หมอเผย 5 ปัจจัยหลัก สาเหตุหลักของปรากฏการณ์ "การเป็นมะเร็งในผู้ป่วยอายุน้อย" จากคนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ทั่วโลก
ตามสถิติความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งในกลุ่มคนหนุ่มสาวกำลังเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งไม่เพียงเกิดขึ้นในเวียดนาม แต่ยังเกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก ข้อมูลจากโรงพยาบาล K และโรงพยาบาล Bạch Mai ในกรุงฮานอยเผยให้เห็นปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ มะเร็งไม่ใช่โรคที่พบในผู้สูงอายุเท่านั้น แต่กำลังเกิดขึ้นในกลุ่มคนที่อายุต่ำกว่า 30 ปี หรือแม้กระทั่ง 20 ปี ปรากฏการณ์นี้ไม่ได้เกิดขึ้นเฉพาะในเวียดนาม แต่ยังเกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก
ดร.ฟาม วาน บินห์ รองผู้อำนวยการโรงพยาบาล K กล่าวว่า ปัญหาผู้ป่วยมะเร็งที่เพิ่มขึ้นและอายุน้อยลง "ไม่เพียงแต่จะสร้างภาระในปัจจุบัน แต่ยังส่งผลกระทบในอนาคตด้วย ซึ่งต้องการให้แพทย์มีวิธีการวินิจฉัย รักษา และป้องกันได้ดีขึ้น"
แพทย์และผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ได้ชี้ให้เห็นถึงสาเหตุหลักของปรากฏการณ์ "การเป็นมะเร็งในผู้ป่วยอายุน้อย"
พฤติกรรมการรับประทานอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ
หนึ่งในปัจจัยหลักที่ทำให้จำนวนผู้ป่วยมะเร็งในกลุ่มคนหนุ่มสาวเพิ่มขึ้นคือพฤติกรรมการกินที่ไม่ดีต่อสุขภาพ ชีวิตในปัจจุบันทำให้หลายคน โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ มีแนวโน้มบริโภคอาหารแปรรูป อาหารจานด่วน และเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลสูง
อาหารเหล่านี้เต็มไปด้วยไขมันทรานส์ สารกันบูด และสีสังเคราะห์ แต่กลับขาดวิตามินและแร่ธาตุที่ร่างกายต้องการ ซึ่งอาจทำให้เกิดการขาดสารอาหาร การรับประทานอาหารในลักษณะนี้เป็นเวลานานจะเพิ่มความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งลำไส้ใหญ่ มะเร็งกระเพาะ มะเร็งตับ และมะเร็งหลอดอาหาร
ผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมและมลพิษ
สิ่งแวดล้อมที่อยู่อาศัยและทำงานกำลังแย่ลงโดยเฉพาะในเมืองใหญ่ ที่คุณภาพอากาศลดลงและน้ำเสีย มลพิษต่างๆ เช่น ควันพิษ สารเคมีอันตราย ยาฆ่าแมลง และสารกัมมันตภาพรังสีสามารถส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพ โดยเฉพาะในกลุ่มคนหนุ่มสาวที่ต้องอยู่และทำงานในสภาพแวดล้อมเช่นนี้
การวิจัยพบว่า การสัมผัสมลพิษในระยะยาว เช่น ควันพิษในอากาศ หรือสารเคมีในที่ทำงาน จะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง โดยเฉพาะมะเร็งปอด มะเร็งผิวหนัง และมะเร็งลำไส้ใหญ่ นอกจากนี้ การสัมผัสสารพิษในชีวิตประจำวันยังอาจทำลายดีเอ็นเอ ก่อให้เกิดการกลายพันธุ์ของเซลล์และทำให้เกิดมะเร็งได้
การมลพิษจากแสงและเสียงก็มีผลเสียต่อสุขภาพเช่นกัน และอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งได้ การอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่มีคุณภาพทำให้ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายอ่อนแอลง ซึ่งทำให้มะเร็งสามารถเติบโตได้ง่ายขึ้น
การใช้ชีวิตที่ขาดการออกกำลังกายและภาวะน้ำหนักเกิน-โรคอ้วน
การใช้ชีวิตที่ขาดการออกกำลังกาย ภาวะน้ำหนักเกิน และโรคอ้วน เป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ทำให้มะเร็งเพิ่มขึ้นในกลุ่มคนหนุ่มสาว การทำงานในออฟฟิศ, การใช้โทรศัพท์มือถือและคอมพิวเตอร์มากเกินไป ทำให้หลายคนไม่ค่อยมีโอกาสออกกำลังกาย
ซึ่งไม่เพียงทำให้สุขภาพหัวใจแย่ลง แต่ยังเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง เมื่อร่างกายขาดการเคลื่อนไหว ระบบภูมิคุ้มกันจะอ่อนแอลง และสารที่ก่อให้เกิดการอักเสบในร่างกายอาจเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง
