PMN-2 หนึ่งในระเบิดสังหารบุคคลที่ขึ้นชื่อเรื่องความร้ายแรงและถูกใช้อย่างแพร่หลายในหลายสมรภูมิทั่วโลก
อาวุธชนิดนี้มีต้นกำเนิดจากสหภาพโซเวียต และถูกจัดว่าเป็นหนึ่งในภัยคุกคามร้ายแรงต่อทหารและพลเรือน เนื่องจากออกแบบมาให้พรางตา ตรวจจับยาก และสร้างความเสียหายรุนแรงต่อร่างกาย
บทความนี้จะพาไปรู้จักข้อมูลเชิงลึกของ PMN-2 ทั้งโครงสร้าง กลไกการทำงาน ผลกระทบ และสถานการณ์การใช้งานในปัจจุบัน
ลักษณะและโครงสร้าง
- รูปร่าง: ทรงกลมแบน เส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 112 มม.
- น้ำหนักรวม: ราว 600 กรัม
- สี: โดยทั่วไปเป็นสีเขียวเข้ม น้ำตาล หรือสีทรายเพื่อพรางตัว
- วัสดุ: ตัวเรือนทำจากพลาสติกเพื่อลดการตรวจจับด้วยเครื่องตรวจโลหะ
- ชนวน: กดด้วยแรงประมาณ 5–25 กิโลกรัมเพื่อให้ทำงาน
กลไกการทำงาน (สรุป)
ภายในระเบิดบรรจุดินระเบิด (เช่น TNT) น้ำหนักประมาณ 100–150 กรัม เมื่อแรงกดจากการเหยียบลงบนฝาครอบเพียงพอ กลไกสปริงและเข็มแทงชนวนจะทำงานจุดชนวนดินระเบิดหลัก ส่งผลให้เกิดแรงระเบิดรุนแรงเพียงพอที่จะทำให้ผู้ที่เหยียบได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือเสียชีวิต
ข้อควรทราบ: ข้อความข้างต้นเป็นคำอธิบายเชิงข้อมูลทั่วไปเท่านั้น — ไม่ใช่คำแนะนำด้านเทคนิคหรือขั้นตอนการก่อวัตถุระเบิด
จุดเด่นและความอันตราย
- ออกแบบมาเพื่อทำให้เกิดการ พิการ มากกว่าการฆ่าโดยตรง เพื่อสร้างภาระด้านกำลังพลและการแพทย์ของฝ่ายตรงข้าม
- ตัวเรือนพลาสติกทำให้ ตรวจจับได้ยาก ในการกวาดล้างพื้นที่
- สามารถฝังในดิน น้ำตื้น หรือซ่อนในพื้นที่ปกคลุมด้วยพืชพรรณได้อย่างแนบเนียน
การใช้งานในสนามรบ
PMN-2 ถูกส่งออกและนำไปใช้ในหลายประเทศ เช่น อัฟกานิสถาน กัมพูชา แอฟริกาหลายประเทศ และตะวันออกกลาง โดยมักใช้ในเขตชายแดน เส้นทางยุทธศาสตร์ หรือรอบฐานทัพเพื่อชะลอหรือทำให้คู่ต่อสู้เสียกำลังพล
ผลกระทบด้านมนุษยธรรม
แม้ว่ามีอนุสัญญาห้ามใช้ระเบิดบุคคล (Ottawa Treaty) แต่ในพื้นที่ที่ยังมีหลงเหลือระเบิดชนิดนี้จะก่อให้เกิดการบาดเจ็บแก่พลเรือนจำนวนมาก โดยเฉพาะเด็กและเกษตรกรที่เผลอเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง ส่งผลต่อสุขภาพ เศรษฐกิจ และความมั่นคงของชุมชนท้องถิ่น
การกู้และทำลาย (ภาพรวม)
หน่วยเก็บกู้ระเบิด (EOD) ใช้เครื่องมือตรวจหา เช่น เครื่องตรวจจับความไวสูง และสุนัขดมกลิ่นในการค้นหา จากนั้นจะเลือกวิธีทำลายที่ปลอดภัย เช่น การระเบิดควบคุมหรือปลดชนวนโดยผู้เชี่ยวชาญ การจัดการพื้นที่ที่มีระเบิดตกค้างต้องอาศัยทีมมืออาชีพและมาตรการด้านความปลอดภัยอย่างเข้มงวด
หากพบวัตถุต้องสงสัย: ห้ามจับหรือเคลื่อนย้าย แจ้งหน่วยงานท้องถิ่นหรือทีมกู้ระเบิดทันที
หมายเหตุ: บทความนี้จัดทำเพื่อให้ความรู้และเตือนภัย ไม่สนับสนุนการก่อเหตุหรือการประดิษฐ์อาวุธ