สาวฟ้องร้องแพทย์ ฟื้นจากผ่าตัดพบ "ของเหลวประหลาด" บนร่างกาย สงสัยถูกล่วงละเมิดขณะวางยาสลบ แต่ศาลยกฟ้องหลังดูกล้องวงจรปิด ยืนยันทีมแพทย์บริสุทธิ์!
ย้อนรอยคดีสุดช็อกในจีน เมื่อหญิงสาวในมณฑลกวางสี ประเทศจีน ได้ยื่นฟ้องทีมแพทย์หลังพบ "ของเหลวแปลกประหลาด" บนร่างกายหลังการผ่าตัด และสงสัยว่าตนถูกล่วงละเมิดในขณะสลบ แต่เมื่อตำรวจตรวจสอบกล้องวงจรปิดในห้องผ่าตัดกลับเผยความจริงที่พลิกความคาดหมายของสังคม
เจ็บท้องกะทันหัน สู่การผ่าตัดฉุกเฉิน และเป็นจุดเริ่มต้นของคดี
เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2017 นางสาวหมี่ (นามสมมติ) เกิดอาการปวดท้องอย่างรุนแรงขณะอยู่ที่บ้านกับแฟนหนุ่มในเมืองกวางสี โดยมีอาการหน้าซีด เหงื่อแตก และนอนขดตัวบนโซฟา แฟนของเธอจึงรีบพาส่งโรงพยาบาลกลางของเมือง
แพทย์วินิจฉัยว่าเธอเป็นไส้ติ่งอักเสบเฉียบพลัน และแนะนำให้ผ่าตัดส่องกล้องทันทีเพื่อหลีกเลี่ยงภาวะแทรกซ้อน หลังพูดคุยกับทีมแพทย์ เธอยินยอมให้ทำการผ่าตัดภายใต้การวางยาสลบ โดยมี นพ.จาง เป็นศัลยแพทย์ และ นพ.เหลียง รับผิดชอบด้านวิสัญญี
หลังการผ่าตัดเสร็จสิ้นประมาณหนึ่งชั่วโมง ทุกอย่างดูเหมือนจะเป็นไปด้วยดี จนกระทั่งเมื่อนางสาวหมี่ฟื้นจากฤทธิ์ยาสลบ เธอกลับพบของเหลวผิดปกติบนหน้าอก ทำให้เกิดความสงสัยและวิตกกังวลว่าอาจถูกล่วงละเมิดในขณะไม่รู้สึกตัว
เธอร้องเรียนกับโรงพยาบาลทันที พร้อมเรียกร้องคำอธิบายอย่างเป็นทางการจากทีมแพทย์ โดยเฉพาะ นพ.เหลียง ผู้ดูแลขณะเธอหมดสติ อย่างไรก็ตาม แพทย์ทุกคนปฏิเสธข้อกล่าวหา และชี้แจงว่า "ของเหลว" ดังกล่าวอาจเป็นเพียงน้ำยาฆ่าเชื้อที่หลงเหลือจากการผ่าตัด ซึ่งเป็นเรื่องปกติในห้องผ่าตัด
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเธอไม่พอใจกับคำตอบของโรงพยาบาล จึงแจ้งตำรวจและยื่นฟ้องโรงพยาบาลเรียกค่าชดเชยทางจิตใจ พร้อมขอให้ขอโทษอย่างเป็นทางการ ต่อมาตำรวจเข้าตรวจสอบทันที โดยมีการเก็บตัวอย่างของเหลวที่พบบนร่างกายไปตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ และสำคัญที่สุดคือการ ตรวจสอบกล้องวงจรปิดในห้องผ่าตัด
ผลจากภาพวิดีโอเผยให้เห็นว่าตลอดช่วงเวลาผ่าตัด ทีมแพทย์ทั้ง 5 คนปฏิบัติงานอย่างมืออาชีพ ไม่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมใดๆ และไม่มีหลักฐานว่าเกิดเหตุการณ์ล่วงละเมิดทางเพศตามที่ผู้เสียหายสงสัย ขณะเดียวกัน ผลการตรวจพิสูจน์ "ของเหลวประหลาด" ชี้ว่าเป็นเพียงน้ำยาฆ่าเชื้อและน้ำเกลือผสมกัน ไม่พบสารคัดหลั่งผิดปกติหรือดีเอ็นเอบุคคลอื่นแต่อย่างใด
คำตัดสินคดีที่ชี้ชัดในศาล และเสียงสะท้อนจากสังคม
แม้จะมีหลักฐานยืนยันความบริสุทธิ์จากทางโรงพยาบาล แต่นางสาวหมี่ยังไม่ยอมรับ และยื่นฟ้องต่อศาลต่อไป โดยอ้างว่าวิดีโออาจถูกตัดต่อหรือเปลี่ยนแปลง อย่างไรก็ตาม ศาลพิจารณาว่า ฝ่ายผู้ฟ้องไม่มีหลักฐานเพียงพอจะพิสูจน์ว่ามีการละเมิดเกิดขึ้น และโรงพยาบาลมีหลักฐานชัดเจนทั้งวิดีโอ และรายงานการตรวจวิเคราะห์จากหน่วยงานทางการ ศาลจึงพิพากษายกฟ้อง
นางสาวหมี่ยังคงเดินหน้ายื่นอุทธรณ์ แต่ศาลชั้นอุทธรณ์ยังคงคำตัดสินเดิมเช่นเดียวกัน โดยระบุว่า “ไม่สามารถพิพากษาลงโทษแพทย์ได้เพียงจากคำกล่าวอ้างของผู้ป่วย โดยปราศจากหลักฐานชัดเจน”
คดีนี้กลายเป็นประเด็นร้อนในโซเชียลมีเดียจีน โดยหลายคนเห็นใจทั้งผู้ป่วยที่รู้สึกไม่ปลอดภัย และบุคลากรทางการแพทย์ที่ตกเป็นเป้ากล่าวหาโดยไม่มีหลักฐาน ชาวเน็ตจำนวนมากเรียกร้องให้มีการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยในห้องผ่าตัดให้ดียิ่งขึ้น แต่ก็มีเสียงสะท้อนว่า ไม่ควรรีบตัดสินหรือกล่าวหาใครหากยังไม่มีข้อมูลครบถ้วน
- หนุ่มบาดเจ็บมาหาหมอ สุดงง พันแผลออกมาคนฮากันครืน ส่องกระจกปุ๊บร้องจะฟ้องหมอ!
- เคสช็อก สาวค้นพบ "ความลับสยอง" ซุกในร่างกาย 35 ปี ต้นเหตุสารพัดโรค ฟ้องแพทย์ชุ่ย!!!