็กยิ่งชัดเจน เพราะพวกเขายังไม่รู้จักปิดบังความรู้สึก ท่าทางการนอนจึงเปรียบเสมือน “คู่มือบุคลิก” ที่แท้จริงที่สุด

1. ท่านอนม้วนตัวเหมือนหอยทาก
เด็กบางคนเวลานอนจะม้วนตัวเข้าหากัน แขนขาเก็บเข้าด้านใน ดูเหมือนหอยทาก ท่าทางแบบนี้มักพบในเด็กที่มีจิตใจอ่อนไหว ชอบเก็บตัว รู้สึกปลอดภัยไม่เต็มที่ เมื่ออยู่ในสิ่งแวดล้อมใหม่ เด็กจะเขินอายและไม่กล้าทักทายคนก่อน แต่เมื่ออยู่กับคนคุ้นเคย เด็กจะอบอุ่น รักใคร่และชอบอยู่ใน “พื้นที่ปลอดภัย” ของตัวเอง

ข้อมูลพบว่าเด็กกว่า 60% ที่อายุต่ำกว่า 5 ปี มักนอนท่านี้ โดยเฉพาะช่วงเริ่มเข้าโรงเรียนอนุบาลหรือเปลี่ยนสภาพแวดล้อมใหม่

อย่างไรก็ตาม ความเก็บตัวไม่ใช่ข้อด้อย เด็กเพียงแต่ต้องการเวลาในการเปิดใจ พ่อแม่ควรใจเย็นและค่อยๆ ส่งเสริมให้ลูกกล้าเปิดโลกกว้าง เช่นเดียวกับการ “ชาร์จพลังในพื้นที่ปลอดภัย” ให้เต็มก่อนออกไปเผชิญโลกภายนอก

2. ท่านอนกลิ้งไปกลิ้งมาคล้ายลูกบอล
เด็กบางคนเวลานอนจะกลิ้งไปมาได้ถึง 360 องศา บางครั้งหัวหันไปทางเหนือ บางครั้งเท้าชี้ไปทางใต้ ท่าทางแบบนี้มักพบในเด็กที่มีความมั่นใจสูง กล้าหาญ รักการสำรวจ และมีพลังเหลือล้นเหมือน “มอเตอร์ที่ไม่หยุดหมุน” อยากรู้อยากเห็นทุกอย่างใหม่ๆ

สมาคมการนอนหลับแห่งสหรัฐฯ เคยเปิดเผยว่า เด็กที่ขยับตัวบ่อยขณะนอนมีการทำงานของสมองสูงกว่าปกติถึง 15%

ข้อมูลยังพบว่าเด็กกลุ่มนี้เมื่อโตขึ้นมักมีทักษะการแก้ปัญหาที่ดี เพราะไม่ชอบให้ใครเข้ามายุ่งเรื่องของตนมาก อยากหาทางจัดการด้วยตัวเอง

พ่อแม่ลอง “ปล่อยมือ” บ้าง ให้ลูกได้ลองทำเอง บางครั้งการปล่อยให้ลูกได้ลองผิดลองถูก เป็นวิธีช่วยให้ลูกเติบโตได้รวดเร็วขึ้น

iStockphoto

3. ท่านอนกอดของเล่นเหมือนเจ้าตัวขี้เกียจ
เด็กบางคนต้องกอดตุ๊กตา ผ้าเช็ดหน้า หรือเสื้อของแม่ถึงจะยอมนอน ดูคล้ายเจ้าตัวขี้เกียจที่กอดกิ่งไม้

นักจิตวิทยา พิคฮาร์ต เคยกล่าวไว้ว่า "เด็กที่ชอบกอดของเวลานอนมักเป็นเด็กที่มีความรู้สึกอ่อนไหวทางอารมณ์สูง"

เด็กกลุ่มนี้เปรียบเสมือน “เตาผิงเล็กๆ” ที่อบอุ่นและเปี่ยมด้วยความรัก แต่พ่อแม่ควรระวังไม่ให้ลูกพึ่งพิงสิ่งของมากเกินไป ควรค่อยๆ ช่วยลูกเปลี่ยนมาใช้ผืนผ้าเช็ดหน้าขนาดเล็กแทนของชิ้นใหญ่หรือสิ่งของที่ติดแน่นกับใจอย่างหนักอย่างนุ่มนวล

