วิธี "ซักถุงเท้า" คำแนะนำจากกูรูด้านเชื้อโรค แค่ผงซักฟอกไม่พอ คนส่วนใหญ่ทำผิด

9 hours ago 1
❤️ ARTICLE AD BOX ❤️

นักจุลชีววิทยาแนะนำ วิธีซักถุงเท้าที่ถูกต้องปลอดภัยจากเชื้อโรค แค่ผงซักฟอกไม่พอ คนส่วนใหญ่ทำผิด

นักจุลชีววิทยาเตือนว่า การละเลยเรื่องซักถุงเท้า อาจนำไปสู่ปัญหามากกว่ากลิ่นเท้าเหม็น และการซักถุงเท้าอย่างถูกวิธีสำคัญมากเพราะสามารถช่วยป้องกันโรคติดเชื้อได้

ดร.พริมโรส ฟรีสโตน (Dr. Primrose Freestone) นักจุลชีววิทยาจากมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ ระบุว่า “เท้าของคุณคือป่าฝนขนาดจิ๋วที่เต็มไปด้วยแบคทีเรียและเชื้อรา”

โชคดีที่ ดร.ฟรีสโตน แนะนำวิธีดูแลถุงเท้าให้สะอาดสดชื่นอย่างถูกต้อง เธอแนะนำกับ Daily Mail ว่า ควรซักถุงเท้าด้วยน้ำที่อุณหภูมิ อย่างน้อย 60°C (หรือ 140°F) ร่วมกับผงซักฟอกที่มีเอนไซม์

“เอนไซม์จะช่วยดึงแบคทีเรียออกจากเส้นใยของถุงเท้า ส่วนความร้อนสูงจะฆ่าแบคทีเรียและเชื้อราที่สามารถอยู่รอดที่อุณหภูมิของเท้ามนุษย์ได้” ดร.ฟรีสโตนอธิบาย

“หากเครื่องซักผ้าของคุณไม่สามารถทำความร้อนถึง 60°C ได้ การใช้เตารีดไอน้ำก็ช่วยได้เช่นกัน ความร้อนจากเตารีดจะซึมลึกเข้าไปในเนื้อผ้าและฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ไวรัสหูด และเชื้อรากลากเกลื้อน”

เท้าเป็นแหล่งสะสมแบคทีเรีย

แม้เท้าจะถูกห่อหุ้มอยู่ในรองเท้าเกือบตลอดวัน แต่มันก็ยังเป็นหนึ่งในส่วนที่สกปรกที่สุดของร่างกาย จากการศึกษาพบว่า ผิวหนังแต่ละตารางเซนติเมตรบนเท้าอาจมีเซลล์จุลินทรีย์ตั้งแต่ 10 ล้านถึง 100 ล้านเซลล์

นั่นเป็นเพราะเท้าเป็นพื้นที่ อบอุ่น มืด และชื้น ซึ่งเป็นสภาพแวดล้อมที่แบคทีเรียชื่นชอบ โดยเฉพาะบริเวณ ซอกนิ้วเท้า ที่มีต่อมเหงื่อจำนวนมาก ซึ่งทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตได้ดี

และยิ่งแย่ลงเมื่อถุงเท้าทำหน้าที่เหมือน ฟองน้ำดูดซับจุลินทรีย์ ทั้งจากดิน น้ำ ขนสัตว์เลี้ยง และฝุ่นละออง การศึกษาชิ้นหนึ่งพบว่า ถุงเท้ามีปริมาณเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรามากที่สุดในบรรดาเสื้อผ้าทุกชิ้น หลังจากสวมเพียง 12 ชั่วโมง

จุลชีพเหล่านี้จะเข้าไปอาศัยในสภาพแวดล้อมอบอุ่นของเท้า และขยายจำนวนอย่างรวดเร็ว

“เท้าสามารถเป็นแหล่งอาศัยของแบคทีเรียและเชื้อรากว่า 1,000 สายพันธุ์ บางชนิดกินเหงื่อที่เท้าผลิตออกมา และของเสียจากพวกมันก็เป็นสาเหตุของกลิ่นเท้าเหม็น ถุงเท้าเหม็น และรองเท้าเหม็น” ดร.ฟรีสโตนระบุ

แบคทีเรียเหล่านี้มีตั้งแต่ชนิดไม่ก่ออันตราย ไปจนถึงเชื้ออันตราย เช่น:

  • Aspergillus (เชื้อราก่อโรคปอด Aspergillosis ทำให้ไอเป็นเลือด)

  • Staphylococcus (เชื้อสแตฟฯ ก่อการติดเชื้อผิวหนัง แผลพุพอง ฝี หรือแม้แต่พิษในกระแสเลือด)

  • Candida, Histoplasma, และ Cryptococcus

เมื่อเชื้อเหล่านี้เติบโตในถุงเท้า ก็อาจแพร่กระจายต่อได้ง่าย ความเสี่ยงใหญ่ที่สุดที่มากับถุงเท้า คือการติดเชื้อที่ผิวหนังที่พบได้ทั่วไป “คุณสามารถแพร่เชื้อจากถุงเท้าที่สกปรก เช่น หูด (verruca) ซึ่งเกิดจากไวรัส HPV และติดต่อได้ง่ายมาก
รวมถึงเชื้อรากลากเกลื้อน (athlete’s foot) ที่อยู่ในถุงเท้าและสามารถแพร่จากการไม่ซักถุงเท้า” ดร.ฟรีสโตนกล่าว

ไม่ใช่แค่ซัก แต่รีดด้วย

นอกจากต้องเปลี่ยนถุงเท้าทุกวันแล้ว ดร.ฟรีสโตนเน้นว่า “การซักถุงเท้าอย่างถูกวิธีสำคัญมาก เพื่อป้องกันโรคติดเชื้อ”

อุณหภูมิในการซักปกติ 30-40°C (86-104°F) นั้นไม่ร้อนพอที่จะฆ่าเชื้อโรคได้ เนื่องจากเป็นอุณหภูมิที่จุลินทรีย์เท้าสามารถทนได้ “แม้ผงซักฟอกจะช่วยทำความสะอาด แต่จากการวิจัยในห้องแล็บของฉันพบว่า หากไม่ซักน้ำร้อน เชื้อบางส่วนก็ยังเหลือในถุงเท้า”

ดังนั้นการซักด้วยอุณหภูมิสูง หรือรีดด้วยเตารีดไอน้ำร้อนจะช่วยกำจัดเชื้ออันตรายได้ทั้งหมด “ตัวฉันเองก็ซักถุงเท้าด้วยน้ำร้อน ผงซักฟอกฆ่าเชื้อ และรีดร้อนซ้ำอีกครั้ง ถุงเท้าของฉันจึงสะอาดวิบวับ เช่นเดียวกับเท้าของฉัน!”

Read Entire Article