เปิดตัว CMF Buds 2a, CMF Buds 2 และ CMF Buds 2 Plus หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ สายคุ้ม มี ANC ตั้งแต่ตัวเริ่มต้น

CMF เปิดตัวหูฟังไร้สายแบบสเตอรีโอ (TWS) รุ่นใหม่ล่าสุดในอินเดียอย่างเป็นทางการ ประกอบไปด้วย CMF Buds 2a, CMF Buds 2 และ CMF Buds 2 Plus และยังเป็นการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ CMF Buds 2 Series อีกหลายรุ่นตามคาด และแต่ละรุ่นจะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มตลาดที่แตกต่างกัน และมีจุดเด่นที่แตกต่างกัน ตามรายละเอียดดังนี้

CMF Buds 2a

CMF Buds 2a เป็นหูฟังระดับเริ่มต้น มาพร้อมการออกแบบน้ำหนักเบา มีระบบตัดเสียงรบกวนแบบแอคทีฟ (ANC) ลดเสียงได้ 42dB ใช้ไดรเวอร์ไบโอไฟเบอร์ขนาดใหญ่ 12.4 มม. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพเสียงเบสที่ดีขึ้น มีไมโครโฟน HD 4 ตัว พร้อมเทคโนโลยี Clear Voice และ Wind Noise Reduction 2.0 เพื่อตัดเสียงแวดล้อมรบกวน ให้ความชัดเจนในการสนทนาที่ดีขึ้น

มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่อยู่ที่ 35.5 ชั่วโมง โดยไม่เปิดใช้ ANC และสูงสุด 23 ชั่วโมง เมื่อเปิดใช้งาน ANC นอกจากนี้ Buds 2a ได้รับมาตรฐานกันน้ำกันฝุ่นที่ IP54 และรองรับ Bluetooth 5.4 พร้อมการเชื่อมต่ออุปกรณ์คู่

• ไดร์เวอร์แบบ Custom Dynamic Driver ขนาด 12.4 มม.
• ปรับจูนโดย DIRAC
• มี Low Lag Mode สำหรับเล่นเกมบนมือถือ Nothing
• ระบบตัดเสียงรบกวน ANC 42dB
• รองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.4 พร้อมระบบ Fast Pair
• ฟังเพลงได้นานสูงสุด 35.5 ชม. (รวมแบตฯ ในเคส) และเล่นได้นานถึง 5.5 ชั่วโมงด้วยการชาร์จเพียง 10 นาที
• 4 ไมโครโฟน HD พร้อมเทคโนโลยีตัดเสียง Clear Voice Technology
• กันน้ำกันฝุ่น IP54
• รองรับการเชื่อมต่อสองอุปกรณ์
• รองรับการทำงานร่วมกับ ChatGPT

CMF Buds 2

CMF Buds 2 จัดว่าเป็นรุ่นระดับกลาง โดยมาพร้อมไดรเวอร์ไดนามิกขนาด 11 มม. ที่มีวัสดุไดอะแฟรม PMI และ PU รองรับการปรับจูน Dirac Opteo เอฟเฟกต์ Spatial Audio และเทคโนโลยี Ultra Bass รองรับระบบตัดเสียงรบกวนแบบไฮบริด ANC สูงสุด 48dB และมีไมโครโฟน HD 6 ตัว พร้อมเทคโนโลยี Clear Voice 3.0 และ Wind Noise Reduction 3.0

มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่สูงสุดที่ 55 ชั่วโมง โดยไม่เปิดใช้ระบบตัดเสียงรบกวน และ 32 ชั่วโมง เมื่อใช้ระบบตัดเสียงรบกวน นอกจากนี้ ยังรองรับระบบตัดเสียงรบกวนแบบ Adaptive ปรับได้ โหมดโปร่งใส และใช้การควบคุมแบบสัมผัส และยังมีการกันน้ำกันฝุ่นระดับ IP55

• ไดร์เวอร์ขนาด 11 มม. custom PMI driver
• ระบบเสียง Dirac Opteo for Hi-Fi sound
• รองรับ Spatial Audio Effect
• ตัดเสียงรบกวน 48 dB Hybrid ANC
• เทคโนโลยีเสียงเบส Ultra Bass Technology 2.0
• ฟังเพลงได้นานสูงสุด 55 ชม. (รวมแบตฯ ในเคส) และเล่นได้นานถึง 7.5 ชั่วโมงด้วยการชาร์จเพียง 10 นาที
• มี 6 ไมโครโฟน รองรับฟังค์ชั่น Clear Voice Technology 3.0 และ Wind Noise Reduction 3.0
• กันน้ำกันฝุ่น IP55
• เชื่อมต่อพร้อมกัน 2 อุปกรณ์ Dual Connection
• รองรับการทำงานร่วมกับ ChatGPT

