หลายคนสงสัย ควรเปิดแอร์ล่วงหน้านานแค่ไหน ห้องถึงจะเย็นพอใช้งานได้ทันที? ผู้เชี่ยวชาญมาเฉลย ต้องเปิดก่อนกี่นาที
แม้จะใช้เครื่องปรับอากาศมานาน แต่ไม่ใช่ทุกคนที่รู้วิธีใช้งานอย่างถูกต้อง
เมื่อฤดูร้อนมาถึง ความต้องการใช้แอร์เพื่อคลายร้อนก็พุ่งสูงขึ้น โดยเฉพาะในวันที่อากาศร้อนจัด หลายคนอยากกลับถึงบ้านแล้วได้เข้าไปอยู่ในห้องที่เย็นสบายทันที แต่หากไม่ได้เปิดแอร์ไว้ล่วงหน้า สิ่งนี้ก็เป็นไปไม่ได้
จากคำอธิบายของผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่าย แอร์จำเป็นต้องใช้เวลาทำงานสักระยะหนึ่งก่อนที่อุณหภูมิจะเย็นลงจริง เมื่อตั้งค่าเปิดเครื่อง มวลสารทำความเย็นจะเริ่มไหลเวียน ถูกส่งเข้าสู่เครื่องอัด จากนั้นจึงค่อย ๆ กลายเป็นลมเย็นผ่านชุดทำความเย็น แล้วกระจายออกไปทั่วห้อง
เพื่อให้ความเย็นกระจายทั่วทั้งห้อง ก็ต้องใช้เวลาอยู่พอสมควร นั่นจึงทำให้หลายคนสงสัยว่า ควรเปิดแอร์ล่วงหน้านานแค่ไหน ห้องถึงจะเย็นพอใช้งานได้ทันที?
คำอธิบายจากผู้เชี่ยวชาญ
ตามการวิเคราะห์ของการไฟฟ้าเวียดนาม (EVN) ระบุว่า เมื่อเปิดแอร์ใหม่ ๆ เครื่องจะทำงานต่อเนื่องประมาณ 15 – 30 นาที เพื่อปรับอุณหภูมิห้องให้เย็นลงถึงระดับที่ตั้งไว้ ซึ่งในความเป็นจริง เวลาในการทำความเย็นจะขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น สภาพอากาศ อุณหภูมิภายนอก และขนาดพื้นที่ห้อง
EVN เน้นย้ำว่า ในวันที่อากาศร้อนจัด หรือแอร์มีขนาดเล็กและทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพ เวลาในการทำความเย็นอาจนานถึง 40 นาที และเมื่ออุณหภูมิในห้องถึงจุดที่ตั้งไว้แล้ว แอร์ก็จะรักษาระดับความเย็นนั้นไว้ได้อย่างต่อเนื่องตลอดหลายชั่วโมง
จากข้อมูลข้างต้น หากต้องการกลับเข้าบ้านแล้วเจอห้องที่เย็นทั่วถึงและเย็นฉ่ำ ควรเปิดแอร์ล่วงหน้าอย่างน้อย 15–40 นาที โดยในช่วงเริ่มต้นสามารถตั้งอุณหภูมิไว้ที่ 23–25 องศาเซลเซียส และเมื่อเครื่องทำงานได้อย่างมีเสถียรภาพแล้ว ควรรักษาระดับความเย็นไว้ที่ 25–27 องศา เพื่อให้เหมาะสมกับสุขภาพ ประหยัดพลังงาน และลดความเสี่ยงที่เครื่องจะทำงานหนักเกินไป
หลายคนมักจะเปิดแอร์เพียง 5–10 นาทีก่อนใช้งาน ซึ่งในความเป็นจริง เวลาดังกล่าวยังไม่เพียงพอที่จะทำให้ห้องเย็นทั่วถึง
แล้วควรปิดแอร์เมื่อห้องเย็นแล้วหรือไม่?
