หนุ่มกินยารักษาโรค กลายเป็น "ยาพิษ" หลอดอาหารกลายเป็นแผลพุพอง หมอชี้จุดพลาดเล็กๆ ที่หลายคนชอบทำ
หลายคนในชีวิตประจำวันมักกินยาแบบลวก ๆ เช่น ดื่มน้ำนิดเดียวแล้วกลืนยาเลย โดยไม่รู้เลยว่าหากกินยาไม่ถูกวิธี “ยาดี” อาจกลายเป็น “ยาพิษ” ได้ ตัวอย่างกรณีชายชาวจีนแซ่จางในเมืองหนิงโป มณฑลเจ้อเจียง ที่กินยาเพียงไม่กี่เม็ด แต่กลับทำให้หลอดอาหารเต็มไปด้วยแผล
แพทย์เตือนว่า หากดื่มน้ำน้อยเกินไป ยาอาจไปติดอยู่กับผนังหลอดอาหารและค้างอยู่เป็นเวลานาน ทำให้เริ่มกัดกร่อนเยื่อบุภายใน
ตามรายงานของสื่อจีน ชายแซ่จางอายุ 35 ปี มีอาการเจ็บคอจึงซื้อยาแคปซูล Doxycycline แบบเคลือบลำไส้มากินเอง โดยดื่มน้ำแค่อึกเดียวก่อนรีบล้มตัวนอน เช้ามาเขาเริ่มเจ็บหน้าอกและกลืนอาหารลำบาก เมื่อตรวจด้วยกล้องส่องกระเพาะ แพทย์พบว่าเยื่อบุหลอดอาหารมีแผลพุพองกระจายเต็มไปหมด
ผลวิเคราะห์ระบุว่า เขาเป็น “แผลหลอดอาหารจากยา” เนื่องจากตัวยาค้างอยู่ในหลอดอาหารนานเกินไปจนทำให้เนื้อเยื่อถูกทำลาย
แพทย์อธิบายว่า เมื่อกลืนยาแล้วดื่มน้ำน้อย ยาอาจติดอยู่กับผนังหลอดอาหาร โดยเฉพาะ Doxycycline ซึ่งเป็นยาปฏิชีวนะที่มีฤทธิ์ระคายเคือง หากค้างอยู่เป็นเวลานานจะกัดเยื่อบุหลอดอาหาร และหากนอนราบ ยิ่งทำให้ตัวยาผ่านหลอดอาหารได้ช้า ส่งผลให้เนื้อเยื่อถูกทำลายซ้ำ ๆ จนกลายเป็นแผลในที่สุด
คำแนะนำจากแพทย์:
-
นอกจาก Doxycycline แล้ว ยากลุ่มปฏิชีวนะอื่น ๆ เช่น เตตราไซคลิน และยาแก้อักเสบที่ไม่ใช่สเตียรอยด์ (NSAIDs) อย่างแอสไพรินหรือไอบูโพรเฟน ก็อาจทำให้เกิดแผลในหลอดอาหารได้เช่นกัน
-
จึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำแพทย์อย่างเคร่งครัดเมื่อต้องกินยาเหล่านี้
-
ห้ามกินยาพร้อมเครื่องดื่มอย่างน้ำผลไม้ นม ชา หรือกาแฟ เพราะอาจเปลี่ยนคุณสมบัติของยา หรือเพิ่มความระคายเคืองต่อหลอดอาหารได้
สรุป กินยาให้ปลอดภัย ควรดื่มน้ำอย่างน้อย 1 แก้วเต็ม ๆ และหลีกเลี่ยงการนอนทันทีหลังกลืนยา เพื่อป้องกันการเกิดแผลหลอดอาหารจากยา