วิธีเปิดฟีเจอร์ป้องกันขโมย มือถือ Samsung Galaxy บน One UI 7 ติดตามเครื่องได้ ล็อกบัญชีจากระยะไกล เมื่อโดนขโมย

1 week ago 10
❤️ ARTICLE AD BOX ❤️

Samsung ได้ออกมาแนะนำให้ผู้ใช้งาน Galaxy รีบเปิดใช้งานฟีเจอร์ ป้องกันการขโมย (Anti-Theft) และ ป้องกันการปล้น (Anti-Robbery) รุ่นใหม่ล่าสุด ซึ่งเปิดให้ใช้งานแล้วบนอุปกรณ์หลายรุ่น โดยมีเป้าหมายเพื่อเสริมความปลอดภัยขั้นสูง ช่วยให้ผู้ใช้สามารถควบคุมข้อมูลและตัวเครื่องได้แม้ในสถานการณ์เสี่ยง

อัปเดตใหม่ใน One UI 7 : ป้องกันการขโมยขั้นสูงบนมือถือ Galaxy

One UI 7 ซึ่งเริ่มเปิดตัวพร้อมกับ Galaxy S25 series เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ที่ผ่านมา และกำลังทยอยปล่อยให้อัปเดตในอุปกรณ์ Galaxy รุ่นต่าง ๆ ตลอดปีนี้ มาพร้อมกับฟีเจอร์ด้านความปลอดภัยที่อัปเกรดขึ้นอย่างชัดเจน โดยเฉพาะฟีเจอร์ Theft Protection และ Anti-Robbery

จุดเด่นของฟีเจอร์ Theft Protection

  • Theft Detection Lock: ใช้ AI วิเคราะห์ท่าทางการขโมย เช่น การกระชาก หรือขโมยมือถือขณะใช้งาน เพื่อทำการล็อกหน้าจอโดยอัตโนมัติทันที
  • Offline Device Lock: หากอุปกรณ์ไม่มีการเชื่อมต่อเครือข่ายเป็นเวลานาน หน้าจอจะถูกล็อกโดยอัตโนมัติ ช่วยให้ปลอดภัยแม้ไม่ได้ออนไลน์
  • Remote Lock: กรณีเครื่องถูกขโมย ผู้ใช้สามารถล็อกอุปกรณ์จากระยะไกลผ่านหมายเลขโทรศัพท์และการยืนยันตัวตนที่รวดเร็ว รวมถึงฟีเจอร์ช่วยในการกู้คืนบัญชี

ฟีเจอร์ใหม่เพื่อรับมือกับการ “ปล้นมือถือ” (Anti-Robbery)

เนื่องจากกรณีโจรกรรมบางครั้งเกิดขึ้นจากการที่ PIN หรือข้อมูลเข้าสู่ระบบรั่วไหล Samsung จึงพัฒนาโซลูชันที่ลึกขึ้น ได้แก่

  • Identity Check (ตรวจสอบตัวตนในสถานที่ไม่คุ้นเคย) : หากอยู่ในสถานที่ที่ไม่ใช่ “พื้นที่ปลอดภัย (Safe Places)” การเปลี่ยนแปลงการตั้งค่าความปลอดภัยจะต้องใช้ การยืนยันตัวตนแบบไบโอเมตริกซ์ เพิ่มความปลอดภัยเมื่อ PIN ถูกเปิดเผย
  • Security Delay (ดีเลย์ความปลอดภัย) : หากมีการพยายามรีเซ็ตข้อมูลไบโอเมตริกซ์ จะมีการหน่วงเวลา 1 ชั่วโมง เพื่อให้ผู้ใช้มีเวลาล็อกเครื่องจากอุปกรณ์อื่น เช่น แท็บเล็ตหรือพีซี ก่อนที่ผู้ไม่หวังดีจะเข้าถึงเครื่องได้

วิธีเปิดฟีเจอร์ป้องกันการโจรกรรม

  • ไปที่ ตั้งค่า
  • ความปลอดภัยและความเป็นส่วนตัว
  • การป้องกันอุปกรณ์สูญหาย
  • การป้องกันการโจรกรรม
  • กดเปิด
    • ล็อกป้องกันการโจรกรรม
    • ล็อกอุปกรณ์ออฟไลน์
    • ล็อกระยะไกล

