นักเพาะกายในตำนาน เปิดมื้ออาหารสุดโหด กินไข่เดือนละ 500 ฟอง ภาพล่าสุดวัยเกษียณ เลิกแข่งมาแล้ว 20 ปี
ในวงการกีฬาของเวียดนาม คงไม่มีใครไม่รู้จักตำนานนักเพาะกาย ลี ดัค (Lý Đức) ผู้ได้รับการขนานนามว่าเป็น "นักกล้ามทองคำ" ของเวียดนาม เขาเกิดในปี 1965 และกลายเป็นสัญลักษณ์แห่งความพยายามและจิตวิญญาณที่ไม่ยอมแพ้ในวงการเพาะกาย
เพื่อให้มีรูปร่างที่สมบูรณ์แบบสำหรับการแข่งขันทั้งในระดับภูมิภาคและระดับโลก ลี ดัค ต้องปฏิบัติตาม ระบบโภชนาการที่เข้มงวด
การกินจนถึงจุดที่ "หวาดกลัว"
สำหรับนักกีฬาอาชีพ การกินไม่ได้เป็นเพียงแค่เรื่องของความต้องการส่วนตัว แต่ถือเป็นส่วนหนึ่งของหน้าที่ ลี ดัค เคยเปิดเผยว่า ในช่วงที่เขาอยู่ในจุดสูงสุดของอาชีพนักกีฬา เขาต้องรับประทานวันละ 6-7 มื้อ จนถึงขั้น คิดว่าการกินเป็นเรื่องที่น่ากลัว
นักเพาะกายชื่อดังของเวียดนามต้องใช้เวลากว่า 2 ปี กว่าจะปรับตัวให้เข้ากับรูปแบบการกินเช่นนี้ โดยในแต่ละวันเขาต้องรับประทานอาหารในปริมาณมหาศาล ได้แก่
- เนื้อวัว 300 กรัม
- เนื้อไก่ 1 กิโลกรัม
- ไข่ขาว 20 ฟอง (บางครั้งกินไข่แดงด้วย)
- แอปเปิล 1 กิโลกรัม
- กล้วย 2 กิโลกรัม
- นมสด 1-2 ลิตร พร้อมเนยและโยเกิร์ต 80-100 กรัม
โดยต้องแบ่งมื้ออาหารออกเป็นช่วงละ 2-3 ชั่วโมง เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างต่อเนื่อง
การรับประทานอาหารในปริมาณมากเป็นสิ่งสำคัญสำหรับนักเพาะกาย เพราะหากกินไม่เพียงพอ กล้ามเนื้อจะไม่พัฒนา เท่ากับว่า 1 เดือนต้องกินไข่ไม่ต่ำกว่า 500 ฟอง นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมวงการเพาะกายถึงคัดเลือกคนเข้ามาได้ยาก แต่หากใครมีความมุ่งมั่น ก็จะสามารถไปถึงจุดสูงสุดได้
ลี ดัค เคยพูดติดตลกว่า "สิ่งที่นักเพาะกายกลัวที่สุด คือการไม่ได้กิน" เพราะหากไม่ได้รับประทานอาหารให้เพียงพอ พวกเขาจะรู้สึกหิวอย่างมาก
20 ปีแห่งความทุ่มเท และความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่
ตลอด 20 ปีที่อุทิศให้กับวงการเพาะกาย ลี ดัค ได้ทุ่มเททั้งแรงกายและแรงใจเพื่อสร้างชื่อเสียงให้กับวงการกีฬาเวียดนาม
ในช่วงที่อยู่ในจุดสูงสุดของอาชีพ เขาสามารถคว้าแชมป์ระดับเอเชียติดต่อกันถึง 5 ปี รวมถึง 4 เหรียญทองซีเกมส์, เหรียญทองเอเชียนเกมส์ (ASIAD) และติดอันดับที่ 4 ของโลกในปี 1999 นอกจากนี้ ลี ดัค ยังได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในตำนานเพาะกายของเอเชีย เทียบเคียงกับนักเพาะกายชื่อดังอย่าง ฮวัง ชอลซุน (Hwang Chul Soon) และ อัล ฮัดดาด (Al Haddad)
ชีวิตปัจจุบันของ ลี ดัค
หลังจากเลิกแข่งขันเป็นเวลาเกือบ 20 ปี ปัจจุบัน ลี ดัค ทำงานเป็น ที่ปรึกษาให้กับสถาบันฝึกสอนเทรนเนอร์ส่วนตัว (PT), บริหารฟิตเนส และยังคงดูแลรูปร่างอย่างสม่ำเสมอ
ทุกวันเขายังคงฝึกยกน้ำหนักประมาณ 1 ชั่วโมง ด้วยระดับน้ำหนักที่ไม่หนักมาก ปัจจุบันเขายังคงรักษาน้ำหนักตัวที่ประมาณ 86 กิโลกรัม (ส่วนสูง 1.74 เมตร) ซึ่งไม่แตกต่างจากสมัยที่ยังแข่งขันอยู่
นอกเหนือจากเรื่องกีฬา ลี ดัค ยังมีชีวิตครอบครัวที่อบอุ่นกับภรรยา บั๊ก ไม (Bạch Mai) ทั้งคู่มีลูกด้วยกันสองคน ชายหญิง ซึ่งกำลังศึกษาอยู่ต่างประเทศ
หลังจากลูกๆ โตขึ้น ลี ดัค ก็มีเวลาให้ตัวเองและภรรยามากขึ้น เมื่อมีเวลาว่าง เขามักจะไปนั่งร้านกาแฟหรือไปซื้อของที่ซูเปอร์มาร์เก็ตกับภรรยา นอกจากนี้ หลังจากเลิกแข่งขัน เขายังมีงานอดิเรกคือการปลูกต้นไม้ ซึ่งช่วยให้เขารู้สึกผ่อนคลายและมีความสุขกับชีวิตมากขึ้น