ระวังให้ดี! อย่าเก็บ 5 สิ่งนี้ไว้ในตู้เย็นอีกต่อไป เพราะมันอาจกลายเป็น "ภัยเงียบ" ที่คุกคามสุขภาพ
บางสิ่งบางอย่างเมื่อนำเข้าตู้เย็น ไม่เพียงไม่ช่วยให้คงความสด แต่ยังอาจก่อให้เกิดแบคทีเรียและสารอันตรายได้อีกด้วย
เมื่ออุณหภูมิสูงขึ้น การใช้ตู้เย็นก็เพิ่มตามไปด้วย เพราะหลายคนเชื่อว่าตู้เย็นช่วยยืดอายุอาหารได้ ด้วยความที่ภายในตู้เย็นมีอุณหภูมิต่ำ จึงดูเหมือนปลอดภัยในการเก็บอาหารไว้กินได้นานขึ้น
แต่ในความเป็นจริง หลายคนยังเข้าใจผิด คิดว่า "ของทุกอย่าง" สามารถแช่ตู้เย็นได้ ทั้งที่แท้จริงแล้ว มีของบางประเภทที่ไม่เพียงไม่สดขึ้นเมื่อแช่เย็น แต่กลับกลายเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคและสารอันตรายโดยไม่รู้ตัว มาดูกันว่ามีอะไรบ้างที่อาจกลายเป็น "ภัยเงียบ" ภายในตู้เย็นของคุณ
Klaus Nielsen
1. ไข่
คนส่วนใหญ่มักรีบแช่ไข่ในตู้เย็นทันทีหลังซื้อมา โดยคิดว่าจะช่วยถนอมคุณภาพ แต่ในความเป็นจริง กลับอาจเสี่ยงต่อสุขภาพมากกว่า
เนื่องจากความชื้นในตู้เย็นค่อนข้างสูง เมื่อแช่ไข่ไว้ในตู้เย็น จะเกิดการควบแน่นของไอน้ำที่เปลือกไข่ กลายเป็นหยดน้ำเล็กๆ บนผิว ซึ่งไม่เพียงรบกวนกระบวนการหายใจของไข่ แต่ยังเปิดโอกาสให้เชื้อแบคทีเรียเติบโตได้ง่ายขึ้น
นอกจากนี้ ตู้เย็นส่วนใหญ่มักเก็บของปะปนหลากหลายชนิด จึงมีความเสี่ยงต่อการ “ปนเปื้อนข้าม” (cross-contamination) ซึ่งอาจทำให้ไข่ที่ดูเหมือนปลอดภัย กลายเป็นแหล่งเพาะเชื้อโรคโดยไม่รู้ตัว
2. กล้วย
หลายคนชื่นชอบการรับประทานกล้วย แต่ก็ทราบดีว่ากล้วยมีอายุการเก็บรักษาสั้น มักเปลี่ยนเป็นสีดำและเน่าเสียภายในไม่กี่วัน ด้วยเหตุนี้หลายคนจึงเลือกแช่กล้วยไว้ในตู้เย็น โดยเข้าใจว่าจะช่วยยืดอายุของผลไม้ชนิดนี้ได้
แต่ในความเป็นจริง กลับตรงกันข้าม กล้วยเป็นผลไม้เมืองร้อน การนำไปแช่ตู้เย็นที่มีอุณหภูมิต่ำจะเร่งให้กล้วยเน่าเสียเร็วขึ้น ผิวกล้วยจะเปลี่ยนเป็นสีคล้ำ และเนื้อในอาจเละเสียเร็วกว่าการเก็บไว้ที่อุณหภูมิห้อง
ไม่เพียงแต่กล้วยเท่านั้น ผลไม้เมืองร้อนอื่น ๆ เช่น ลิ้นจี่ มะม่วง และทุเรียน ก็ไม่ควรแช่ตู้เย็นเช่นกัน เพราะอาจทำให้รสชาติเปลี่ยน เนื้อผลไม้เสียสภาพ และลดคุณค่าทางโภชนาการโดยไม่จำเป็น
