รถพาเด็กมาเต็มคัน จอดเปลี่ยนผ้าอ้อมบนมอเตอร์เวย์ พ่วงชนท้ายอัดก๊อปปี้ ดับ 8 ศพ

6 hours ago 3
❤️ ARTICLE AD BOX ❤️

รถเอสยูวีเด็กเต็มคัน จอดเปลี่ยนผ้าอ้อมบนมอเตอร์เวย์ พ่วงชนท้ายอัดก๊อปปี้รถบรรทุกคันหน้า มา 10 คน ดับ 8 ราย

เมื่อเวลา 22.10 น. วันที่ 24 เมษายน 2568 ศูนย์วิทยุพระนคร ได้รับรายงานอุบัติเหตุหมู่ รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ชนท้ายรถยนต์อเนกประสงค์ (SUV) และดันไปอัดก็อปปี้เสยท้ายรถบรรทุกสิบล้อ มีผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต ติดอยู่ภายในซากรถ บริเวณจุดจอดรถฉุกเฉิน บนถนนมอเตอร์เวย์สาย 7 ช่วง หลักกิโลเมตรที่ 23+500 ขาออก มุ่งหน้าบ้านฉาง จ.ชลบุรี ก่อนถึงด่านลาดกระบัง ตำบลศีรษะจรเข้น้อย อำเภอบางเสาธง จังหวัดสมุทรปราการ

หลังรับแจ้งจึงประสาน เจ้าหน้าที่ตำรวจทางหลวง 1 กองกำกับการ 8 เจ้าหน้าที่สมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู พร้อมอุปกรณ์ตัดถ่าง เดินทางตรวจสอบที่เกิดเหตุ ที่เกิดเหตุอยู่ในช่องทางซ้าย ซึ่งเป็นจุดจอดรถฉุกเฉิน พบรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน 1430 ชลบุรี บรรทุกยางมะตอย สภาพหน้าพังยับเยิน ภายในห้องโดยสารพบ นายเสน่ห์ อายุ 60 ปี นั่งอยู่เบาะคนขับ ถูกอัดติดอยู่กับพวงมาลัยได้รับบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ต้องใช้เครื่องตัดถ่างนำตัวออกมา ก่อนนำส่งโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9

ที่ด้านหน้ารถชนติดอยู่กับรถยนต์อเนกประสงค์ ยี่ห้อ เชฟโรเลต แคปติวา สีขาว ทะเบียน 6161 อุดรธานี สภาพพังยับเยินทั้งคัน ภายในห้องโดยสารพบผู้เสียชีวิต จำนวน 8 ราย ติดอยู่ในซากรถ เจ้าหน้าที่มูลนิธิได้ใช้เครื่องตัดถ่างทยอยนำร่างออกมา ดังนี้

