Samsung เปิดตัว Galaxy Z Fold7 อย่างเป็นทางการในงาน Galaxy Unpacked เป็นที่เรียบร้อยแล้ว กลับมาคราวนี้ Samsung จัดเต็มทำตามเสียงเรียกร้องของแฟน ๆ ด้วยการ อัปเกรดสเปคสำคัญในหลายจุดโดยเฉพาะ ดีไซน์ใหม่ที่บางเฉียบยิ่งกว่าเดิมแบบเห็นได้ชัด ใครที่รอมือถือจอพับรุ่นใหม่อยู่ มาดูกันเลยว่า Galaxy Z Fold7 มีอะไรใหม่บ้าง เพราะ DroidSans สรุปมาให้ครบแล้ว!

เปรียบเทียบสเปค Galaxy Z Fold6 และ Galaxy Z Fold7
Galaxy Z Fold7 | Galaxy Z Fold6 | |
จอนอก | Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.5 นิ้ว ความละเอียด 2520 x 1080 พิกเซล ความสว่าง 2600 นิต อัตรารีเฟรช 1 ~ 120 Hz | Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.3 นิ้ว ความละเอียด 2376 x 968 พิกเซล ความสว่าง 2600 นิต อัตรารีเฟรช 1 ~ 120 Hz |
จอใน | Dynamic AMOLED 2X ขนาด 8 นิ้ว ความละเอียด 2184 x 1968 พิกเซล สว่าง 2600 นิต อัตรารีเฟรช 1 ~ 120 Hz | Dynamic AMOLED 2X ขนาด 6.7 นิ้ว ความละเอียด 2160 × 1856 พิกเซล สว่าง 2600 นิต อัตรารีเฟรช 1 ~ 120 Hz |
ชิป | Snapdragon 8 Elite for Galaxy | Snapdragon 8 Gen 3 for Galaxy |
หน่วยความจำ | 12GB / 16GB | 12GB |
สตอเรจ | 256GB 512GB 1TB | 256GB 512GB 1TB |
กล้องหลัง | 200+12+10MP | 50+12+10MP |
กล้องหน้า | 10MP (จอด้านนอก) 10MP (จอด้านในแบบเจาะรู) | 10MP (จอด้านนอก) 4MP (จอด้านในแบบซ่อนใต้จอ) |
เครือข่าย | 5G | 5G |
การเชื่อมต่อ | Wi-Fi 7 Bluetooth 5.4 NFC USB-C 3.2 Gen 1 | Wi-Fi 6e Bluetooth 5.3 NFC USB-C 3.2 Gen 1 |
แบตเตอรี่ | 4400mAh ชาร์จไว 25W ชาร์จไร้สาย 15W | 4400mAh ชาร์จไว 25W ชาร์จไร้สาย 15W |
ความทนทาน | IP48 | IP48 |
ขนาด (เมื่อพับ) | 158.4 x 72.8 x 8.9 มม. | 153.5 x 68.1 x 12.1 มม. |
ขนาด (เมื่อกาง) | 158.4 x 143.2 x 4.2 มม. | 153.5 x 132.6 x 5.6 มม. |
น้ำหนัก | 215 กรัม | 239 กรัม |
ราคา | 67,900.- (12+256GB) 72,900.- (12+512GB) 85,900.- (16+1TB) | 63,900.- (12+256GB) 68,900.- (12+512GB) 78,900.- (12+1TB) |
บางกว่าเดิม เบากว่าเดิม อัตราส่วนหน้าจอแบบใหม่
สิ่งแรกที่ต้องพูดถึงสำหรับ Galaxy Z Fold7 คือเรื่องของ ดีไซน์ใหม่ที่บางเฉียบเป็นพิเศษ ซึ่งเป็นจุดขายหลักในปีนี้ที่ Samsung ภูมิใจนำเสนอเป็นพิเศษ โดยตัวเครื่องมีความบางเพียง 4.2 มม. (เมื่อกางหน้าจอ) และ 8.9 มม. (เมื่อพับหน้าจอ) ซึ่งเป็นผลมาจากการใช้ บานพับรุ่นใหม่ Armor FlexHinge ที่ออกแบบให้มีความแข็งแรงและบางลงกว่ารุ่นก่อน ส่งผลให้ตัวเครื่องดูพรีเมียมมากขึ้น พร้อมน้ำหนักที่เบาลงเหลือเพียง 215 กรัม ถือใช้งานมือเดียวก็สบาย

