“วันจันทร์สีเหลือง วันอังคารสีชมพู วันพุธสีเขียว วันพฤหัสบดีสีแสด วันศุกร์สีฟ้า วันเสาร์สีม่วง วันอาทิตย์สีแดง”
สีประจำวันทั้ง 7 วัน เป็นความรับรู้ร่วมกันของคนไทยแทบทุกคน ไม่ว่าจะเด็กหรือผู้ใหญ่ ต่างคุ้นเคยกับสีประจำวันราวกับเป็นสิ่งสามัญติดตัวมาตั้งแต่เกิด แต่เคยสงสัยไหมว่า สีเหล่านี้มาจากไหน ใครเป็นคนกำหนด?
สีประจำวัน เป็นวัฒนธรรมความเชื่อของไทยที่ได้รับอิทธิพลมาจากตำนานฮินดู และเป็นกฎเกณฑ์ของตำราโหราศาสตร์ที่ได้กำหนดสีประจำแต่ละวัน สีแต่ละสีได้กำหนดมาจากสีของเทพที่ปกป้องวันนั้น ๆ หรือ เทวดานพเคราะห์ ด้วยความเชื่อและวัฒนธรรมดังกล่าวนี้ จึงไม่แปลกที่ "ฝรั่ง" ชาวต่างชาติฝั่งตะวันตก จะไม่รู้จักธรรมเนียมนี้เลย
ที่มาของสีแต่ละวัน
-
วันอาทิตย์
พระอาทิตย์ ตามตำนานว่า พระอิศวรเอาราชสีห์ 6 ตัวมาป่น แล้วห่อด้วยผ้าสีแดง (Red Rose) พรมด้วยน้ำอมฤตบังเกิดเป็น "พระอาทิตย์" มีกายสีแดง
-
วันจันทร์
พระจันทร์ ตามตำนานว่า พระอิศวรร่ายพระเวทให้นางฟ้า 15 นางกลายเป็นผงละเอียด แล้วห่อด้วยผ้าสีเหลืองอ่อน (Light Yellow) ประพรมด้วยน้ำอมฤต ก็บังเกิดเป็น "พระจันทร์" มีกายสีเหลืองนวล
-
วันอังคาร
พระอังคาร ตามตำนานเล่าว่า พระอิศวรร่ายพระเวทให้กระบือ 8 ตัวกลายเป็นผงแล้วห่อด้วยผ้าสีแดงหลัว ก็บังเกิดเป็น "พระอังคาร" มีสีกายเป็นสีแก้วเพทาย (แดงหลัว) บางแห่งก็ว่าเป็นสีชมพู
-
วันพุธ
พระพุธ ตามตำนานว่า พระอิศวรร่ายพระเวทให้พญาคชสาร 17 ตัวกลายเป็นผงห่อด้วยผ้าสีเขียวใบไม้ ประพรมด้วยน้ำอมฤตก็บังเกิดเป็น "พระพุธ" มีสีกายเป็นสีแก้วมรกต
พระอิศวร หรือ พระศิวะ คือเทพเจ้าผู้ยิ่งใหญ่ในศาสนาฮินดู
-
วันพฤหัสบดี
พระพฤหัสบดี ตามตำนานว่า พระอิศวรร่ายพระเวทให้พระฤๅษี 19 ตนกลายเป็นผง แล้วเอาผ้าสีแสด (Bright Red Orange) ห่อผงนั้น ประพรมด้วยน้ำอมฤต ก็บังเกิดเป็น "พระพฤหัสบดี" มีสีกายเหมือนสีผ้าที่ห่อ
-
วันศุกร์
พระศุกร์ ตามตำนานว่า พระอิศวรร่ายพระเวทให้โค 21 ตัวกลายเป็นผง แล้วห่อด้วยผ้าสีน้ำเงินหรือสีคราม (Light Indigo Blue) ประพรมด้วยน้ำอมฤต ก็บังเกิดเป็น "พระศุกร์" มีสีกายกล่าวไว้ต่าง ๆ กัน แต่ตามภาพเขียนเป็นสีคราม
-
วันเสาร์
พระเสาร์ ตามตำนานกล่าวว่า พระอิศวรร่ายพระเวทให้เสือ 10 ตัวกลายเป็นผงแล้วห่อด้วยผ้าสีดำหลัว (Dark Brown Sepia) ประพรมด้วยน้ำอมฤต ก็บังเกิดเป็น "พระเสาร์" มีกายสีดำคล้ำ
ตามตำนานที่กล่าวมานี้ จะเห็นว่าสีกายของเทวดาทั้ง 7 เป็นสีเดียวกับผ้าที่ห่อ และเมื่อนำชื่อของเทวดาเหล่านั้นมาใช้เป็นชื่อวัน สีประจำวันนั้น ๆ ก็เป็นสีกายของเทวดาที่เป็นชื่อวันนั่นเอง
สีประจำวันในประวัติศาสตร์ไทย
สีประจำวันไทย ปรากฏเป็นหลักฐานลายลักษณ์อักษรที่เด่นชัดที่สุดในบทประพันธ์ “สวัสดิรักษา” ของสุนทรภู่ที่ใช้ถวายการสอนสมเด็จเจ้าฟ้าอาภรณ์พระเจ้าลูกยาเธอ ในรัชกาลที่ 2 และปรากฏในตำราพิชัยสงครามหลายๆ เล่ม
สุนทรภู่ ผู้ประพันธ์ สวัสดิรักษา
โดยสีถูกโฉลกในแต่ละวันนั้นมีที่มาจากสีประจำกายของเทพยดานพเคราะห์ คือ เทวดา 9 องค์ซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้ครองเรือนชะตาของมนุษย์เป็นความเชื่อจากโหราศาสตร์ฮินดู
-
วันอาทิตย์ : สีแดง
-
วันจันทร์ : สีขาวนวล
-
อังคาร : สีม่วงปนคราม
-
วันพุธ : สีแสดออกเหลือบ
-
พฤหัส : สีเขียวเหลือง
-
วันศุกร์ : สีเมฆหมอก
-
วันเสาร์ : สีดำ
สีประจำวันเริ่มมีบทบาทกับคนไทยอย่างทางการในสมัยในรัชกาลที่ 5 ที่มีการรับธรรมเนียมตะวันตกเข้ามา จึงมีการปรับสีให้เข้ากับสากลมากขึ้น เนื่องจากบางสีนั้นมีความซับซ้อนเกินไป จนเป็นสีประจำวันอย่างในปัจจุบันนี้
นอกจากนี้ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว มีราชโองการให้มีการกำหนดสีใช้ในประเพณีราชสำนัก เช่น การใช้สีประจำพระองค์ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชสมภพในวันอังคาร สีประจำพระองค์จึงเป็นสีชมพูเป็นต้น และสืบทอดเป็นธรรมเนียมต่อมา
จนถึงในรัชกาลที่ 6 มีพระราชนิยมกำหนดให้พระบรมวงศานุวงศ์ ข้าราชบริพาร ตลอดจนสุภาพชนแต่งกายด้วยสีตามวัน จนมีธรรมเนียมการใส่เสื้อผ้าตามสีประจำวันในทุกวันนี้