CMF Buds 2 Pro

สุดท้ายเป็นรุ่นระดับบนของกลุ่ม คือ CMF Buds 2 Plus โดยมาพร้อมกับการรองรับตัวแปลงสัญญาณเสียง LDAC ความละเอียดสูง ใช้ไดรเวอร์ไดนามิกขนาด 12 มม. พร้อมไดอะเฟรม LCP และ PU มีโปรไฟล์เสียงส่วนบุคคล เทคโนโลยี Ultra Bass 2.0 เอฟเฟกต์เสียงเชิงพื้นที่ Spatial Audio รองรับ ANC แบบไฮบริดสูงสุด 50dB และการชดเชยการได้ยิน

Buds 2 Plus มีไมโครโฟน HD 6 ตัว พร้อมระบบ Clear Voice Technology 3.0 และ Wind Noise Reduction 3.0 มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่เยอะถึง 61.5 ชั่วโมง โดยไม่เปิด ANC และ 33 ชั่วโมง เมื่อเปิด ANC นอกจากนี้ ยังรองรับโหมดเกม Low Latency (ต่ำกว่า 105 มิลลิวินาที เมื่อเล่นกับมือถือ Nothing) พร้อมระบบการตรวจจับในหู และรองรับการชาร์จเร็ว

• ไดร์เวอร์แบบ LCP ขนาด 12 มม.
• มีระบบ Personal Sound เพื่อการฟังในสไตล์เฉพาะตัวของผู้ใช้
• รองรับ Spatial Audio Effect
• ระบบตัดเสียงรบกวน 50dB Hybrid ANC
• ระบบเสียง Hi-Res certified clarity LDAC พลังเสียงไร้สายคุณภาพระดับสตูดิโอ
• ฟังเพลงได้นานสูงสุด 61.5 ชม. (รวมแบตฯ ในเคส) และเล่นได้นานถึง 8.5 ชั่วโมง ด้วยการชาร์จเพียง 10 นาที
• 6 ไมโครโฟน HD พร้อมเทคโนโลยีตัดเสียง Clear Voice Technology 3.0 และตัดเสียงลม Wind Noise Reduction 3.0
• กันน้ำกันฝุ่น IP55
• รองรับการเชื่อมต่อสองอุปกรณ์
• รองรับการทำงานร่วมกับ ChatGPT

หูฟังทั้งสามรุ่นรองรับการเชื่อมต่อ Bluetooth 5.4 และระบบเชื่อมต่อแบบคู่ Google Fast Pair, Microsoft Swift Pair และการควบคุมแบบสัมผัส ผู้ใช้สามารถปรับแต่งการตั้งค่าต่างๆ ได้ผ่านแอป Nothing X รวมถึงการทำงานร่วมกับ ChatGPT สำหรับฟีเจอร์สั่งการด้วยเสียง อย่างไรก็ตาม รุ่นเหล่านี้จะต่างจากซีรีส์ Buds Pro โดยจะไม่มีตัวควบคุม Smart Dial บนเคส

ราคาและการวางจำหน่าย

ราคาจำหน่ายอินเดีย

CMF Buds 2a และ CMF Buds 2 มีตัวเลือกสีคือ สีเทาเข้ม, เทาอ่อน และสีส้ม ในขณะที่ CMF Buds 2 Plus มีตัวเลือกสี คือ สีน้ำเงิน และสีเทาอ่อน โดยมีวางจำหน่ายแล้วในอินเดียผ่านทาง Flipkart และร้านค้าพาร์ตเนอร์ โดยมีราคาดังนี้

• CMF Buds 2a ราคา 2,199 รูปี
• CMF Buds 2 ราคา 2,699 รูปี
• CMF Buds 2 Plus ราคา 3,299 รูปี

ราคาจำหน่ายในไทย

และสำหรับในประเทศไทย มีข่าวว่าจะพร้อมวางจำหน่ายในประเทศไทยอย่างเป็นทางการ ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมนี้ โดยจะนำเข้ามาจำหน่าย 2 รุ่น ประกอบด้วย

• CMF Buds 2 ราคา 1,899 บาท
• CMF Buds 2a ราคา 1,499 บาท

ที่มา nothing.tech