เตือน 4 อาหาร ที่ทำให้ตับ "แห้งและแข็ง" ยิ่งกินมาก ยิ่งเสื่อมสภาพ กระด้างเหมือนรากไผ่ แต่หลายคนยังโปรดปราน
"ตับ" เปรียบเสมือนโรงงานบำบัดเคมีของร่างกาย ที่คอยกำจัดสารพิษและรักษาชีวิต แต่มีอาหารบางชนิดที่เหมือน “ระเบิดพิษ” ส่งตรงเข้าไปในโรงงานนี้ ทำให้เซลล์ตับค่อยๆ เสื่อมและแข็งตัวขึ้น!
ดังนั้น อย่ารอจนผลตรวจสุขภาพเต็มไปด้วย “ตัวเลขสีแดง” จึงค่อยมานั่งกังวล เพียงเริ่มต้นจากการหลีกเลี่ยงอาหาร 4 กลุ่มนี้ที่เรากินกันทุกวัน เพราะอาจเป็นตัวเร่งให้เกิดภาวะตับแข็งได้เร็วขึ้น
-
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์
เมื่อดื่มเหล้าเบียร์ ตับต้องแปรสภาพเป็นสารพิษชนิดหนึ่งชื่ออะซีตัลดีไฮด์ ซึ่งทำลายเซลล์ตับโดยตรง การดื่มเป็นเวลานานทำให้ไขมันสะสมในตับ เกิดเป็นโรคตับไขมัน ตามมาด้วยตับอักเสบ ตับแข็ง และตับไม่มีเส้นประสาทรับความเจ็บปวด ทำให้เมื่อเริ่มมีอาการ เช่น ตัวเหลือง ท้องบวม ก็สายเกินแก้สำหรับการรักษา ผู้ชายที่ดื่มแอลกอฮอล์เกิน 40 กรัมต่อวัน และผู้หญิงเกิน 20 กรัมต่อวัน มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดตับเสียหาย -
อาหารที่ขึ้นรา
ถั่วลิสงหรือข้าวโพดที่ขึ้นรา จะสร้างสารพิษ “อะฟลาท็อกซิน” ซึ่งมีความเป็นพิษสูงกว่าแร่ธาตุหนูถึง 68 เท่า แม้ต้มที่ 100 องศาเซลเซียส 20 ชั่วโมงก็ยังไม่ทำลายสารพิษนี้ได้หมด และแม้เพียง 1 มิลลิกรัมก็เพียงพอทำให้เกิดมะเร็งตับ ดังนั้น หลีกเลี่ยงการกินอาหารที่มีรา หรือแม้แต่ไม้ตัดเขียงที่เก่าเก็บ เห็ดหูหนูแช่นาน หรือเมล็ดที่มีรสขม เพราะอาจมีสารพิษสะสม -
ของหวานและอาหารที่มีไขมันสูง
น้ำตาลฟรุกโตสในชาไข่มุก เค้ก จะถูกแปรสภาพในตับ หากกินมากเกินไปจะทำให้ไขมันสะสมในตับ ผู้ป่วยโรคตับไขมันร้อยละ 15 ที่ไม่ได้เกิดจากแอลกอฮอล์ มีแนวโน้มพัฒนาเป็นตับแข็ง นอกจากนี้ อาหารทอดและไอศกรีมที่มีไขมันทรานส์จะทำให้ตับทำงานหนักและเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี การกินของทอดเกิน 3 ครั้งต่อสัปดาห์ เพิ่มความเสี่ยงการทำงานผิดปกติของตับถึง 78% -
อาหารหมักดองและอาหารแปรรูป
ไส้กรอกและแหนมมีสารไนไตรท์ เมื่อเจอกับกรดในกระเพาะอาหารจะกลายเป็นไนโตรซามีน ซึ่งเป็นสารก่อมะเร็งรุนแรง และกระตุ้นการอักเสบของตับ ทำให้ตับเสื่อมเร็วขึ้น การกินเค็มจัดยังเพิ่มความดันในเส้นเลือดตับ ทำให้ตับต้องทำงานหนักขึ้นอีก เพียงแค่กินเนื้อสัตว์แปรรูป 50 กรัมต่อวัน ความเสี่ยงตับแข็งเพิ่มขึ้น 40%
เตือน 3 ความเข้าใจผิดที่อันตราย เกี่ยวกับการดูแลตับ
-
ดื่มไวน์แดงดีต่อสุขภาพ? ไม่จริง! สารเรสเวอราทรอลในไวน์แดงมีปริมาณน้อย ไม่สามารถชดเชยโทษของแอลกอฮอล์ได้
-
กินอาหารเสริมบำรุงตับ? ยังไม่มีงานวิจัยทางคลินิกที่ยืนยัน ว่าอาหารเสริมเหล่านี้ช่วยฟื้นฟูตับได้ และการกินวิตามินเอหรือเหล็กเกินไปอาจทำให้ตับเสียหายเพิ่ม
-
กินตับสัตว์ช่วยบำรุงตับคน? เป็นความเชื่อที่ผิด! ตับสัตว์มีคอเลสเตอรอลสูง โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคตับอักเสบ ควรจำกัดไม่เกิน 100 กรัมต่อสัปดาห์
ท้ายที่สุด โปรดจำไว้เสมอว่าวิธีดูแลตับที่ดีที่สุด คือควบคุมสิ่งที่กินเข้าไป! ทั้งนี้ ถ้าคุณมักรู้สึกเหนื่อยง่าย เบื่ออาหาร มีจุดแดงคล้ายใยแมงมุมบนผิวหนัง ฝ่ามือแดง นั่นอาจเป็นสัญญาณเตือนของตับ และควรรีบไปตรวจสุขภาพให้ทันท่วงที โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่อายุมากกว่า 40 ปี ควรตรวจอัลตราซาวนด์ตับและตรวจการทำงานของตับอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง