วิวัฒนาการมือถือจอพับ Samsung Galaxy Z Fold Series – ติวเข้มอุ่นเครื่องรอ Galaxy Z Fold7

1 day ago 4
❤️ ARTICLE AD BOX ❤️

Galaxy Z Fold ซีรีส์มือถือจอพับสัญชาติเกาหลีของ Samsung นับเป็นผู้บุกเบิกตลาดมือถือจอพับทั่วโลกรายแรกๆ ที่ผู้คนต่างให้ความสนใจและเลือกใช้งานเป็นจำนวนมาก ทำให้ผู้ผลิตรายอื่นๆ ก็หันมาทำตลาดมือถือจอพับเช่นกัน วันนี้ DroidSans จะขอพาผู้อ่านทุกคนไปย้อนดูการเดินทางของ Galaxy Fold จนมาเป็น Galaxy Z Fold6 ว่ามีการเปลี่ยนแปลงอะไรไปบ้าง เพื่ออุ่นเครื่องรอการมาถึงของ Galaxy Z Fold7 ซึ่งอาจเปิดตัวในเร็วๆ นี้!

เริ่มต้นยุคของมือถือจอพับ – Galaxy Fold (2019)

Galaxy Fold ประกาศเปิดตัวครั้งแรกภายในงาน Galaxy Unpacked ที่จัดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2019 ด้วยคอนเซ็ปต์มือถือจอพับได้รุ่นแรกของ Samsung ทำให้สามารถเรียกเสียงฮือฮาไปได้ไม่น้อยหลังจากการเปิดตัว

จุดเด่นของ Galaxy Fold รุ่นแรกก็คือการใช้พาแนลหน้าจอแบบยืดหยุ่นได้ Dynamic AMOLED ขนาด 7.3 นิ้ว เมื่อกางออก (อัตราส่วน 4.2:3) สามารถพับครึ่งหรือกางออกได้ โดยหน้าจอภายนอก Super AMOLED มีขนาดอยู่ที่ 4.6 นิ้ว ความละเอียด FULL HD+ ในสมัยนั้นจะยังไม่เป็นหน้าจอแบบเต็มพื้นที่เหมือนในปัจจุบัน เพื่อให้สะดวกและง่ายต่อการใช้งานมือเดียว

อีกหนึ่งจุดเด่นที่ทำให้ Galaxy Fold ได้รับความสนใจถึงแม้จะมีราคาเปิดตัวที่สูงมากก็ตาม และสิ่งนั้นก็คือ กล้องทั้งหมด 6 ตัว โดยชุดกล้องหลัง 3 ตัวของ Galaxy Fold ประกอบไปด้วย กล้องหลักความละเอียด 12MP กล้องอัลตราไวด์ 16MP มุมกว้าง 123 องศา และกล้องซูมเทเลโฟโต้ 12MP ระยะซูมออปติคอล 2x ซูมดิจิตอลได้สูงสุด 10x

ส่วนกล้องหน้าที่อยู่ตรงหน้าจอภายนอก (Cover Camera) มีความละเอียดอยู่ที่ 10MP และกล้องหน้าจอด้านในนั้น Samsung เลือกใช้เป็นกล้องหน้าคู่ 2 ความละเอียด 10MP จับคู่กับกล้องวัดตื้น-ลึก 8MP ชิปเซต Snapdragon 855 จับคู่กับแบตเตอรี่ความจุ ​​4380 mAh แบบ Dual battery รองรับระบบชาร์จไว Fast Charging ทั้งแบบมีสายและไร้สาย

