อุตสาหกรรมความงามทั่วโลกยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ข้อมูลจาก Grand View Research ระบุว่า ตลาดเครื่องสำอางทั่วโลกมีมูลค่าราว 296,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2023 และคาดว่าจะเติบโตเฉลี่ย 6.1% ต่อปี จนถึงปี 2030
ขณะที่กลุ่มผลิตภัณฑ์ความงามและดูแลส่วนบุคคลมีขนาดใหญ่ถึง 557,000 ล้านดอลลาร์ในปี 2024 โดยมีแนวโน้มขยายตัวอย่างต่อเนื่องจากความสนใจของผู้บริโภคในเรื่องภาพลักษณ์ และความนิยมในผลิตภัณฑ์ออร์แกนิกหรือปราศจากสารเคมี
เมื่อพิจารณากลุ่มผลิตภัณฑ์ที่เติบโตเร็วที่สุด น้ำหอม แม้จะมีสัดส่วนตลาดเพียง 17% แต่กลับเติบโตสูงถึง 14% ในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะในเอเชียแปซิฟิกที่มีแนวโน้มขยายตัวสูง ด้าน สกินแคร์ ยังครองสัดส่วนใหญ่ที่สุดของตลาดถึง 44% โดยมีการเติบโตจากการขึ้นราคาทั่วโลก ส่วนภูมิภาคที่คาดว่าจะเป็นผู้นำตลาดในอนาคต ได้แก่ เอเชีย อเมริกาเหนือ ตะวันออกกลาง และแอฟริกาจากแนวโน้มอุตสาหกรรมความงามที่เติบโตทั่วโลก เว็บไซต์ Insider Monkey จึงได้จัดอันดับ "50 ประเทศที่มีผู้หญิงสวยที่สุดในโลก" โดยอิงจากแบบสำรวจความคิดเห็นใน Reddit ซึ่งรวบรวมจากจำนวนการโหวตของผู้ใช้จริง โดยเรียงลำดับจากมากไปน้อย เพื่อสะท้อนภาพรวมความงามจากสายตาผู้คนทั่วโลก
ซึ่งในการจัดอันดับครั้งนี้ สาวไทยติดโผเข้ามาที่อันดับ 8 ของโลก โดยถูกระบุว่า "ประเทศไทยเป็นประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่มีชื่อเสียงจากพระราชวังอันหรูหรา ซากโบราณสถาน และชายหาดเขตร้อน นอกจากนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องชีวิตยามค่ำคืนและผู้คนที่มีรูปร่างหน้าตาดี โดยเฉพาะในภาคเหนือของประเทศ ซึ่งมักถูกกล่าวขานว่าเป็นแหล่งรวมของผู้หญิงที่สวยที่สุดในไทย ด้วยผิวขาวและลักษณะเด่นที่น่าดึงดูดใจ"
50 อันดับชาติที่มีผู้หญิงสวยที่สุดในโลก
1. เกาหลีใต้
2. บราซิล
3. สหรัฐอเมริกา
4. ญี่ปุ่น
5. เม็กซิโก
6. เยอรมนี
7. โคลอมเบีย
8. ไทย
9. อิตาลี
10. เวเนซุเอลา
11. อาร์เจนตินา
12. ฝรั่งเศส
13. ไต้หวัน
14. สเปน
15. กรีซ
16. ตุรกี
17. รัสเซีย
18. อินเดีย
19. สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์
20. ซาอุดีอาระเบีย
21. จีน
22. อิหร่าน
23. เลบานอน
24. สหราชอาณาจักร
25. ออสเตรเลีย
26. แคนาดา
27. ฟิลิปปินส์
28. มาเลเซีย
29. อียิปต์
30. แอฟริกาใต้
31. สวิตเซอร์แลนด์
32. เบลเยียม
33. สวีเดน
34. อิสราเอล
35. คูเวต
36. จอร์แดน
37. เปรู
38. ยูเครน
39. สาธารณรัฐโดมินิกัน
40. เนเธอร์แลนด์
41. ออสเตรีย
42. ชิลี
43. กาตาร์
44. โรมาเนีย
45. โปรตุเกส
46. โมร็อกโก
47. สิงคโปร์
48. โปแลนด์
49. ฮังการี
50. สาธารณรัฐเช็ก