เตือน! ผลไม้และอาหารสุขภาพบางชนิด อาจทำลายเคลือบฟันและเพิ่มความเสี่ยงฟันผุ ทันตแพทย์แนะวิธีป้องกันเพื่อฟันแข็งแรงระยะยาว
หลายคนอาจคิดว่า “การกินผลไม้” คือทางเลือกเพื่อสุขภาพที่ดีที่สุด แต่รู้หรือไม่? ผลไม้บางชนิดและอาหารบางประเภทที่ดูเหมือนไม่มีพิษภัย กลับอาจเป็นตัวการลับที่ทำลายฟันและเคลือบฟันของเราอย่างคาดไม่ถึง!
ตามรายงานของระบบบริการสุขภาพแห่งชาติของสหราชอาณาจักร (NHS) ผู้เชี่ยวชาญด้านทันตกรรมในสหราชอาณาจักรออกมาเตือนว่า อาหารและผลไม้ที่มีกรดสูง น้ำตาลเข้มข้น หรือมีคุณสมบัติเปื้อนฟัน ล้วนส่งผลต่อสุขภาพช่องปากโดยตรง โดยเฉพาะกับผู้ที่มีรากฟันเทียม หรือผู้ที่ต้องการดูแลฟันให้ขาวสะอาดในระยะยาว
7 อาหารเพื่อสุขภาพที่ควรระวัง "ทำร้ายฟัน"
1. ผลไม้รสเปรี้ยว : ผลไม้ตระกูลส้มมีวิตามินซีสูง แต่แฝงด้วยกรดซิตริกที่สามารถกัดกร่อนเคลือบฟัน ทำให้ฟันไวต่อความร้อน-เย็น และอาจทำลายพื้นผิวของรากฟันเทียมได้ ดังนั้นควรระวังเอาไว้ด้วย ไม่ว่าจะเป็น
- ส้มโอ
- ส้มแมนดาริน
- มะนาว
- ส้มซัทสึมะ
- ส้มแมนดาริน
- ส้มเขียวหวาน
- ส้ม
2. ผลไม้แห้ง (ลูกเกด, มะเดื่อ, แอปริคอตแห้ง) : แม้ดูเหมือนเป็นของว่างสุขภาพ แต่ผลไม้แห้งมีน้ำตาลสูงและเหนียว ซึ่งมักติดตามซอกฟัน ทำให้แบคทีเรียเจริญเติบโตและก่อให้เกิดฟันผุได้ง่าย
3. เครื่องดื่มเกลือแร่ และเครื่องดื่มเพิ่มพลังงาน : อุดมไปด้วยน้ำตาลและกรดที่สามารถทำให้เคลือบฟันสึกกร่อน ส่งผลให้ฟันอ่อนแอและผุได้ง่ายขึ้น โดยเฉพาะหากดื่มเป็นประจำ
4. กาแฟและชา : เครื่องดื่มเหล่านี้มีแทนนิน ซึ่งสามารถทำให้เกิดคราบบนผิวฟัน ทำให้ฟันเหลืองง่าย และอาจเปื้อนพื้นผิวของรากฟันเทียมหรือวัสดุทางทันตกรรมอื่น ๆ
5. มะเขือเทศ (รวมถึงซอส) : แม้มะเขือเทศมีไลโคปีนและวิตามินมากมาย แต่ก็มีกรดที่กัดกร่อนเคลือบฟันโดยเฉพาะเมื่อทานแบบสดหรือเป็นซอสเข้มข้น
6. แตงกวาดอง น้ำส้มสายชู และน้ำสลัด : อาหารหมักดองหรือปรุงด้วยน้ำส้มสายชูมีค่าความเป็นกรดสูง หากรับประทานบ่อยโดยไม่ล้างปากหรือดูแลฟัน อาจทำให้ฟันกร่อนและเสี่ยงต่อการผุ
7. เบอร์รี่สีเข้ม (บลูเบอร์รี่, แบล็กเบอร์รี่, ราสเบอร์รี่) : แม้จะเป็นผลไม้ต้านอนุมูลอิสระชั้นดี แต่เม็ดสีของเบอร์รี่สามารถย้อมสีฟัน ทำให้ฟันหมองหรือมีคราบติดแน่น โดยเฉพาะผู้ที่ฟันไวต่อสี
คำแนะนำจากทันตแพทย์ ป้องกันฟันเสียจากอาหารสุขภาพ
ทันตแพทย์แนะนำวิธีป้องกันฟันเสียจากอาหารสุขภาพ โดยควรดื่มน้ำเปล่าทันทีหลังรับประทานอาหารที่มีกรดหรือสีเข้ม เพื่อช่วยล้างกรดและเศษอาหารออกจากช่องปาก หลีกเลี่ยงการแปรงฟันทันทีหลังมื้ออาหารที่มีกรดสูง โดยควรรออย่างน้อย 30 นาที และควรใช้หลอดเมื่อดื่มเครื่องดื่มที่มีกรด เช่น กาแฟหรือชา เพื่อลดการสัมผัสกับผิวฟัน นอกจากนี้ควรตรวจสุขภาพช่องปากกับทันตแพทย์เป็นประจำทุก 6 เดือน เพื่อป้องกันและดูแลสุขภาพฟันอย่างต่อเนื่องและทันท่วงที
อาหารสุขภาพบางอย่างอาจไม่ดีต่อสุขภาพฟัน หากรับประทานโดยไม่ดูแลให้เหมาะสม การรู้เท่าทันอาหารที่มีผลต่อฟัน และดูแลสุขภาพช่องปากอย่างถูกวิธี จะช่วยให้คุณมีฟันที่แข็งแรง ขาวสะอาด และห่างไกลจากปัญหาฟันผุในระยะยาว
- หมอเตือน! ตื่นนอนแล้ว "ปากขม-มีกลิ่น" เป็นสัญญาณ 5 โรค แนะวิธีแก้ง่ายๆ รีบทำตาม
- สังเกตง่ายๆ แปรงฟันเห็นสิ่งนี้ หมอเตือน "มะเร็ง" มาเคาะประตู รู้ตัวไวอาจไม่เป็นหายนะ