อย่างไรก็ตามด้วยการที่เป็นครั้งแรกของ Samsung ที่ลงมาเป็นผู้เล่นหน้าใหม่ในตลาดมือถือจอพับ ทำให้แผนเปิดวางขายต้องเลื่อนออกไปอยู่หลายรอบ เพราะปัญหาที่เกิดขึ้นกับส่วนประกอบบางชิ้นซึ่งกระทบกับการใช้งานหน้าจอ จนทาง DJ Koh ซึ่งเป็น CEO ของ Samsung ในตอนนั้นถึงกับออกมายอมรับว่าพลาดที่รีบเข็น Galaxy Fold ออกมาสู่ตลาดทั้งๆ ที่มันยังไม่พร้อม

จอใหญ่เต็มตาลื่นไหล 120Hz – Galaxy Z Fold2 (2020)

ถัดมาในเดือนสิงหาคม ปี 2020 ก็ถึงเวลาที่ Samsung จะเปิดตัวมือถือจอพับภาคต่อกับ Galaxy Z Fold2 ซึ่งในปีนี้มีการเปลี่ยนชื่อใหม่ด้วยการเพิ่มตัว ‘Z’ เข้ามาด้วย คาดว่าเพื่อให้สอดรับการการเปิดตัวของมือถือจอพับตลับแป้งรุ่นแรกอย่าง Galaxy Z Flip ในปีเดียวกัน

การเปลี่ยนแปลงหลักๆ ของ Galaxy Z Fold2 คือการขยายขนาดของหน้าจอด้านนอกเป็นขนาด 6.2 นิ้ว จนเกือบเต็มพื้นที่เพื่อการใช้งานที่เต็มตาสะใจยิ่งกว่าเดิมโดยไม่ต้องกางหน้าจอออกมาบ่อยๆ หลังจากก่อนหน้านี้ใน Galaxy Fold จอด้านนอกจะมีขนาดแค่ 4.6 นิ้วเท่านั้น และเว้นขอบจอบน-ล่างไว้เยอะพอสมควร ทำให้มีข้อจำกัดพอสมควร

นอกจากนั้นแล้วด้วยปัญหาของส่วนประกอบ และการใช้งานหน้าจอที่เคยเกิดขึ้นในรุ่นก่อนหน้านี้ Samsung จึงทำการพัฒนากระจก Ultra Thin Glass ให้มีความทนทานและยืดหยุ่นมากขึ้นกว่าเดิม ส่วนของตัวบานพับ Hidden Hinge ก็มีความแข็งแรงมากขึ้นเช่นกัน พร้อมรองรับการล็อกระดับหน้าจอคล้ายกับ Galaxy Z Flip ถึง 3 ระดับ (115°, 90° และ 75°) ช่วยให้การใช้งานแบบวางบนพื้นราบหรือโต๊ะสะดวกยิ่งขึ้นเข้าไปอีก

ดีไซน์ภายนอกโดยรวมไม่ได้เปลี่ยนแปลงไปจาก Galaxy Fold มากนัก โดยใช้แนวทางการออกแบบแบบเดียวกับ Galaxy Note 20 Series เป็นหลัก เซนเซอร์สแกนลายนิ้วมือที่ยุบรวมเข้ากับปุ่มเปิด-ปิดเครื่องเป็นที่เรียบร้อย กับกล้องหน้าเซลฟี่จากที่เคยใช้เป็นกล้องเซลฟี่คู่ 2 ตัว ก็เปลี่ยนมาใช้เป็นกล้องเจาะรู Infinity-O Display เพื่อเพิ่มพื้นที่การใช้งานหน้าจอให้เยอะขึ้น

จอพับที่รองรับปากกา และทนน้ำ IPX8 – Galaxy Z Fold3 (2021)

ถือเป็นธรรมเนียมของ Samsung ไปแล้วที่ในทุกๆ ปีจะต้องมีการเปิดตัวสมาร์ทโฟนจอพับเสมอ ซึ่งในปี 2021 นับเป็นอีกครั้งที่ Samsung ยกระดับมาตรฐานของสมาร์ทโฟนจอพับใหญ่เพิ่มขึ้นไปอีกขั้น ด้วยสเปคที่อัปเกรดจากรุ่นก่อนหน้าเยอะพอสมควร พร้อมทำตามคำเรียกร้องของแฟนๆ ด้วยการเพิ่มความสามารถในการใช้ปากกา S Pen บน Galaxy Z Fold3 เข้ามาด้วย