รายที่ 1.เป็นเด็กหญิง อายุประมาณ 2-3 ขวบ จุดที่พบเบาะหลังซ้าย 

รายที่ 2.เพศหญิง วัยกลางคน จุดที่พบเบาะหลังซ้าย พบร่างคู่กับเด็ก 

รายที่ 3. เบาะซ้ายข้างคนขับ เพศหญิงวัยกลางคน

รายที่ 4.เด็กหญิง อายุ 2-3 ขวบ เบาะหลัง 

รายที่ 5.เบาะหลังซ้ายเด็กชาย อายุประมาณ 10 ขวบ 

รายที่ 6.เพศหญิง เบาะหลังซ้าย 

รายที่ 7.เพศหญิง

รายที่ 8.เพศชาย พบร่างตรงตำแหน่งคนขับ

นอกจากนั้นพบชิ้นส่วนมนุษย์ ทั้งแขนและขา รวมถึงศีรษะบางส่วน ยังไม่ทราบเพศ รอตรวจการตรวจสอบพิสูจน์อัตลักษณ์บุคคลอีกครั้ง โดยร่างผู้เสียชีวิตทั้งหมดเจ้าหน้าที่มูลนิธิจะนำส่งชันสูตรที่นิติเวชสถาบันรามาจักรกรีนฤบดินทร์ สมุทรปราการ และยังพบผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 2 ราย คือ เด็กหญิง อายุ 12 ปี และ หญิงสาว อายุ 18 ปี เจ้าหน้าที่ให้การช่วยเหลือนำโรงพยาบาลจุฬารัตน์ 9 และยังพบถัดไปอีกหน่อยที่ด้านหน้ารถยนต์อเนกประสงค์ พบรถบรรทุก 10 ล้อ ยี่ห้อ อีซูซุ สีขาว ทะเบียน 81-2815 ชุมพร บรรทุกน้ำมันพืช สภาพท้ายรถได้รับความเสียหายจากการถูกพุ่งชน

จากการสอบถาม นายเจตน์ สุขกลิ่น อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ที่เดินทางไปถึงที่เกิดเหตุช่วงแรก บอกว่า ทันทีที่เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บเป็นเด็กหญิงสองรายกระเด็นออกมาจากตัวรถจึงปฐมพยาบาลและพาตัวส่งโรงพยาบาล โดยจากการสอบถามข้อมูลเบื้องต้นทราบว่า เด็กหญิงที่ได้รับบาดเจ็บนั่งมาในรถและกำลังเดินทางไปหาพ่อกับแม่ที่อยู่ในจังหวัดระยองโดยมีน้าและอามารวมถึงหลานสาวรวมทั้งหมด 10 คน ซึ่งเด็กหญิงที่ได้รับบาดเจ็บทั้งสองคนเป็นจังหวะที่ลงมายืนท้ายรถเพื่อเปลี่ยนผ้าอ้อมให้กับหลานและกำลังจะพากันขึ้นรถเดินทางต่อ แต่มาประสบอุบัติเหตุถูกชนท้ายจนกระเด็น

ขณะที่ นายกวางแก้ว อายุ 51 ปี คนขับรถบรรทุกน้ำมันพืช ที่จอดคันแรก บอกว่า ตนเองและภรรยาขับรถบรรทุกน้ำมันพืชจากจังหวัดชุมพรเพื่อจะไปส่งให้ลูกค้าที่จังหวัดปราจีนบุรี จนมาถึงที่เกิดเหตุซึ่งเป็นช่องทางจอดรถฉุกเฉินจึงพากันจอดรถหวังจะทานข้าวกันในรถ แต่พอจอดได้ไม่ถึง 5 นาที ก็เกิดอุบัติเหตุดังกล่าว ซึ่งความแรงของการชนทำให้รถขยับไถลไปข้างหน้าหลายสิบเมตร

พ.ต.อ.กึกก้อง ดีศวัฒน์ ผู้กำกับการ 8 กองบังคับการตำรวจทางหลวง ระบุว่า จากการสอบสวนเบื้องต้น รถเก๋งคันนี้โดยสารมาทั้งหมด 10 คนมาจากกรุงเทพมหานครกำลังมุ่งหน้าไปหาญาติที่จังหวัดระยอง เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุมีรถบรรทุกจอดอยู่ด้านหน้าในช่องทางฉุกเฉินหรือจุดพักรถชั่วคราวอยู่ก่อนหนึ่งคันคนขับจึงได้จอดรถต่อท้ายเพื่อให้คนในรถลงมาหยิบผ้าอ้อมมาเปลี่ยนให้เด็กบนรถ ต่อมาได้มีรถบรรทุกอีกหนึ่งคันวิ่งเข้ามาในช่องทางฉุกเฉินและพุ่งชนท้ายเข้ากับรถคันเกิดเหตุอย่างรุนแรง จนทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวนมากดังกล่าว ซึ่งขนาดนี้สามารถติดต่อทางครอบครัวได้แล้วอยู่ระหว่างเดินทางมายังโรงพยาบาล ส่วนรายละเอียดทางด้านพนักงานสอบสวนจะได้เข้าสอบปากคำคนขับและผู้บาดเจ็บอีกครั้งพร้อมทั้งตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุเพื่อหาสาเหตุของอุบัติเหตุในครั้งนี้

Read Entire Article