4 อุปกรณ์ที่ขึ้นชื่อว่า "ปีศาจกินไฟ" แต่หลายคนมองข้าม พบ 80% ของผู้ใช้มักจะลืมถอดปลั๊กหลังใช้งาน
คุณเคยสงสัยไหมว่าทำไมค่าไฟฟ้าในแต่ละเดือนถึงสูง แม้ว่าคุณจะไม่ได้ใช้ไฟมากขนาดนั้น?
ในบ้านของคุณอาจมีตัวการที่ทำให้สิ้นเปลืองไฟฟ้าอยู่ไม่น้อย โดยเฉพาะอุปกรณ์ไฟฟ้าที่อยู่ในโหมดสแตนด์บาย ซึ่งหลายคนมองว่าไม่ส่งผลกระทบอะไร จึงมักปล่อยผ่าน
ตัวอย่างเช่น 4 อุปกรณ์ต่อไปนี้ที่ได้ชื่อว่าเป็น "ปีศาจกินไฟ" หากไม่ได้ใช้งาน อย่าลืมถอดปลั๊กเพื่อช่วยประหยัดค่าไฟและยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์เหล่านั้น
4 อุปกรณ์ที่ขึ้นชื่อว่า "ปีศาจกินไฟ"
1. เครื่องปรับอากาศ
หลายคนมักปิดเครื่องปรับอากาศด้วยรีโมตและคิดว่าเพียงพอแล้ว แต่ความจริงคือเครื่องยังอยู่ในโหมดสแตนด์บาย และยังคงใช้พลังงานอยู่แบบเงียบ ๆ ซึ่งไม่เพียงแค่สิ้นเปลืองไฟฟ้า แต่ยังลดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ด้วย
ดังนั้นเมื่อไม่ได้ใช้เครื่องปรับอากาศ ควรถอดปลั๊กออกเพื่อช่วยประหยัดพลังงานและยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานขึ้น
2. โทรทัศน์และกล่องรับสัญญาณ
เช่นเดียวกับเครื่องปรับอากาศ โทรทัศน์และกล่องรับสัญญาณจะยังคงใช้พลังงานอยู่แม้จะปิดด้วยรีโมต โดยเฉพาะในช่วงวันที่มีพายุฝนฟ้าคะนอง การปล่อยให้โทรทัศน์อยู่ในโหมดสแตนด์บายอาจเสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรและความเสียหายต่ออุปกรณ์
ดังนั้นเพื่อความปลอดภัยและการประหยัดพลังงาน อย่าลืมถอดปลั๊กโทรทัศน์เมื่อไม่ได้ใช้งาน
3. ที่ชาร์จโทรศัพท์
หลายคนมักเสียบที่ชาร์จโทรศัพท์ แท็บเล็ต หรือแล็ปท็อปค้างไว้ในปลั๊กเพื่อความสะดวก แม้จะไม่ได้ชาร์จ แต่ภายในที่ชาร์จยังมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านอยู่ ซึ่งเมื่อเวลาผ่านไปอาจลดอายุการใช้งานของที่ชาร์จได้ แม้การใช้พลังงานจะไม่มาก แต่ก็เป็นความสิ้นเปลืองที่ไม่จำเป็น
ลองปรับนิสัยถอดที่ชาร์จออกเมื่อไม่ได้ใช้งาน เพื่อป้องกันความเสียหายต่ออุปกรณ์และช่วยประหยัดพลังงานในระยะยาว
4. อุปกรณ์ไฟฟ้าในห้องน้ำ
เครื่องใช้ไฟฟ้า เช่น ไดร์เป่าผมและเครื่องซักผ้า มักถูกวางไว้ในห้องน้ำ ซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีความชื้นและเสี่ยงต่อการโดนน้ำกระเด็น นอกจากจะสิ้นเปลืองไฟหากเสียบปลั๊กทิ้งไว้นาน ยังอาจเสี่ยงต่อการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรือไฟฟ้าดูดหากไม่ได้ดูแลอย่างเหมาะสม
ดังนั้นหลังใช้งานไดร์เป่าผม ควรถอดปลั๊กและเก็บในที่แห้งและอากาศถ่ายเท ส่วนเครื่องซักผ้า ควรถอดปลั๊กหลังใช้งาน และติดตั้งฝาครอบป้องกันปลั๊กไฟเพื่อป้องกันความชื้น เพื่อความปลอดภัยและลดความเสี่ยงในครอบครัวของคุณ