ด้วยขนาดหน้าจอเมื่อกางออกซึ่งมีขนาดถึง 7.6 นิ้ว มาบวกรวมเข้ากับความสามารถในการใช้งานปากกา S Pen เลยทำให้สามารถครอบคลุมการใช้งานในทุกๆ รูปแบบ เช่น การจดโน้ต เซ็นเอกสาร ไปจนถึงการขีดเขียนบนไฟล์งานตามต้องการ โดยปากกา S Pen Fold Edition และ S Pen Pro ถูกออกแบบมาเป็นพิเศษที่จะไม่ทำให้หน้าจอของ Fold เป็นรอยหรือเกิดความเสียหายเมื่อกดหัวปากกาลงบนหน้าจอ

นอกจากนั้นแล้วเพื่อการใช้งานหน้าจอที่เต็มตายิ่งขึ้นไปอีก Galaxy Z Fold3 ยังมาพร้อมกับเคโนโลยีสุดล้ำบนมือถือจอพับเป็นครั้งแรกของโลกกับ “กล้องเซลฟี่ใต้จอ (Under-Display Camera)” ความละเอียด 4MP หมดปัญหารำคาญใจกล้องหน้าเจาะรูอีกต่อไป

ในส่วนของความทนทาน Galaxy Z Fold3 ก็มาพร้อมมาตรฐานการทนน้ำ IPX8 เป็นครั้งแรก โดยจะรองรับการกันน้ำฝน หรือน้ำกระเซ็นใส่ เพราะตัวเครื่องซ้าย-ขวาจะถูกซีลไว้ด้วยเทปกาวที่กันน้ำได้เหมือนกับมือถือทั่วไป และการตีบวกหน้าจอด้านในด้วย Ultra Thin Glass รุ่นใหม่ช่วยให้จอด้านในที่ดูเปราะบางนั้น แข็งแรงกว่าเดิมถึง 80% ถึงขั้นที่ JerryRigEverything ยังให้ผ่านแบบฉลุย

แน่นอนว่าหลังจากงานเปิดตัวจบลงไป และเริ่มมีการเปิดให้สั่งจองล่วงหน้าเพื่อเป็นเข้าของมือถือจอพับรุ่นดังกล่าว ก็ทำเอาตลาดแทบแตกเพราะสเปคที่อัปเกรดขึ้นมาเยอะแบบเห็นได้ชัด ทำเอายอดจอดพุ่งสูงเป็นประวัติการณ์ แซงหน้ายอดสั่งจองของจอพับรุ่นก่อนหน้าไปเลย

ยกระดับมาตรฐานการถ่ายรูปของมือถือจอพับ – Galaxy Z Fold4 (2022)

เวลาผ่านไปไวจนใจหาย ปี 2022 ถือเป็นปีที่คนรักมือถือจอพับตื่นเต้นกันไม่น้อย เพราะผู้ผลิตมือถือรายอื่นๆ ต่างก็ตบเท้าลงมาเป็นผู้เล่นในสงครามมือถือจอพับกันเป็นที่เรียบร้อย ไม่ว่าจะเป็น OPPO ที่ได้ปล่อย OPPO Find N ในประเทศบ้านเกิดไปในปีก่อนหน้า หรือจะเป็น Xiaomi กับ Motorola ที่ในปี 2022 ก็ปล่อยมือถือจอพับรุ่นใหม่ของตนเองในช่วงเวลาไล่เลี่ยกับ Galaxy Z Fold4 กันรัวๆ เป็นสาเหตุให้ Samsung จะต้องทำอะไรสักอย่างเพื่อรับมือกับศึกในครั้งนี้!

