รู้ไว้ดีกว่า! งู 2 ชนิดที่ตายแล้วยังปล่อยพิษได้ ควรระวัง

5 days ago 7
❤️ ARTICLE AD BOX ❤️

งู” ที่หลายคนกลัวเพราะพิษร้ายแรง อาจอันตรายกว่าที่คิดไว้มาก เมื่อมีงานวิจัยล่าสุดในวารสาร “Frontiers in Tropical Disease” เปิดเผยว่า งูเห่าหม้อ (Naja kaouthia) และ งูทับสมิงคลา (Bungarus lividus) ในอินเดียยังคงสามารถฉีดพิษได้แม้จะตายไปแล้วหลายชั่วโมง

งู

นอกจากนี้งานวิจัยดังกล่าว ยังได้บันทึกตัวอย่างที่น่าตกใจ 3 กรณี:

  • งูเห่าที่ถูกตัดหัว: ชายคนหนึ่งถูกหัวงูเห่าหม้อที่ถูกตัดขาดกัดเข้าที่นิ้วหัวแม่มือขณะกำลังจะทิ้งซากงู ทำให้เขาต้องพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลนานถึง 20 วัน
  • งูเห่าที่ถูกรถไถทับ: ชายอีกคนหนึ่งถูกงูเห่าที่ถูกรถไถทับจนดูเหมือนตายแล้วกัดเข้าที่เท้า ทำให้เกิดอาการบวมและแผลพุพอง
  • งูทับสมิงคลาที่ตายไปแล้ว 3 ชั่วโมง: ชายคนหนึ่งถูกงูทับสมิงคลาที่ตายไปแล้ว 3 ชั่วโมงกัดเข้าที่นิ้วมือ ทำให้เขามีอาการอัมพาตและต้องได้รับการดูแลอย่างใกล้ชิดนานถึง 43 ชั่วโมงก่อนจะฟื้นตัว

งูสามารถฉีดพิษได้อย่างไรถ้าตายแล้ว?

สำหรับเรื่องนี้นักวิจัยอธิบายว่า งูพิษบางชนิดมีโครงสร้างพิเศษที่ทำให้มันสามารถปล่อยพิษออกมาได้แม้จะตายไปแล้ว โดยมีปัจจัยสำคัญดังนี้:

  • โครงสร้างต่อมพิษ: ต่อมพิษที่เชื่อมต่อกับเขี้ยวกลวงสามารถปล่อยพิษได้หากถูกกดโดยไม่ได้ตั้งใจ

  • พิษที่ตกค้างในเขี้ยว: แม้จะได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือตายแล้ว เขี้ยวของงูยังคงมีพิษที่ออกฤทธิ์ได้

  • แรงกดดันทางกลไก: การจับซากงูหรือหัวที่ถูกตัดขาดอาจไปกระตุ้นให้เกิดการฉีดพิษโดยไม่ได้ตั้งใจ

อ่านบทความเพิ่มเติม:

 

Read Entire Article