ผู้ใช้จำนวนไม่น้อยสงสัยว่า หากห้องเย็นแล้ว ควรปิดแอร์เพื่อประหยัดไฟหรือไม่? แม้การเปิด–ปิดแอร์จะขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการใช้งานของแต่ละคน แต่ EVN ได้เตือนว่า หากปิดแอร์เมื่อห้องเย็น แล้วกลับมาเปิดใหม่เมื่อเริ่มร้อนอีกครั้ง วิธีนี้ไม่เพียงไม่ช่วยประหยัดไฟ แต่ยังอาจทำให้สิ้นเปลืองมากกว่า
เนื่องจากตอนเริ่มเปิดเครื่อง แอร์ต้องทำงานด้วยกำลังไฟสูงถึง 3 เท่าของการทำงานปกติ เพื่อทำให้ห้องกลับมาเย็นในเวลารวดเร็ว ดังนั้นการเปิด–ปิดบ่อย ๆ อาจส่งผลเสียต่อเครื่องและเพิ่มการใช้พลังงานในภาพรวม
เมื่อผู้ใช้ปิดแอร์แล้วเปิดใหม่ในเวลาสั้น ๆ โดยไม่ตั้งใจ จะทำให้เครื่องต้องเริ่มต้นการทำงานใหม่หลายครั้งติดต่อกัน ส่งผลให้แอร์ต้องทำงานที่กำลังสูงอยู่ตลอดเวลา ซึ่งยิ่งเปลืองพลังงานมากขึ้นไปอีก
ดังนั้นหากต้องการประหยัดไฟในการใช้แอร์ ควรหลีกเลี่ยงการเปิด–ปิดเครื่องบ่อยครั้ง และหันมาใช้วิธีอื่นที่มีประสิทธิภาพมากกว่า EVN ยังแนะนำเพิ่มเติมว่า ก่อนออกจากห้องหรือบ้าน ควรปิดแอร์ล่วงหน้าราว 15–30 นาที
วิธีประหยัดไฟจากการใช้แอร์
ต่อไปนี้เป็นวิธีการบางประการที่ EVN นำเสนอเพื่อช่วยให้ผู้ใช้สามารถใช้เครื่องปรับอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพและประหยัด
1. ใช้ฟังก์ชันตั้งเวลาปิดเครื่อง
แอร์รุ่นใหม่ส่วนใหญ่มักมีฟังก์ชันตั้งเวลาปิดเครื่องอัตโนมัติ และโหมดนอน (Sleep mode) ติดมาในตัว แต่ผู้ใช้หลายคนกลับมองข้ามความสามารถนี้ ทั้งที่เป็นหนึ่งในวิธีง่าย ๆ ที่ช่วยประหยัดไฟได้จริง
การตั้งเวลาให้แอร์ปิดเองในช่วงกลางคืน เมื่ออุณหภูมิภายนอกลดลง ไม่เพียงช่วยให้หลับสนิทและสบายขึ้น แต่ยังลดความเสี่ยงต่อการหนาวเกินไปในยามค่ำคืน ที่สำคัญ การตั้งเวลายังช่วยประหยัดพลังงานได้อย่างมีนัยสำคัญ เพราะโดยเฉลี่ยแล้ว แอร์ 1 เครื่องสามารถกินไฟได้ราว 1 หน่วย (kWh) ต่อชั่วโมง
2. ใช้พัดลมเล็กช่วยกระจายลมเย็น
ในห้องที่เปิดแอร์ ควรมีพัดลมขนาดเล็กช่วยให้ลมเย็นหมุนเวียนทั่วทั้งห้อง วิธีนี้จะช่วยให้รู้สึกเย็นสบายขึ้นแม้จะไม่ได้ตั้งอุณหภูมิต่ำมาก เช่น จากเดิมตั้งไว้ที่ 25 องศาเซลเซียส อาจปรับขึ้นเป็น 28 องศา แล้วเปิดพัดลมเบา ๆ เพื่อประหยัดไฟและยังคงความสบาย
นอกจากนี้ หากต้องการให้แอร์ทำงานได้ดีและใช้งานได้นาน ไม่ควรเปิดแอร์ตลอดทั้งวัน ควรหมั่นดูแลรักษาและล้างเครื่องตามรอบอย่างน้อยทุก 6 เดือน เพื่อป้องกันการสะสมของฝุ่น ซึ่งอาจขัดขวางการไหลเวียนของลมและลดประสิทธิภาพการทำความเย็นของเครื่อง