น้ำหนักเกินและโรคอ้วนยังเป็นปัจจัยเสี่ยงที่สำคัญสำหรับมะเร็งหลายชนิด เช่น มะเร็งเต้านม, มะเร็งลำไส้ใหญ่, มะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก และมะเร็งตับอ่อน
การวิจัยหลายชิ้นได้พิสูจน์ถึงประโยชน์ของการออกกำลังกายในการป้องกันโรคมะเร็งบางประเภท โดยเฉพาะมะเร็งที่พบมากที่สุด 2 ชนิดคือมะเร็งลำไส้ใหญ่และมะเร็งเต้านม การออกกำลังกายยังมีผลต่อมะเร็งเยื่อบุโพรงมดลูก, ปอด, ทวารหนัก, ต่อมลูกหมาก, รังไข่, ต่อมไทรอยด์ และตับอ่อน โดยมีหลักฐานที่แตกต่างกันไป
ผลปกป้องที่ได้คือ ความเสี่ยงในการเกิดมะเร็งลำไส้ใหญ่ลดลง 17% เมื่อออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ และมะเร็งเต้านมลดลง 20% ทุกๆ 30 นาทีของการออกกำลังกายในแต่ละวัน ความเสี่ยงมะเร็งลำไส้ใหญ่ลดลงประมาณ 12%
สำหรับมะเร็งลำไส้ใหญ่ การออกกำลังกายช่วยลดเวลาที่เยื่อบุในระบบทางเดินอาหารสัมผัสกับสารก่อมะเร็งจากอาหาร
สำหรับมะเร็งเต้านม การออกกำลังกายช่วยลดระดับฮอร์โมนเอสโตรเจน, ส่งเสริมการหมุนเวียนของเลือดและปรับปรุงระบบภูมิคุ้มกัน
สำหรับมะเร็งปอด การออกกำลังกายช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการหายใจและลดความเข้มข้นของสารก่อมะเร็งในปอด
อันตรายจากการสูบบุหรี่-ดื่มสุรา
อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญคือการใช้ยาสูบ การดื่มสุรา และการใช้ยาเสพติด ซึ่งเป็นพฤติกรรมที่เสพติดและสามารถก่อให้เกิดโรคมะเร็งได้ บุหรี่มีสารเคมีอันตรายมากมายหลายพันชนิด ซึ่งหลายชนิดมีความสามารถในการก่อมะเร็ง เช่น มะเร็งปอด, มะเร็งคอ, มะเร็งช่องปาก และมะเร็งหลอดอาหาร หลายคนโดยเฉพาะคนหนุ่มสาวไม่รู้ถึงอันตรายของการสูบบุหรี่ และมักสูบบุหรี่อย่างต่อเนื่อง ซึ่งทำให้เสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งตั้งแต่อายุยังน้อย
เช่นเดียวกับการดื่มสุราเกินขนาดซึ่งเป็นสาเหตุของมะเร็งหลายชนิด โดยเฉพาะมะเร็งตับ, มะเร็งเต้านม และมะเร็งลำไส้ใหญ่ การวิจัยชี้ให้เห็นว่า การดื่มสุราในปริมาณมากสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างของดีเอ็นเอและทำลายเซลล์ ส่งผลให้เกิดสภาวะที่เอื้อต่อการเกิดมะเร็ง
ปัจจัยทางพันธุกรรมและสภาพแวดล้อมในครอบครัว
ปัจจัยทางพันธุกรรมก็มีบทบาทสำคัญในการกำหนดความเสี่ยงในการเป็นมะเร็งในคนหนุ่มสาว การวิจัยพบว่ามะเร็งหลายชนิดมีลักษณะทางพันธุกรรม โดยเฉพาะมะเร็งเต้านม, มะเร็งรังไข่, มะเร็งลำไส้ใหญ่ และมะเร็งตับอ่อน คนหนุ่มสาวที่มีญาติสนิทเป็นมะเร็งจะมีความเสี่ยงสูงขึ้น เนื่องจากการกลายพันธุ์ของยีนอาจถ่ายทอดผ่านหลายรุ่น
แต่ทว่าพันธุกรรมเพียงอย่างเดียวไม่ได้เป็นสาเหตุหลัก พฤติกรรมการใช้ชีวิตและสภาพแวดล้อมยังคงมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจในการพัฒนาของโรค การผสมผสานระหว่างปัจจัยทางพันธุกรรมและพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ไม่ดีจะเพิ่มความเสี่ยงในการเป็นมะเร็ง
การเพิ่มขึ้นของมะเร็งในคนหนุ่มสาวเป็นปัญหาที่น่ากังวลและเป็นการเตือนสังคม การรับรู้และการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมไม่ดี พร้อมกับการรักษาวิถีชีวิตที่ดี เช่น การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ การออกกำลังกายสม่ำเสมอ จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดโรค นอกจากนี้ การตรวจคัดกรองและการตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอยังสำคัญเพื่อการตรวจพบสัญญาณมะเร็งตั้งแต่เนิ่นๆ ซึ่งช่วยในการรักษาอย่างทันท่วงทีและเพิ่มโอกาสในการมีชีวิตรอดของผู้ป่วย