หญิงอ่านเจอ "ขิง" ดีต่อสุขภาพ ช่วยชะลอวัย กินทุกวัน 3 เดือน กลายเป็นบทเรียนราคาแพง
นางหลิวเหมย 54 ปี จากประเทศจีน เริ่มให้ความสำคัญกับสุขภาพของตัวเองมากขึ้นหลังเกษียณ เมื่อ 3 เดือนก่อน เธอได้อ่านบทความที่ระบุว่าการรับประทานขิงเป็นประจำสามารถช่วยชะลอวัยและส่งเสริมสุขภาพได้ เธอจึงซื้อขิงจำนวนมากมาเก็บไว้รับประทาน โดยในแต่ละวันเธอจะกินขิงดิบ 1 หัว
พฤติกรรมดังกล่าวดำเนินมาเป็นเวลา 3 เดือน จนกระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ นางหลิวเริ่มมีอาการปวดท้องและท้องเสียบ่อยครั้ง จนรู้สึกถึงความผิดปกติในร่างกายและตัดสินใจไปพบแพทย์ ผลตรวจพบว่าเธอเป็นแผลในกระเพาะอาหาร
แพทย์พบว่าการรับประทานขิงทุกวันเป็นสาเหตุของปัญหาดังกล่าว นางหลิวรู้สึกประหลาดใจและตั้งคำถามว่า “ฉันอ่านเจอมาว่าขิงดีต่อสุขภาพและช่วยชะลอวัย แต่ทำไมตอนนี้ฉันถึงมีแผลในกระเพาะจากการกินขิง?”
ดร.วู อันห์ ฮิ่น หัวหน้าแผนกการแพทย์แผนจีน โรงพยาบาลสังกัดที่ 4 ของมหาวิทยาลัยการแพทย์ฮาร์บิน ประเทศจีน อธิบายว่า ขิงมีรสเผ็ดและมีคุณสมบัติส่งผลต่อม้าม กระเพาะอาหาร และเส้นลมปราณในปอด การรับประทานขิงในปริมาณที่เหมาะสมช่วยให้ร่างกายอบอุ่นและป้องกันหวัดได้
จากมุมมองของการแพทย์สมัยใหม่ ขิงมีสารต้านอนุมูลอิสระ เช่น จินเจอรอล ซึ่งมีคุณสมบัติในการต้านแบคทีเรียและไวรัส ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและป้องกันโรคได้
เกี่ยวกับการชะลอวัย ผู้เชี่ยวชาญกล่าวว่างานวิจัยของสถาบันผู้สูงอายุแห่งชาติสหรัฐฯ ที่ตีพิมพ์ในวารสาร Plos One แสดงให้เห็นว่าสารสกัดช็อกกาโอลและโชกาโนนเอในขิงสามารถช่วยกำจัดเซลล์ที่เสื่อมสภาพในร่างกาย แต่ไม่มีหลักฐานยืนยันว่าการบริโภคขิงโดยตรงช่วยชะลอวัยได้
ในทางตรงกันข้าม การกินขิงมากเกินไป (เช่น เกิน 5 กรัมต่อวัน) อาจทำให้เยื่อบุกระเพาะอาหารระคายเคือง และหากเป็นเวลานานจะทำให้เกิดแผลในกระเพาะอาหาร นอกจากนี้ การบริโภคขิงในปริมาณมากยังอาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย ท้องอืด และไม่สบายกระเพาะอาหาร
ผู้เชี่ยวชาญแนะนำให้กินขิงในปริมาณที่พอเหมาะ เช่น สัปดาห์ละไม่กี่แผ่น และควรรับประทานอาหารที่หลากหลาย เพื่อไม่ให้พึ่งพาอาหารชนิดใดชนิดหนึ่งมากเกินไปเพียงเพราะคิดว่ามีประโยชน์ต่อสุขภาพ