3. ซาลาเปาที่นึ่งแล้ว
ซาลาเปาเป็นอาหารคาร์โบไฮเดรตที่ได้รับความนิยมในชีวิตประจำวัน หลายคนมักซื้อเก็บไว้ทีละหลายลูกเพื่อความสะดวก หากกินไม่หมดก็มักเก็บเข้าตู้เย็น แล้วนำมาอุ่นร้อนใหม่เวลาจะกิน
แต่ในความเป็นจริง ไม่แนะนำให้เก็บซาลาเปาที่นึ่งแล้วไว้ในตู้เย็น เพราะอุณหภูมิเย็นจะเร่งให้แป้งเกิดกระบวนการ “แป้งแก่ตัว” (starch retrogradation) ทำให้ซาลาเปาแข็ง เหนียว หรือแข็งราวกับหิน อีกทั้งหากเก็บไว้นาน ยังเสี่ยงเกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียโดยไม่รู้ตัว
ทางที่ดี หากต้องการเก็บซาลาเปาไว้กินภายหลัง ควรแช่แข็งทันทีหลังเย็นตัว และอุ่นด้วยไอน้ำเวลาจะรับประทาน จะช่วยคงเนื้อสัมผัสที่นุ่มและปลอดภัยต่อสุขภาพมากกว่า
4. กระเทียม
กระเทียมถือเป็นวัตถุดิบคู่ครัวที่หลายบ้านขาดไม่ได้ โดยเฉพาะเวลาผัดหรือปรุงอาหาร แต่ด้วยความที่การปอกกระเทียมต้องใช้เวลาพอสมควร หลายคนจึงนิยมปอกกระเทียมล่วงหน้าไว้ใช้ตลอดทั้งสัปดาห์ และเก็บไว้ในตู้เย็นเพื่อความสะดวก
อย่างไรก็ตาม การเก็บกระเทียมที่ปอกแล้วไว้ในตู้เย็น ไม่ใช่วิธีที่ดี เพราะความชื้นในตู้เย็นค่อนข้างสูง ส่งผลให้เกิดไอน้ำเกาะบนผิวกระเทียม ซึ่งจะเร่งให้กระเทียมเน่าเสียเร็วขึ้น
แม้บางครั้งกระเทียมอาจยังไม่ถึงขั้นเน่า แต่ความชื้นก็ทำให้เนื้อกระเทียมนิ่มลง กลิ่นและรสชาติที่เผ็ดหอมเฉพาะตัวก็จะลดลงตามไปด้วย
คำแนะนำ: หากต้องการเตรียมกระเทียมล่วงหน้า ควรเก็บไว้ในภาชนะปิดสนิท แห้ง และเก็บในอุณหภูมิห้องที่เย็น ไม่ชื้น จะช่วยถนอมคุณภาพได้ดีกว่า
5. มันฝรั่ง
แม้มันฝรั่งจะเป็นผักที่เก็บได้นาน แต่ในสภาพอากาศร้อนก็อาจเน่าเสียได้ หลายคนจึงเลือกแช่มันฝรั่งในตู้เย็นเพื่อยืดอายุการเก็บรักษา
แต่ในความเป็นจริง ไม่แนะนำให้เก็บมันฝรั่งไว้ในตู้เย็น เนื่องจากมันฝรั่งมีแป้งสูง เมื่ออยู่ในอุณหภูมิต่ำ แป้งเหล่านี้จะค่อยๆ เปลี่ยนเป็นน้ำตาล ส่งผลให้รสชาติเปลี่ยน เนื้อสัมผัสผิดไปจากเดิม และยังอาจทำให้เกิดกลิ่นหรือสีที่ไม่พึงประสงค์เมื่อนำไปปรุงอาหาร
คำแนะนำ: ควรเก็บมันฝรั่งไว้ในที่เย็น อากาศถ่ายเท ไม่โดนแสงแดด และหลีกเลี่ยงความชื้น จะช่วยรักษาความสดและรสชาติไว้ได้ดีกว่า