ย้อนคลิป 1 นาที "หมอวี" สอนวัดความดันด้วยตัวเอง มีเทคนิคเล็กๆ ที่หลายคนอาจพลาดไป รู้แล้วเพิ่มความมั่นใจผลแม่นยำ!
การวัดความดันโลหิตเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกคนควรใส่ใจ โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด นับเป็นสิ่งสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม การติดตามค่าความดันโลหิตอย่างสม่ำเสมอสามารถช่วยลดความเสี่ยงได้ แต่หลายคนอาจรู้สึกว่าการวัดด้วยตนเองที่บ้านนั้น อาจฟังดูเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ไม่มั่นใจว่าทำได้อย่างถูกตองแม่นยำพอ
เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ นพ.วีรพันธ์ สุวรรณนามัย หรือ หมอวี ศัลยแพทย์ระบบประสาท และสมาชิกวุฒิสภา เคยโพสต์คลิปให้ความรู้เรื่องการวัดความดันโลหิต ผ่านทางยูทูปช่อง Dr.V Channel แนะนำเทคนิคง่ายๆ ที่จะช่วยให้สามารถวัดความดันด้วยตัวเองได้อย่างถูกต้องและแม่นยำ
1. เตรียมเครื่องมือที่มีมาตรฐาน อับดับแรกเลยคือ ต้องมีเครื่องวัดความดันที่มีคุณภาพและได้รับการรับรองมาตรฐาน เพื่อให้ได้ผลที่ถูกต้องแม่นยำ
2. ตำแหน่งการใส่ปลอกแขน ใส่ปลอกแขนในตำแหน่งที่สูงกว่าข้อพับประมาณ 2 ช่วงนิ้ว และสามารถสอดนิ้วมือเข้าไปได้ประมาณ 1 นิ้ว โดยเมื่อหงายแขนขึ้น ให้ปลอกแขนด้านที่มีอักษรดเขียนว่า ART (แต่ละยี่ห้อเขียนไม่เหมือนกัน) อยู่ด้านบน ในตำแหน่งที่โยงไปตรงกับนิ้วนาง
3. วางแขนในตำแหน่งที่ถูกต้อง หลังจากใส่ปลอกแขนเสร็จแล้ว ให้ยกแขนขึ้นในระดับเดียวกับหัวใจ อยู่ในท่าที่ผ่อนคลายและไม่เกร็ง และที่สำคัญคือเมื่อกดปุ่มวัดความดัน ควรหลีกเลี่ยงการพูดคุยหรือขยับแขนในระหว่างการวัด เพื่อไม่ให้ผลการวัดผิดเพี้ยน
4. การอ่านผลวัด หลังจากการวัดเสร็จ เครื่องจะโชว์ตัวเลข 3 ค่า คือ
-
ตัวเลขบนสุด แสดงความดันขณะหัวใจบีบตัว (Systolic) ค่านี้ไม่ควรเกิน 140
-
ตัวเลขตรงกลาง แสดงความดันขณะหัวใจคลายตัว (Diastolic) ค่านี้ไม่ควรเกิน 90
-
ตัวเลขล่างสุด คืออัตราการเต้นของหัวใจ (Heart rate) ใน 1 นาที
หลังจากการวัดความดันโลหิตทุกครั้ง ควรบันทึกผลไว้เพื่อการติดตามความเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง หากพบค่าความดันสูงหรือต่ำเกินไป ควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและการรักษาที่เหมาะสม
ด้วยเทคนิคที่หมอวีแนะนำนี้ จะช่วยให้การวัดความดันโลหิตเป็นไปอย่างถูกต้องและแม่นยำมากขึ้น ซึ่งการตรวจสอบความดันอย่างสม่ำเสมอเป็นกุญแจสำคัญในการรักษาสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดให้แข็งแรง
- อธิบายดีมาก! ย้อนฟัง "หมอวี" เตือนยา 2 ตัวนี้ กินด้วยกันไม่ได้ ระวังหายปวดแต่ "ไตพัง"
- รีบแชร์ต่อ! สว.หมอวี ย้ำเวลาเฝ้าระวัง "อาฟเตอร์ช็อก" สอนวิธีเอาตัวรอดในอาคาร-กลางแจ้ง