รุ่นที่รองรับการอัปเดตฟีเจอร์ป้องกันการโจรกรรม

  • Galaxy S25 series
  • Galaxy S24 series
  • Galaxy Z Fold6 / Z Flip6
  • Galaxy Z Fold5 / Z Flip5
  • Galaxy S23 series
  • Galaxy S22 series

โดยจะมีการอัปเดตเพิ่มให้กับรุ่นอื่น ๆ ต่อไปในอนาคต

วิธีจัดการเมื่อมือถือ Samsung Galaxy สูญหายหรือถูกขโมย

วิธีล็อกเครื่องจากระยะไกล (Remote Lock)

  1. เข้าเว็บไซต์ Samsung Find และเข้าสู่ระบบด้วยบัญชี Samsung
  2. เลือกอุปกรณ์ที่ต้องการ แล้วคลิก Lost Mode
  3. ตั้งรหัส PIN เพื่อปลดล็อกเมื่อตามเจอเครื่อง และยืนยันรหัสอีกครั้ง
  4. (ไม่จำเป็น) เพิ่มข้อความแจ้งเตือนหรือเบอร์ติดต่อฉุกเฉินบนหน้าจอล็อก
  5. คลิก Lock และยืนยันบัญชี Samsung เพื่อเปิดใช้งาน Lost Mode
  6. หากตามเจอเครื่อง ให้ใช้ PIN ที่ตั้งไว้เพื่อปลดล็อก

วิธีลบข้อมูลจากระยะไกล (Erase Data)

  1. เข้าเว็บไซต์ Samsung Find
  2. เลือกอุปกรณ์แล้วคลิก Erase Data
  3. ยืนยันตัวตนผ่านบัญชี Samsung
  4. ตรวจสอบรายละเอียด และคลิก Erase เพื่อยืนยัน

วิธีเปลี่ยนรหัสผ่านบัญชี Samsung / Google

  1. เข้าสู่เว็บไซต์ของ Samsung หรือ Google
  2. เปลี่ยนรหัสผ่านของบัญชีที่เชื่อมกับมือถือ
  3. การเปลี่ยนรหัสผ่านจะทำให้บัญชีหลุดออกจากอุปกรณ์อื่น ๆ ที่เชื่อมไว้โดยอัตโนมัติ

วิธีติดตามตำแหน่งมือถือ Galaxy

  1. เข้าเว็บไซต์ Samsung Find แล้วล็อกอินด้วยบัญชี Samsung
  2. เลือกอุปกรณ์ที่ต้องการ
  3. ระบบจะแสดงตำแหน่งล่าสุดหรือปัจจุบันของเครื่อง
  4. ฟีเจอร์เสริมที่ใช้ได้:
    • Ring: สั่งให้เครื่องส่งเสียงแม้ตั้งเป็นเงียบ
    • Extend Battery: ยืดอายุแบตเตอรี่เพื่อให้ติดตามได้นานขึ้น
    • Real-Time Tracking: อัปเดตตำแหน่งทุก 15 นาที

วิธีติดตามค้นหาอุปกรณ์ Galaxy

ค้นหามือถือผ่านนาฬิกา Galaxy Watch (WearOS 5+)

  1. ปัดหน้าจอลงบน Galaxy Watch เพื่อเปิด Quick Settings
  2. แตะไอคอน Find My Phone
  3. แตะ Start โทรศัพท์จะส่งเสียงเรียก
  4. แตะ Stop บนนาฬิกาหรือไอคอน X บนมือถือเมื่อพบแล้ว

ค้นหา Galaxy Watch

  1. เปิดแอป Galaxy Wearable บนโทรศัพท์
  2. แตะ Find My Watch
  3. ถ้าเชื่อมต่อผ่าน Bluetooth ให้แตะ Start
  4. นาฬิกาจะสั่นและส่งเสียง (ตามรุ่น) เพื่อให้ค้นหาได้ง่าย

ค้นหา Galaxy Buds

  1. เปิดแอป Galaxy Wearable บนมือถือ/แท็บเล็ต
  2. แตะ Find My Earbuds
  3. แตะ Start หูฟังจะส่งเสียงนาน 3 นาที
  4. แตะ Stop เมื่อพบ

ใช้ Google Find My Device จาก Google

  • ฟีเจอร์จาก Google ที่ติดมากับ Android ทุกเครื่อง
  • ใช้งานได้ผ่านบัญชี Google
  • สามารถตั้งรหัสผ่านใหม่, สั่งให้เครื่องส่งเสียง, ล็อกเครื่อง, ลบข้อมูล ฯลฯ
Read Entire Article