เปิดชีวิต "เจ้าพ่อหนังเกรดสาม" จากทายาทตระกูลหมอสู่ตำนานอีโรติกฮ่องกง เคยป่วยจิตเวช เมียช่วยจากความตาย 2 ครั้ง
หากพูดถึง “เอลวิส ฉี” หรือ “สวีจิ่นเจียง” (Xu Jinjiang) แฟนหนังฮ่องกงยุค 90s คงจำได้ดีในภาพลักษณ์ชายร่างสูง 186 ซม. หน้าคม ดุดัน และมักปรากฏตัวในบทบาทสุดเร่าร้อนจากหนังเกรดสาม โดยเฉพาะซีรีส์ดัง Sex and Zen อาบรักกระบี่คม ที่ทำให้เขากลายเป็นสัญลักษณ์ของหนังอีโรติกฮ่องกง แม้ไม่ใช่พระเอกแต่มีบทบาทโดดเด่นมาก
แต่เบื้องหลังความสำเร็จที่ดูฉูดฉาดนั้น เอลวิสมีอีกด้านหนึ่งที่เต็มไปด้วยเรื่องราวขมขื่น สวีจิ่นเจียงเผยว่า เนื่องจากสมาชิกส่วนใหญ่ในครอบครัวเป็นแพทย์ เมื่อเขาเลือกเข้าสู่วงการบันเทิงและรับแสดงภาพยนตร์เกรดสาม แม่เคยตั้งคำถามว่า "ทำไมต้องถอดเสื้อผ้า ทำไมต้องให้ทุกคนเห็นคุณถอดเสื้อผ้า" ความไม่เข้าใจจากครอบครัวนี้ทำให้เขาแบกรับความกดดันทางจิตใจอย่างหนัก จนนำไปสู่การป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและโรคไบโพลาร์
จากทายาทหมอสู่ศิลปิน
เอลวิส ฉี เกิดเมื่อ 13 ตุลาคม 1961 ในครอบครัวแพทย์ที่เฮยหลงเจียง จีน เติบโตท่ามกลางความคาดหวังว่าจะสืบทอดวิชาชีพหมอเหมือนรุ่นพ่อแม่ แต่หัวใจเขากลับมุ่งไปทางศิลปะ ในช่วงเวลาที่พ่อเขาเดินทางมาเรียนแพทย์เฉพาะทางที่ฮ่องกง จึงได้นำเขาไปฝากฝังกับ กวนชานเหย่ จิตรกรภาพโบราณชื่อดัง จนได้เรียนที่สถาบันศิลป์กวางโจว
หลังพ่อเสียชีวิตเขาวางแผนจะเดินทางไปสหรัฐฯ แต่ในปี 1981 เขาได้รับโอกาสจัดนิทรรศการผลงาน ทว่าไม่ประสบความสำเร็จ จนบังเอิญถูกชวนเข้าสู่วงการนายแบบ ช่างภาพ และในที่สุดก็สู่เส้นทางนักแสดง โดยเป็นเพื่อนร่วมรุ่นเดียวกับหลิวเต๋อหัวและเหลียงเจียฮุย
จุดพีกในวงการหนังอีโรติก
เอลวิส ฉี ได้แสดงภาพยนตร์เรื่องแรก คือเรื่อง Shaolin Prince ถล่มอรหันต์เสี้ยวลิ้มยี่ 1982 ซึ่งรับบทเป็นหลวงจีนวัดเส้าหลิน ภาพลักษณ์ที่ดูดุร้ายและหัวโล้นเอกลักษณ์ของเขา ทำให้เขาส่วนใหญ่ได้รับบทไม่ผู้ร้ายก็หลวงจีน
ในปี 1991 เมื่อภาพยนตร์ Sex and Zen ออกฉาย แรงกระเพื่อมของหนังเกรดสามเกิดขึ้นอย่างรุนแรง นอกจากความโด่งดังของนักแสดงสาว เยี่ยจื่อเหม่ย (Amy Yip) แล้ว บทบาทการแสดงของ เอลวิส ฉี ยังเป็นที่รู้จักมากขึ้น แม้หนังทั้ง 3 ภาคจะเปลี่ยนนักแสดงหญิง แต่เขายังคงเป็นนักแสดงหลักเหมือนเดิมทุกภาค เป็นเสมือนเครื่องหมายการค้าของหนังตระกูลนี้
ผลงานที่เป็นที่รู้จัก
-
