สุดปัง! ยูเอ็น มอบรางวัล “บ่อสวก” เมืองน่าน ชุมชนท่องเที่ยวยอดเยี่ยมโลก แห่งแรกของไทย
วันนี้ (7 ธ.ค. 67) นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ที่ปรึกษาของ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UN Tourism) ได้มอบรางวัลให้แก่ ชุมชนตำบลบ่อสวก จังหวัดน่าน ของประเทศไทยได้รับรางวัลชุมชนท่องเที่ยวยอดเยี่ยมโลก (Best Tourism Village 2024)
ซึ่งถือว่าเป็นแห่งแรกของประเทศไทย ที่สะท้อนความสำเร็จในการบูรณาการความร่วมมือของหน่วยงานภาครัฐ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ชุมชนและภาคีเครือข่ายมาร่วมกันพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล และมีความโดดเด่นด้านการจัดการแหล่งท่องเที่ยวโดยชุมชนอย่างยั่งยืนของไทย
นายจิรายุ กล่าวว่า บ่อสวกมีความหมายถึงบ่อเกลือที่นักท่องเที่ยวเมื่อไปเยือนจังหวัดน่านมักจะแวะชมเสมอ นอกจากนี้ ยังมีชื่อเสียงเรื่องแหล่งโบราณคดีเตาเผาเครื่องปั้นโบราณ ศิลปะพื้นบ้าน และภูมิปัญญาท้องถิ่น มีกิจกรรมที่น่าสนใจให้นักท่องเที่ยวได้เรียนรู้วิถีชุมชนผ่านงานหัตถกรรมพื้นบ้าน ที่หลากหลาย
ทั้งนี้ ตามนโยบายของรัฐบาลที่ให้ระดับท้องถิ่นช่วยกันนำเสนอและผลักดัน เพื่อให้ประเทศไทยเข้าสู่เป้าหมายการเป็น Tourism Hub ที่สำคัญของโลก ซึ่งการคว้ารางวัลชุมชนท่องเที่ยวยอดเยี่ยมโลก (Best Tourism Village 2024) จากองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UN Tourism) ของชุมชนตำบลบ่อสวก จังหวัดน่าน
“แสดงให้เห็นว่าไม่ว่าจะเป็นระดับหมู่บ้าน ระดับตำบล อำเภอ หรือจังหวัดล้วนแต่มีศักยภาพ สามารถเป็นแหล่งท่องเที่ยวชั้นนำของโลกได้ หากทุกภาคส่วนร่วมมือร่วมใจสนับสนุนจะสามารถพลิกโฉมประเทศด้านการท่องเที่ยวได้แน่นอน”นายจิรายุ กล่าว
นายจิรายุ กล่าวว่า สำหรับโครงการประกวดรางวัล Best Tourism Villages by UN Tourism หรือองค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ ได้เริ่มขึ้นในปี พ.ศ. 2563 มีวัตถุประสงค์เพื่อยกระดับการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นสู่มาตรฐานสากล ลดความเหลื่อมล้ำ ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ส่งเสริมพลังของสตรีและเยาวชน รวมถึงการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนา รวมทั้งยังเน้นการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและวัฒนธรรม
ซึ่งมีหลักเกณฑ์การประเมินชุมชนเพื่อพิจารณาเป็นชุมชนท่องเที่ยวยอดเยี่ยมโลก Best Tourism Village ด้วยกัน 9 ประเด็น ได้แก่
1.การจัดการทรัพยากรทางธรรมชาติและวัฒนธรรม
2.การส่งเสริมและอนุรักษ์ทรัพยากรทางวัฒนธรรม
3.การยกระดับเศรษฐกิจชุมชนอย่างยั่งยืน รวมถึงการกระจายรายได้และการสร้างงาน สร้างอาชีพให้กับชุมชน
4.การจัดการสังคมวัฒนธรรมท้องถิ่นอย่างเป็นธรรมและทั่วถึง
5.การจัดการสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากทั้งการท่องเที่ยวและการดำรงชีวิต
6.การพัฒนาศักยภาพด้านการท่องเที่ยวและการบูรณาการห่วงโซ่คุณค่าทางการท่องเที่ยว
7.การมีธรรมาภิบาลและให้ความสำคัญกับการพัฒนาพื้นที่เพื่อการท่องเที่ยวและชุมชนท้องถิ่น
8.ระบบสาธารณูปโภคและการเชื่อมต่อสิ่งอำนวยความสะดวกด้านการท่องเที่ยวและชุมชนท้องถิ่น
9.การบริการสุขภาพ สุขอนามัยและความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวและชุมชนท้องถิ่น
ทั้งนี้ รัฐบาลขอเชิญชวนผู้นำท้องถิ่นองค์การปกครองท้องถิ่น และส่วนราชการต่างๆ ได้ค้นหาสิ่งดีๆ ตามแนวทางของสหประชาชาติด้านการท่องเที่ยวเพื่อนำเสนอในการประกาศสถานที่ต่างๆ ในประเทศไทยต่อไป
“เชื่อว่าในทุกพื้นที่ของประเทศไทยที่มีอยู่กว่า 74,000 หมู่บ้าน กว่า 800 อำเภอมีสถานที่ท่องเที่ยว ที่ให้นักท่องเที่ยวทั่วโลกได้รับรู้ว่าประเทศไทยเที่ยวได้ทุกหมู่บ้าน ทุกตำบล ทุกอำเภอ” นายจิรายุ กล่าว