หลังจากในปีที่แล้ว Galaxy Z Fold3 ได้มีการอัปเกรดสเปคขึ้นมาเยอะมากๆ จนทำให้ยอดสั่งจองล่วงหน้าสูงเป็นประวัตการณ์ Galaxy Z Fold4 ก็ใช่วาจะน้อยหน้า เพราะเปิดตัวมาพร้อมกับการยกเครื่องชุดกล้องหลังใหม่แบบเต็มสูบ เอาใจคนชอบถ่ายรูปด้วยกล้องหลักความละเอียด 50MP กล้องอัลตราไวด์ 12MP และกล้องซูมเทเลโฟโต้ 10MP ระยะซูมออปติคัล 3x 

ในส่วนของสเปคหน้าจอด้านในก็รองรับการใช้งาน S Pen เหมือนเดิม เพิ่มเติมคือความละเอียดซึ่งขยับขึ้นมาเป็น QXGA+ (2,176 x 1,812 พิกเซล) รีเฟรชเรท 1-120Hz กับกล้องเซลฟี่ใต้หน้าจอความละเอียด 4MP ที่ซ่อนได้แนบเนียนกว่าเดิมด้วยการเรียงเม็ดพิกเซลแบบใหม่ ทำให้ใช้งานปกติแทบไม่เห็นว่ามีตัวตนอยู่ส่วนไหนของจอ

GALAXY Z FOLD4 กล้องหน้าใต้จอ under display camera

โดยอีกหนึ่งการเปลี่ยนแปลงของ Galaxy Z Fold4 ที่น่าสนใจก็คือขนาดเครื่องที่เล็กลง บางลง และเบาลง แต่ยังมีขนาดของหน้าจอเท่าเดิม พร้อมกับการปรับอัตราส่วนหน้าจอใหม่ให้กว้างขึ้นกว่าเดิมใกล้เคียงกับสี่เหลี่ยมจัตุรัสมากขึ้น เพื่อแก้ปัญหาการแสดงผล UI ผิดเพี้ยนจากรุ่นก่อนๆ โดยเฉพาะหน้าจอด้านนอกที่ปกติจะเป็นแนวยาวที่มีความกว้างน้อย

มือถือจอพับ All Rounder ใช้ชิปตัวแรง for Galaxy – Galaxy Z Fold5 (2023)

ไม่ทันไรมือถือจอพับใหญ่ของ Samsung ก็เดินทางเข้าสู่ปีที่ 5 ซะแล้ว หลังจากเปิดตัวมาแล้วถึง 4 รุ่น จนการมาถึงของ Galaxy Z Fold5 ในปี 2023 ก็เปรียบเสมือนของขวัญแก่แฟนๆ Samsung หรือคนรักมือถือจอพับ ด้วยการอัปเกรดฮาร์ดแวร์กับฟีเจอร์แบบเบิ้มๆ ให้สมกับการเป็นมือถือจอพับตัวท็อปซีรีส์ ที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานในทุกๆ ด้านแบบ All Rounder

Galaxy Z Fold5 เป็นสมาร์ทโฟนจอพับที่ได้ใช้ชิปเซตเรือธงตัวท็อป ณ ตอนนั้นซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับการใช้งานบนสมาร์ทโฟนของ Samsung โดยเฉพาะอย่าง Snapdragon 8 Gen 2 for Galaxy พร้อมกับหน่วยความจำขนาด 12GB ให้รองรับทั้งการทำงานแบบ Multitasking และการเล่นเกมที่ต้องการใช้พลังการประมวลผลสูงๆ

สำหรับสเปคหน้าจอ Samsung เองก็ไม่หยุดที่จะพัฒนาเพื่อให้ผู้ใช้คลายความกังวลในการใช้งาน มาพร้อมกับหน้าจอภายนอกขนาด 6.2 นิ้ว ครอบทับด้วยกระจก Gorilla Glass Victus 2 ซึ่งทนรอยขีดข่วนมากกว่าเดิม และหน้าจอด้านในเองก็เพิ่มความสว่างสูงสุดถึง 1,750 นิต พร้อมเทคโนโลยีบานพับแบบใหม่ที่เรียกว่า Flex Hinge ช่วยลดรอยพับบนหน้าจอถึง 15%