4. ท่านอนกางแขนกางขาเหมือนราชาน้อย
หากลูกของคุณนอนกางแขนกางขากินพื้นที่เกือบทั้งเตียง ขอแสดงความยินดีด้วย คุณมีลูกที่สดใสและมองโลกในแง่ดี

งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ดชี้ว่า เด็กที่นอนในท่านี้มักมีระดับเซโรโทนินในสมองสูงกว่า ซึ่งเป็นสารสื่อประสาทที่สร้างความสุข

เด็กกลุ่มนี้เปรียบเสมือนดวงอาทิตย์ดวงน้อย ที่พกพาพลังบวกไปทุกที่ แต่พ่อแม่อย่าลืมสอนให้ลูกแบ่งพื้นที่บนเตียงไว้ให้พ่อแม่บ้างนะ

iStockphoto

5. ท่ายกมือเหมือนซูเปอร์ฮีโร่
เด็กบางคนเวลานอนจะยกแขนข้างหนึ่งสูงขึ้น เหมือนกำลัง “ช่วยโลก” งานวิจัยจากห้องทดลองการนอนญี่ปุ่นพบว่า หากเด็กคนใดนอนในท่านี้เกิน 30 นาที มีแนวโน้มว่ากลางวันจะมีพฤติกรรมเสี่ยงมากกว่าเด็กทั่วไปถึง 23%

เด็กกลุ่มนี้มักเป็นคนกล้าหาญแต่ก็มีความละเอียดอ่อน ชอบผจญภัยกลางแจ้ง ปีนป่าย และเรียนรู้โลก พ่อแม่ควรให้ลูกได้สัมผัสธรรมชาติมากขึ้น แต่ต้องระวัง “คาดเข็มขัดนิรภัย” ให้ปลอดภัยด้วยนะ

iStockphoto

6. ท่านอนคว่ำเหมือนลูกเต่าตัวน้อย
เด็กบางคนมีนิสัยนอนคว่ำ ดูเหมือนลูกเต่าที่พับตัวเข้าหากัน เด็กกลุ่มนี้มักมี “ใจที่เปราะบาง” และกลัวการถูกตำหนิ เมื่อจำเป็นต้องให้คำแนะนำ พ่อแม่ควรหลีกเลี่ยงการติเยอะ ใช้คำพูดที่เน้นพฤติกรรมและความคาดหวังอย่างชัดเจน เด็กจะเปิดรับได้ง่ายกว่า

นอกจากนี้ งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียชี้ว่า ท่านอนคว่ำอาจทำให้หัวใจได้รับแรงกดเล็กน้อย ส่งผลให้เด็กรู้สึกหนักใจเมื่อต้องเผชิญความล้มเหลว

สำหรับเด็กกลุ่มนี้ พ่อแม่ควรใช้เทคนิค “สื่อสารแบบแซนด์วิช” คือ เริ่มด้วยคำชม > ให้คำแนะนำอย่างอ่อนโยน > ปิดท้ายด้วยกำลังใจ

ทั้งนี้ นักการศึกษามอนเตสซอรี่เคยกล่าวไว้ว่า “เด็กแต่ละคนเปรียบเสมือนเมล็ดพันธุ์พิเศษ ที่เพียงต้องการดินที่เหมาะสมเพื่อเติบโต”

ท่าทางการนอนแต่ละแบบสะท้อนบุคลิกแท้จริงของลูก และที่สำคัญคือพ่อแม่ต้องใส่ใจสังเกตในรายละเอียดเล็กๆ เหล่านั้น เพื่อเข้าใจลูกให้ลึกซึ้งขึ้น และร่วมเดินทางไปกับลูกอย่างถูกวิธี เพราะเด็กแต่ละคนคือดอกไม้ที่เบ่งบานตามจังหวะของตัวเอง หากได้รับการรดน้ำด้วยความรักและความอดทน ลูกก็จะผลิบานอย่างงดงามที่สุด

Read Entire Article