ประชาชนชาวซีเรียจำนวนมากต่างออกมาชุมนุมตามท้องถนนในกรุงดามัสกัส แสดงความยินดีด้วยการตะโกนโห่ร้องและยิงปืนขึ้นฟ้า หลังจากรัฐบาลของประธานาธิบดีบะชาร์ อัล-อัสซาด ถูกโค่นล้มโดยกลุ่มแข็งข้อต่อต้าน ยุติการครองอำนาจยาวนาน 50 ปีของครอบครัวนี้
ฝูงชนต่างรวมตัวกันที่จตุรัสต่าง ๆ ในเมืองหลวงของซีเรีย โบกธงสัญลักษณ์ดาวสามดวงซึ่งเป็นธงของการปฏิวัติในซีเรียในช่วงเริ่มต้นของเหตุการณ์การลุกฮือของประชาชนที่เรียกว่า อาหรับสปริง (Arab Spring) เมื่อกว่า 10 ปีก่อนที่สิ้นสุดด้วยการปราบปรามอย่างรุนแรงของรัฐบาลอัสซาด และทำให้ประเทศก้าวเข้าสู่สงครามกลางเมืองที่กินเวลากว่า 14 ปี
บรรดานักรบกลุ่มแข็งข้อต่อต้านพากันเปิดประตูเรือนจำทั่วประเทศเพื่อปล่อยตัวนักโทษการเมืองและอาชญากรจำนวนมากเป็นอิสระ หลายคนบุกเข้าไปในทำเนียบประธานาธิบดีและบ้านพักของครอบครัวอัสซาด หลังจากมีรายงานว่าอัสซาดและบรรดาเจ้าหน้าที่ระดับสูงได้หลบหนีออกนอกประเทศแล้ว
ภาพจากวิดีโอที่ถูกนำมาเผยแพร่แสดงให้เห็นกลุ่มคนบุกเข้าไปในทำเนียบปธน. ทำลายรูปของอัสซาด หลายคนนำข้าวของและเฟอร์นิเจอร์ออกมาจากทำเนียบ รวมทั้งมีการเผารูปขนาดใหญ่ของอัสซาดที่ติดอยู่ตามผนังด้านนอกของอาคารต่าง ๆ ในกรุงดามัสกัส
จนถึงขณะนี้ยังไม่มีการยืนยันว่าอดีตผู้นำซีเรียผู้นี้อยู่ที่ไหน แต่สื่อของรัสเซียรายงานว่า อัสซาดได้ลี้ภัยอยู่ในกรุงมอสโกแล้ว
กลุ่มก่อการร้าย HTS
การโค่นอำนาจของรัฐบาลอัสซาดเกิดขึ้นอย่างรวดเร็วอย่างน่าตกใจ เมื่อกลุ่มแข็งข้อต่อต้านที่นำโดยกลุ่มติดอาวุธ ฮายัต ทาห์เรีย อัล-ชาม หรือ HTS (Hayat Tahrir al-Sham) สามารถยึดเมืองอเลปโป เมืองฮามาและเมืองฮอมส์ ภายในเวลาเพียงไม่กี่วัน
กลุ่ม HTS มีจุดกำเนิดมาจากกลุ่มอัล-ไคยด้า โดยทั้งสหรัฐฯ และสหประชาชาติ ระบุว่ากลุ่มติดอาวุธนี้เป็นกลุ่มก่อการร้าย
รัสเซีย ซึ่งเป็นพันธมิตรใกล้ชิดของปธน.อัสซาด กล่าวว่า อัสซาดได้เดินทางออกจากซีเรียหลังจากที่มีการเจรจากับกลุ่มแข็งข้อและได้รับปากว่าจะมีการเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างสันติ
ด้านเจ้าหน้าที่การทูตระดับสูงของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) ปฏิเสธที่จะตอบว่าขณะนี้อัสซาดอยู่ที่ไหน โดยในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ยูเออีมักให้ความช่วยเหลือแก่ผู้นำในตะวันออกกลางที่ถูกโค่นอำนาจและลี้ภัยในประเทศนี้
การพังทลายของระบอบอัสซาดยังถือเป็นผลเสียใหญ่หลวงต่ออิหร่านซึ่งเป็นผู้สนับสนุนและพันธมิตรรายสำคัญของซีเรียในตะวันออกกลาง ในช่วงเดียวกับที่กำลังเกิดการสู้รบระหว่างกลุ่มติดอาวุธหลายกลุ่มที่อิหร่านสนับสนุน เช่น ฮามาสและเฮซบอลลาห์ กับอิสราเอล
อาบู โมฮัมเหม็ด อัล-กอลานี ผู้นำกลุ่ม HTS
อาบู โมฮัมเหม็ด อัล-กอลานี วัย 42 ปี ผู้ที่ทางการสหรัฐฯ ระบุว่าเป็นผู้ก่อการร้าย คือผู้นำกลุ่ม HTS ที่อาจก้าวขึ้นมากำหนดทิศทางของประเทศหลังจากนี้ เขาเป็นอดีตผู้บัญชาการของกลุ่มอัล-ไคยดา ที่ตัดสัมพันธ์กับกลุ่มนี้เมื่อหลายปีก่อน และตัวเขายืนยันว่ายอมรับแนวคิดที่หลากหลายของฝ่ายต่าง ๆ ในซีเรีย ท่ามกลางความขัดแย้งที่ยังคงปะทุในหลายพื้นที่
กลุ่มแข็งข่อต่อต้านเผยแพร่วิดีโอทางสื่อโทรทัศน์ในซีเรีย ระบุว่า "ระบอบการปกครองของอาชญากรล่มสลายแล้ว" และนักโทษทุกคนได้รับอิสระ พร้อมขอให้ประชาชนช่วยกันรักษาความเป็น "รัฐซีเรียอิสระ" เอาไว้ จากนั้นมีการประกาศใช้มาตรการเคอร์ฟิวในกรุงดามัสกัสระหว่างเวลา 16:00 น. - 5:00 น.
ผู้บัญชาการกลุ่มแข็งข้อต่อต้าน อานาส ซาลคาดี กล่าวผ่านทางโทรทัศน์ในเวลาต่อมา รับประกันความปลอดภัยของชนกลุ่มน้อยและกลุ่มผู้มีความแตกต่างทางศาสนาในซีเรีย โดยยืนยันว่า "ซีเรียคือประเทศสำหรับทุกคน ไม่มีข้อยกเว้น" และว่า "เราจะไม่ปฏิบัติต่อประชาชนเหมือนกับที่ครอบครัวอัซซาดทำไว้"
หนังสือพิมพ์ อัล-วาตาน ซึ่งสนับสนุนรัฐบาลซีเรีย ระบุว่า "เรากำลังเผชิญกับบทใหม่ของซีเรีย เราขอขอบคุณพระผู้เป็นเจ้าที่ไม่มีการนองเลือด เราเชื่อมั่นว่าซีเรียจะเป็นประเทศสำหรับประชาชนชาวซีเรียทุกคน"
ทั้งนี้ ประชาชนส่วนใหญ่ในซีเรียเป็นมุสลิมนิกายสุหนี่ แต่ครอบครัวอัสซาดนั้นนับถือนิกายอะละวีซึ่งเป็นสาขาหนึ่งของนิการชีอะห์ นอกจากนี้ ยังมีประชากรบางส่วนเป็นชาวคริสต์ ชาวเคิร์ด และชาวดรูซ