และด้วยบานพับแบบใหม่ Flex Hinge นี้เอง ช่วยให้ Galaxy Z Fold5 สามารถพับหน้าจอประกบกันได้แนบสนิทยิ่งขึ้นกว่าเดิม โดยตัวเครื่องจะมีความหนาเมื่อพับอยู่ที่ 13.4 มม. และมีน้ำหนักตัวเครื่องอยู่ที่ 253 กรัม หลังจากที่ก่อนหน้านี้มีฟีดแบคมาจากกลุ่มผู้ใช้งานเกี่ยวกับช่องวางของหน้าจอ ที่ไม่แนบสนิทกันมากเท่าไหร่

ครั้งแรกของจอพับที่ทนทั้งฝุ่นและน้ำ มาพร้อมผู้ช่วยอัจฉริยะ– Galaxy Z Fold6 (2024)

เดินทางมาจนถึง Galaxy Z Fold6 มือถือจอพับใหญ่ตัวล่าสุดที่เปิดตัวไปเมื่อปี 2024 โดยในปีนี้เองที่ Samsung ได้เปลี่ยนมาโฟกัสการเน้นพัฒนาซอฟต์แวร์มากยิ่งขึ้น ให้ตอบรับเทรนด์การใช้งาน AI หรือปัญญาประดิษฐ์ที่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นสูงเรื่อยๆ ด้วยการเปิดตัวฟีเจอร์ Galaxy AI พร้อมกับการเปลี่ยนดีไซน์ และอัปเกรดฮาร์ดแวร์ในหลายๆ จุดเพื่อเติมเต็มการใช้งานให้กับผู้ใช้ที่มากขึ้นกว่าเดิม

หลังจากใช้ดีไซน์ทรงโค้งมนมาตั้งแต่ Galaxy Fold รุ่นแรกมาจนถึง Galaxy Z Fold5 ทาง Samsung เองก็ทำการเปลี่ยนดีไซน์ให้กับ Galaxy Z Fold6 ใหม่ด้วยการลดความโค้งมน เพิ่มความเหลี่ยมและแบนให้มากขึ้น (คล้ายกับ Galaxy S24 Ultra ที่เปิดตัวในปีเดียวกัน) พร้อมกับน้ำหนักที่ลดลงไปเหลือเพียงแค่ 239 กรัม และความบางเมื่อพับหน้าจอ 12.1 มม. (จากเดิม 13.4 มม.)

และยังเป็นครั้งแรกของ Galaxy Z Fold ที่รองรับมาตรฐานความทนทานทั้งน้ำและฝุ่น IP48 ทนฝุ่นขนาด 1 มม. และน้ำลึก 1.5 เมตร ได้สูงสุดถึง 30 นาที พร้อมหน้าจอด้านในที่เพิ่มความสว่างสูงสุดมาเป็น 2,600 นิต และเปลี่ยนไปใช้บานพับแบบใหม่อีกครั้งอย่าง Dual Rail Hinge หรือบานพับแบบรางคู่ ทำให้กระจายแรงกดทับได้ดีขึ้น พร้อมกับรอยพับที่ดูตื้นลงเมื่อเทียบกับ Z Fold รุ่นก่อนๆ  (ถึงจะยังน้อยไม่เท่าเจ้าอื่นๆ ในตลาดก็ตาม)