นอกจากเรื่องดีไซน์และน้ำหนักแล้ว Samsung ยังได้ทำการปรับเปลี่ยนอัตราส่วนหน้าจอของ Galaxy Z Fold7 ใหม่ ให้ใกล้เคียงกับสมาร์ทโฟนแบบ Bar Type มากขึ้น โดยเฉพาะ หน้าจอด้านนอกที่กว้างกว่าเดิม ช่วยให้การแสดงผล UI เป็นธรรมชาติ ไม่รู้สึกอึดอัด หรือเจอปัญหาหน้าจอแคบเกินไปเหมือนรุ่นก่อน ๆ อีกต่อไป
- จอด้านนอก (Cover Screen) ขนาด 8 นิ้ว Dynamic AMOLED 2X รองรับรีเฟรชเรต 120Hz ความสว่างหน้าจอ 2,600 นิต อัตราส่วนหน้าจอแบบ 21:9
- จอด้านใน (Main Display) ขนาด 6.5 นิ้ว Dynamic AMOLED 2X อัตรารีเฟรชเรต 120Hz และความสว่างหน้าจอสูงสุด 2,600 นิต


ชิปเซ็ตแรงยิ่งขึ้น ประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้น
Galaxy Z Fold7 อัปเกรดมาใช้เป็นชิปเซ็ตรุ่นใหม่ล่าสุดอย่าง Snapdragon 8 Elite จากเดิมในรุ่นก่อนหน้าที่ใช้เป็น Snapdragon 8 Gen 3 for Galaxy โดยหน่วยประมวลผลตัวใหม่นี้ได้รับการตีบวกพลัง CPU, GPU และ NPU ให้ทรงพลังขึ้นกว่าเดิม ช่วยให้ การเล่นเกมและการใช้งานประมวผลด้าน AI เร็วยิ่งขึ้น

พร้อมกันนั้นถึงแม้ตัวเครื่องจะมีหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น และตัวเครื่องที่บางลงแต่ก็ไม่ได้โดนลดทอนความจุแบตเตอรี่ไปแต่อย่างใด โดยยังคงความจุ 4,400mAh ไว้ เสริมด้วยเทคโนโลยี mobile Digital Natural Image engine (mDNIe) ที่ช่วยให้สามารถแสดงภาพความคมชัดสูงได้โดยไม่กินแบตเตอรี่ ใช้งานได้ยาวนานกว่า Galaxy Z Fold5 ถึง 3 ชั่วโมง
นอกจากนั้นแล้วยังเป็นครั้งแรกที่รุ่นความจุ 1TB มาพร้อมกับหน่วยความจำขนาดใหญ่ 16GB ช่วยให้การใช้งานนั้นลื่นไหลยิ่งกว่าที่เคย สลับแอปพลิเคชันหรือทำงานแบบ Multi-window ได้แบบไร้กังวล
กล้องหลักความละเอียด 200MP คมชัดระดับ Ultra

ความบางระดับ Ultra ก็ต้องมาพร้อมกับประสบการณ์ถ่ายรูประดับ Ultra เช่นกัน ในปีนี้ทาง Samsung ได้เลือกใช้เซนเซอร์กล้องความละเอียด 200MP แบบเดียวกับใน Galaxy S Series มาใส่ไว้บน Galaxy Z Fold7 เมื่อมารวมพลังกับหน่วยประมวลผลภาพ ProVisual Engine ก็ทำให้สามารถถ่ายภาพความคมชัดสูงกว่าเดิม 4 เท่า และได้ภาพที่สว่างขึ้นมากถึง 44%

และด้วย ProVisual Engine รุ่นใหม่นี้เอง ยังช่วยให้โทนภาพของ Galaxy Z Fold7 มีความสดใสหรือคอนทราสต์ที่มากขึ้น และเต็มไปด้วยรายละเอียดที่ดีกว่าเดิมในการถ่ายทุกระยะ และการถ่ายในที่แสงน้อย ถึงแม้ตัวของเซนเซอร์อื่นๆ นอกจากเซนเซอร์หลักจะไม่ได้อัปเกรดความละเอียดขึ้นมาก็ตาม
One UI 8 เสิร์ฟพร้อมใช้ตั้งแต่แกะกล่อง
หลังจาก Samsung เริ่มปล่อยอัปเดต One UI 7 มาตั้งแต่ช่วงต้นปีที่ผ่านมา และแอบเจอปัญหาในเรื่องของความล่าช้าสำหรับการส่งมอบอัปเดตให้กับสมาร์?โฟนแต่ละรุ่นในช่วงต้น ปีนี้ขอแก้เกมด้วยการเปิดตัว One UI 8 บนพื้นฐานของ Android 16 ภายในงาน Galaxy Unpacked โดยเป็นการปรับเปลี่ยนและเพิ่มเติมฟีเจอร์ใหม่ๆ ที่ถูกปรับแต่งมาให้เหมาะกับการใช้งานบนมือถือจอพับ