Sex and Zen (1991) – รับบท หว่องจัด เป็นภาพยนตร์อีโรติกที่โด่งดังทั่วเอเชีย
-
Viva Erotica (1996) – ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง รางวัลนักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม Hong Kong Film Awards ครั้งที่ 16
-
The Grandmaster (2013) – อีกหนึ่งบทเด่นในหนังศิลปะระดับโลก
-
A Man Called Hero (1999), A Chinese Ghost Story (2011), The Grandmaster (2013), Imprisoned: Survival Guide for Rich and Prodigal (2015)
- The Deer and the Cauldron (2020)
Sex and Zen 2 (1996)
The Deer and the Cauldron (2020)
ชีวิตที่เกือบดับกลางทาง
ทว่าช่วงรุ่งเรือง กลับเป็นเวลาที่จิตใจเขาดิ่งที่สุด การทำงานหนักในวงการภาพยนตร์ทำให้ เอลวิส ฉี ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าและไบโพลาร์นานกว่า 10 ปี เคยพยายามฆ่าตัวตายถึงสองครั้ง แต่ภรรยา “อินจู๋ผิง” ช่วยชีวิตไว้ทั้งสองหน พร้อมดึงเขากลับสู่โลกศิลปะ เปิดสตูดิโอ และจัดนิทรรศการอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดได้ให้สัมภาษณ์รายการจีนแผ่นดินใหญ่ “瑞私拜” ซึ่งเจ้าตัวได้เปิดเผยความคิดส่วนตัวอย่างตรงไปตรงมา ว่าเคยจินตนาการถึงการฆ่าตัวตายในสถานที่ที่มีบ่อน้ำพุร้อน พร้อมกำชับลูกชาย “สวีเฟย” ให้โปรยอัฐิของตนลงในทะเลหลวง เพราะอยากจากไปอย่างสะอาดและเด็ดขาด เรื่องนี้ทำให้ชาวเน็ตจำนวนไม่น้อยมองว่าเขาเป็นคนมองโลกในแง่ร้าย ซึ่งแตกต่างจากภาพลักษณ์แข็งกร้าวและทรงพลังในจอภาพยนตร์อย่างสิ้นเชิง
เอลวิส ฉี และภรรยา
เมื่อถูกถามในรายการว่า “เคยกังวลเรื่องกาลเวลาหรือไม่” สวีจิ่นเจียงถึงกับอารมณ์เอ่อ เพราะรู้สึกว่ากาลเวลามักพรากคนที่รักไปจากเขา โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงการจากไปของเพื่อนสนิทอย่าง “สือหู่” จิตรกรชื่อดัง เขาถึงกับน้ำตาคลอและพูดติดขัด
แม้จะตระหนักว่าทุกคนต้องเผชิญความตาย แต่เขากลับเคยมีความคิดที่สุดโต่งตั้งแต่เด็กว่า เมื่อถึงวันที่ไม่มีคุณค่าแล้ว จะเลือกจบชีวิตในบ่อน้ำพุร้อน เพราะคิดว่าความร้อนจะช่วยรักษาอุณหภูมิร่างกาย ลดความเจ็บปวดจากการเสียเลือด และจากไปอย่างสงบ
เอลวิส ฉี และลูกชาย
ชีวิตปัจจุบันในวัย 63 ปี
ปัจจุบัน เอลวิส ฉี ทุ่มเงินกว่า 50 ล้านหยวนก่อตั้งศูนย์ศิลปะในปักกิ่ง ผลงานของเขาได้รับการจัดแสดงในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติจีน และพิพิธภัณฑ์ศิลปะ Le Grand Palais des Champs-Élysées ที่ปารีส