จุดเด่นน่าสนใจอีกอย่างของ Galaxy Z Fold6 ก็คือ Galaxy AI ฟีเจอร์ผู้ช่วยอัจฉริยะที่พร้อมใช้งาน และรองรับภาษาไทยเต็มรุปแบบตั้งแต่เปิดเครื่อง ด้วยขุมพลังการประมวลผลจาก Snapdragon 8 Gen 3 for Galaxy เช่น ฟีเจอร์แปลภาษาแบบเรียลไทม์ขณะโทรออก หรือสนทนาแบบตัวต่อตัว ฟีเจอร์เปลี่ยนภาพร่างให้กลายเป็นภาพวาดสวยๆ ไปจนถึงฟีเจอร์ AI Composer สำหรับช่วยร่างข้อความ ปรับคำ เปลี่ยนรูปแบบการเขียนให้เหมาะสม DroidSans เคยเขียนสรุปรวมฟีเจอร์ Galaxy AI บน Galaxy Z Fold6 และ Flip6 ไว้ด้วย เพื่อนๆ คนไหนที่ยังไม่เคยได้อ่านสามารถกลับไปอ่านกันได้นะครับ

ที่น่าเสียดายจริงๆ คงจะเป็นในเรื่องของสเปคฮาร์ดแวร์อื่นๆ เช่น ชุดกล้องหลังที่ยังคงมีความละเอียดเท่าเดิม (แต่ Samsung ก็ยังใจดีอัปเกรดระบบประมวลผลภาพ ProVisual AI Engine ให้ใหม่ด้วยนะ) แบตเตอรี่ความจุเดิม 4,400mAh ที่ใช้มาตั้งแต่ Galaxy Z Fold3 กับความเร็วในการชาร์จที่ยังอยู่เพียงแค่ 25W เท่านั้น ในขณะที่เรือธงอย่าง Galaxy S กับมิดเรนจ์อย่าง Galaxy A ก้าวข้ามไปที่ 45W กันแล้ว

การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ระดับ Ultra พร้อมความบางเบายิ่งกว่าครั้งไหนๆ – Galaxy Z Fold7 (2025)

และในที่สุด เมื่อใกล้เวียนครบรอบ 1 ปี นับตั้งแต่ Galaxy Z Fold6 ได้เปิดตัวไป Samsung ก็ไม่พลาดที่จะปล่อยทีเซอร์ของ Galaxy Z Fold7 ออกมาเป็นน้ำจิ้มให้พวกเราได้ลุ้น และตื่นเต้นไปตามๆ กันก่อนที่จะเปิดตัวในเดือนกรกฎาคม ตามที่สื่อหลายๆ เจ้าคาดการณ์กันไว้

ยิ่งเมื่อ Samsung ได้ทำการปล่อยทีเซอร์ตัวใหม่ล่าสุดในชื่อว่า “บางเบา และทนทาน: สู่ยุคใหม่ของ Galaxy Z Fold Series” ทำให้เรามั่นใจได้แล้วครับว่าหนึ่งในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของ Galaxy Z Fold7 คือความบาง และน้ำหนักที่เบายิ่งกว่าครั้งไหนๆ หลังจากที่ปล่อยให้แบรนด์อื่นๆ อวดนวัตกรรมใหม่ๆ หรือความบางของจอพับกันไปก่อนแล้ว เช่น OPPO Find N5 ที่มีความบางเพียงเพียง 4.21 มม. (เมื่อกางจอ) 

และคาดว่า Galaxy Z Fold7 อาจจะเปิดตัวพร้อมกับซอฟต์แวร์เวอร์ชันใหม่อย่าง One UI 8 บนพื้นฐานของ Android 15 และขุมพลังประมวลผลจากชิปเซต Snapdragon 8 Elite for Galaxy รองรับการใช้งานขั้นสูงแบบเต็มประสิทธิภาพ

แล้วผู้อ่านทุกท่านอยากจะเห็นการเปลี่ยนแปลงอะไรบน Galaxy Z Fold7 ครั้งนี้บ้าง สามารถคอมเมนต์มาพูดคุยกันได้เลยนะครับ!

Read Entire Article