วิกฤตแล้ว หนุ่มวัย 30 ปวดท้องรุนแรง เจาะเลือดออกมาเป็น "สีขาว" ต้นเหตุคือเมนูโปรด ที่ใครๆ ก็ชอบกิน
เสี่ยวตง (นามสมมติ) ชายวัย 30 ปี จากมณฑลฝูเจี้ยน ประเทศจีน เกิดอาการปวดท้องรุนแรงหลังจากกินแฮมเบอร์เกอร์ติดต่อกันเป็นเวลา 7 วัน อาการแย่ลงจนต้องเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาล แพทย์วินิจฉัยว่าเขาเป็น "ตับอ่อนอักเสบจากไขมันในเลือดสูง" โดยระบุว่า เลือดที่ถูกเจาะออกมาจากผู้ป่วยมีสีขาวขุ่นเหมือนนมทั้งหลอด
ตามรายงาน เสี่ยวตงเล่าว่าเขาชื่นชอบการลิ้มลองอาหารอร่อย และมักนัดเพื่อนออกไปกินอาหารเป็นประจำ โดยชอบอาหารที่มีรสชาติเข้มข้น เช่น หม้อไฟและบาร์บีคิว "บางครั้งเมื่อทำงานล่วงเวลาในตอนกลางคืน ผมก็มักจะสั่งไก่ทอดหรือแฮมเบอร์เกอร์มาเป็นอาหารมื้อดึก"
แพทย์ฉุกเฉิน หวงเหยียนจิง กล่าวว่าครั้งนี้อาการของเสี่ยวตงอยู่ในขั้นวิกฤต จึงถูกส่งตัวเข้าหอผู้ป่วยวิกฤตทันที ผู้ป่วยเตียงข้าง ๆ ของเขาก็เกิดภาวะ "ตับอ่อนอักเสบจากไขมันในเลือดสูง" เช่นกัน หลังจากกินข้าวหน้าขาหมูติดต่อกันเป็นเวลา 1 สัปดาห์
ดร.หวงอธิบายว่า "ตับอ่อนอักเสบจากไขมันในเลือดสูง" เป็นรูปแบบหนึ่งของตับอ่อนอักเสบเฉียบพลัน เมื่อระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือดสูงเกินไปจนเอนไซม์ไลเปสย่อยไขมัน ทำให้เกิดกรดไขมันอิสระที่ทำลายตับอ่อนและเกิดการอักเสบ "สาเหตุหลักมาจากอาหารการกิน เช่นเดียวกับเสี่ยวตงที่มักกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพและขาดการออกกำลังกาย การกินอาหารที่มีไขมันสูงในปริมาณมากต่อเนื่องเป็นเวลานานจะทำให้ไขมันในเลือดเพิ่มสูงจนกระตุ้นโรคนี้"
ดร.หวงยังเตือนว่า "นอกจากนี้ การดื่มแอลกอฮอล์ โรคอ้วน เบาหวานที่ควบคุมไม่ดี และผลข้างเคียงของยาบางชนิดก็อาจเป็นสาเหตุของโรคตับอ่อนอักเสบจากไขมันในเลือดสูงได้เช่นกัน ดังนั้นอย่าทนกับอาการปวดท้องเฉียบพลัน เพราะหากอาการรุนแรงอาจเป็นอันตรายถึงชีวิตได้"