เช่น AI Results View ที่จะแสดงผลลัพธ์หรือคำตอบจาก AI ใน Split View หรือหน้าต่างแยกต่างหากโดยไม่ไปทับเนื้อหา หรือคอนเทนต์ที่เรากำลังดูอยู่ ไปจนถึงฟีเจอร์ Pet Portrait ที่เปลี่ยนรูปน้องหมา น้องแมวหรือสัตว์เลี้ยงของเราให้กลายเป็นภาพสไตล์ต่างๆ ได้อย่างรวดเร็ว
Galaxy Z Fold7 เปลี่ยนไปจาก Galaxy Z Fold6 ยังไงบ้าง?
ในภาพรวมของ Galaxy Z Fold7 เปรียบเสมือนของขวัญแด่แฟนๆ ที่ชื่นชอบมือถือจอพับของ Samsung ด้วยการเปลี่ยนแปลงทั้งในแง่ของ ความบางขั้นสุด 4.2 มม. อัตราส่วนหน้าจอแบบใหม่ที่จับถือกระชับมือมากขึ้น และเซนเซอร์กล้องหลักความละเอียด 200MP คมชัดระดับ Ultra พร้อมระบบปฎิบัติการรุ่นใหม่ล่าสุด One UI 8 จะเรียกได้ว่าเป็นการอุดช่องโหว่ และเติมเต็มสิ่งที่กลุ่มผู้ใช้ต้องการหรือร้องขอในช่วงที่ผ่านมา

ดังนั้นใครที่กำลังสนใจจะกลับเข้าสู่วงการจอพับ Galaxy Z Fold7 ถือเป็นช่วงเวลาที่ดีหรือรุ่นที่เหมาะมากๆ ครับ ที่จะลองหันมามองแล้วเปลี่ยนมาใช้ในรุ่นนี้ แต่ถ้าคนที่ยังถือ Galaxy Z Fold6 อยู่ แล้วรู้สึกว่าความบาง กับสเปคฮาร์ดแวร์ที่อัปเกรดมาในคราวนี้ยังไม่ได้จำเป็นหรือน่าสนใจมากขนาดนั้น แล้วจะอดใจรอ Galaxy Z Fold8 อีกทีหนึ่งเพื่อรอดูการเปลี่ยนแปลงแล้วไปสอยอีกทีในปีต่อไปก็ได้ครับ
ในภาพรวมของ Galaxy Z Fold7 เปรียบเสมือนของขวัญสำหรับแฟน ๆ มือถือจอพับ ที่รอการเปลี่ยนแปลงแบบ จัดเต็ม โดยเฉพาะในปีนี้ที่ Samsung จัดให้แบบไม่มีกั๊ก ทั้งดีไซน์ใหม่ที่ บางเฉียบเพียง 4.2 มม. เมื่อกางหน้าจอ หน้าจอด้านนอกที่ปรับอัตราส่วนให้ กว้างและจับถนัดมือมากขึ้น พร้อมกล้องหลักระดับ Ultra ความละเอียด สูงถึง 200MP ทำงานร่วมกับ ProVisual Engine ให้ได้ภาพความคมชัดสูง คอนทราสต์สดใส

ทั้งหมดนี้ทำงานร่วมกับระบบปฏิบัติการรุ่นล่าสุด One UI 8 ที่มาพร้อมความสามารถด้าน AI แบบครบเครื่อง นับเป็นการอุดช่องโหว่ ที่ผู้ใช้งานเรียกร้องกันมานาน และเติมเต็มประสบการณ์มือถือจอพับให้สมบูรณ์ยิ่งกว่าเดิม สำหรับใครที่สนใจ Galaxy Z Fold มานาน นี่คือจังหวะที่เหมาะสุดๆ กับการลองเปลี่ยนมาใช้ Galaxy Z Fold7 ที่ครบทั้งดีไซน์ ฟีเจอร์ และความสามารถรอบด้าน
แต่ถ้าผู้อ่านยังถือ Galaxy Z Fold6 อยู่ แล้วมองว่า “ความบาง” หรือสเปคฮาร์ดแวร์ในรุ่นนี้ยังไม่ใช่จุดเปลี่ยนที่จำเป็นนัก อดใจรออีกนิดเพื่อดูการเปลี่ยนแปลงใน Galaxy Z Fold8 ปีหน้า ก็ถือว่าเป็นอีกทางเลือกที่ไม่แย่ครับ