อาลัย "ครูมัท" ทิ้งจดหมายลาก่อนจบชีวิต เหนื่อยล้ากับระบบงานการเงินในโรงเรียน ทำงานต่อไปก็คงเส้นเลือดในสมองแตก ฝากปัญหาถึงกระทรวง
(16 มิ.ย. 68) ร.ต.อ.เรืองศักดิ์ แสงรัมย์ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ทะเมนชัย อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ รับแจ้งมีคนเสียชีวิตที่บ้านหลังหนึ่งในพื้นที่ หมู่ 3 ต.หนองบัวโคก อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ จึงไปตรวจสอบพร้อมสมาคมกู้ภัยอัมรินทร์ใต้ตอบโต้ภัยพิบัติบุรีรัมย์ อำเภอลำปลายมาศ และกู้ภัยสว่างจรรยาธรรมบุรีรัมย์ จุดหนองบัวโคก
ที่เกิดเหตุเป็นบ้าน 2 ชั้นครึ่งปูนครึ่งไม้ บริเวณห้องนอนชั้นล่างของบ้านพบร่างนางสาวอนุสรา หรือ ครูมัท อายุ 39 ปี ข้าราชการครูของโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งใช้เชือกทำร้ายตัวเองเสียชีวิต ตรวจสอบตามร่างกายไม่พบร่องรอยของการถูกทำร้าย ในห้องไม่มีร่องรอยของการรื้อค้น คาดเสียชีวิตมาแล้วประมาณ 3 ชม.
ข้างศพพบจดหมาย เขียนหน้าซองว่า "จดหมายส่วนตัวถึงครอบครัวของฉัน จากมัท" เจ้าหน้าที่จึงยึดไว้เป็นหลักฐาน โดยในซองจดหมายมีกระดาษ 5 แผ่น โดยหน้าที่ 1-4 ได้เขียนถึงพี่สาวซึ่งเป็นข้าราชการครู ลูกสาววัย 10 ขวบ และพ่อแม่
ส่วนหน้าที่ 5 ครูมัทเขียนข้อความบรรยายเกี่ยวกับการทำงาน ใจความว่าที่จากโลกนี้ไปด้วยมีปัญหาในการทำงาน การเงิน การบัญชี ซึ่งพอกพูนจนแก้ไขได้ยาก แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ใช่เกิดจากตัวเองคนเดียว แต่เป็นเพราะกระบวนการทำงานที่ไม่มีประสิทธิภาพภายในโรงเรียน การทำงานไม่เป็นระบบ ให้เบิกเงินก่อนเคลียร์เอกสารทีหลัง และก็นิ่งเฉยไม่มีใครมาเคลียร์ให้ เครียดจนหัวจะระเบิดแทบทุกวัน ทำให้เหนื่อยกับการทำงานมากๆ สุขภาพไม่ดีสะสมมาเรื่อยๆ จึงตัดสินใจจากไป
อีกทั้งยังระบุว่ามีเพื่อนร่วมงานที่คอยสั่งการ จัดการ แต่พอถึงเวลามีความผิด กลับบอกว่าตัวเองไม่เกี่ยว ส่วน ผอ.ที่ย้ายมาแต่ละคนก็ไม่เคร่งครัดเรื่องการเงิน ไม่มีความรู้ด้านการเงิน ใช้เงินไม่ถูกต้อง แต่พอมีความผิดอ้างว่าเราเป็นคนทำ
และว่าหากทำงานต่อไปคงพิการ หรือเส้นเลือดในสมองแตก พร้อมขออโหสิกรรมให้กับทุกคน ส่วนที่ผิดขอน้อมรับ แต่ส่วนที่ไม่ใช่ก็ขออย่าใส่ร้ายกันเลย และยังฝากถึงกระทรวงให้ช่วยเห็นใจครูการเงินและพัสดุ อย่าให้ต้องทำงานหนักและเสี่ยงชีวิตแบบนี้เลย ลงชื่อ ครูมัท
นายสุพจน์ อายุ 68 ปี พ่อครูมัท เล่าว่า ตนเองมีลูกสาว 2 คน ทั้งสองคนสอบบรรจุข้าราชการครู โดยครูมัทเป็นลูกสาวคนเล็กสอบติดครูและลงบรรจุที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.ชำนิ จ.บุรีรัมย์ ในตำแหน่งครูสอนวิชาภาษาอังกฤษ และเป็นครูการเงินของโรงเรียน ส่วนสาเหตุที่จบชีวิต ตนไม่ทราบ เพราะลูกสาวเป็นคนไม่ค่อยพูด
ขณะที่ นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ในฐานะโฆษกศธ. เปิดเผยว่า ตนได้รับรายงานเรื่องดังกล่าวจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) แล้ว ซึ่งทราบว่าสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา (สพท.) จะตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงถึงเรื่องที่เกิดขึ้นถึงระบบบริหารจัดการการทำงานภายในโรงเรียนว่ามีที่มาที่ไปอย่างไร ซึ่ง พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการศธ.มีความห่วงใยและขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น